รวมไว้ที่นี่! วิธีแก้วิงเวียนจากบ้านหมุน สังเกตอาการ ก่อนเสี่ยงอันตราย
อาการปวดหัวและเวียนหัว เป็นอาการที่หลายคนคุ้นเคยกันดีและอาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งจากสาเหตุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนักเกินไป ความเครียดสะสม หรือแม้กระทั่งสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อสุขภาพนัก การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวและเวียนหัว รวมถึงวิธีแก้วิงเวียนจากบ้านหมุนและหลีกเลี่ยงอาการเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยต้องให้ความสนใจ หากเกิดอาการขึ้นจะปฏิบัติอย่างไรได้บ้าง ตามมาอ่านกันเลย
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้เลยนะ
2. เวียนหัวบ้านหมุน เกิดจากอะไร
3. วิธีปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการเวียนหัว ปวดหัวบ้านหมุน
1. วิงเวียนบ้านหมุน คืออะไร
อาการปวดหัววิงเวียนบ้านหมุน หรือเวียนหัวบ้านหมุน คืออาการที่รู้สึกว่าร่างกายเคลื่อนไหวผิดปกติ หรือรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมดูสั่นคลอน เอียง หมุน เดินเซ เหมือนอยู่บนเรือที่โคลงเคลงตลอดเวลา แม้ว่าจะยืนอยู่บนพื้นราบ แล้วมีอาการเหล่านี้จนทำให้ไม่สามารถทรงตัวหรือเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ปกติ และอาจมีอาการความดันโลหิตสูง คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวศีรษะหรือก้ม-เงยหน้า
เมื่อเกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุน หากไม่ใช่กรณีรุนแรง การได้นอนนิ่ง ๆ อาจช่วยบรรเทาได้ แต่ในบางกรณีที่นอนพัก ทานยาตามอาการ และปรับพฤติกรรมเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ทุเลาลง ควรมีการปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม เนื่องจากสาเหตุของการปวดหัว/เวียนหัวบ้านหมุนนั้นมีหลายประการ บางอย่างอาจเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้
2. เวียนหัวบ้านหมุน เกิดจากอะไร
หากถามว่าอาการเวียนหัวบ้านหมุน เกิดจากอะไร จริง ๆ แล้ว มีหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการนี้ขึ้น โดยจะมาจากการทำงานผิดปกติของระบบอวัยวะบางส่วนในร่างกาย หรือเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง ดังต่อไปนี้
เวียนหัวบ้านหมุนจากโรคเกี่ยวกับหู
อาการดังกล่าวอาจมีสาเหตุจากส่วนต่าง ๆ ของหู ดังต่อไปนี้
ปัญหาที่หูชั้นนอก
อาการเวียนหัวบ้านหมุนจากปัญหาที่เกิดกับหูชั้นนอก เช่น ขี้หูอุดตัน, กระดูกหูหัก หรือหูชั้นนอกอักเสบจากเชื้อไวรัส หากมีประวัติหูชั้นกลางอักเสบมาก่อน อาจเสี่ยงอาการลุกลามเข้าสู่หูชั้นในซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นสูญเสียการได้ยิน
ปัญหาที่หูชั้นกลาง
อาการเวียนหัวบ้านหมุน หูอื้อ จากปัญหาที่เกิดกับหูชั้นกลาง เช่น หูชั้นกลางอักเสบ, เลือดคั่งในหูชั้นกลาง, เนื้องอกที่โพรงหลังจมูก ซึ่งอาการที่เกิดกับหูในส่วนนี้จะค่อนข้างอันตราย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
ปัญหาที่หูชั้นใน
อาการเวียนหัวบ้านหมุนจากปัญหาที่เกิดกับหูชั้นใน เช่น โรคน้ำในหูชั้นใน, หูชั้นในอักเสบ, เส้นประสาททรงตัวในหูอักเสบ, เนื้องอกที่เส้นประสาทการทรงตัว-เส้นประสาทการได้ยิน สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการวิงเวียนบ้านหมุน จนสูญเสียการทรงตัว และนอนพักก็ยังไม่หาย หากพบว่ามีอาการลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าหูชั้นในของคุณกำลังมีปัญหา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว
เวียนหัวบ้านหมุนจากโรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท
ระบบประสาท เป็นอีกหนึ่งระบบสำคัญที่ส่งผลกับการควบคุมการทรงตัวของร่างกาย หากคุณมีอาการเวียนหัวบ้านหมุน อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติเหล่านี้ได้
- โรคระบบประสาทส่วนกลาง ส่วนมากพบในสมองส่วน Cerebellum
- ระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม
- ระบบประสาทติดเชื้อ
เวียนหัวบ้านหมุนจากปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อันเนื่องมาจากกรรมพันธุ์, พฤติกรรมการใช้ชีวิต, โรคภัยไข้เจ็บ หรือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยแล้วส่งผลกระทบให้เกิดอาการปวดหัวและเวียนหัวบ้านหมุน เช่น
- โรคเลือดจาง และโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
- โรคกระดูกต้นคอเสื่อม
- โรคภูมิแพ้
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง
- โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
- โรคไต
- โรคเบาหวาน
- ภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
- โรคประจำตัวที่มีอาการเรื้อรัง
3. วิธีปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการเวียนหัว ปวดหัวบ้านหมุน
หากคุณรู้สึกเวียนหัว หรือปวดหัวบ้านหมุน แอดขอแนะนำวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้น เพื่อบรรเทาอาการ ตามแนวทางดังต่อไปนี้
อยู่กับที่ เคลื่อนไหวให้น้อย
เบื้องต้นเมื่อมีอาการวิงเวียนให้หยุดอยู่กับที่ก่อน หากอยู่ที่บ้านให้นอนพักและเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด หากเกิดขึ้นขณะที่อยู่นอกบ้าน แนะนำให้หาที่ยึดเกาะและจับไว้เพื่อประคองตัว หรือหาที่นั่งนิ่ง ๆ ให้อาการเวียนหัวบรรเทาลง จึงค่อยขยับร่างกาย หากเกิดอาการขณะขับรถหรือทำงานในพื้นที่เสี่ยง (เช่น บนที่สูง, กับเครื่องจักร) ให้หยุดและหาพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนั่งพัก
พื้นที่ที่เหมาะสำหรับการนั่งพัก, นอนพัก เมื่อมีอาการเวียนหัว ปวดหัวบ้านหมุน คือพื้นที่ที่เงียบและแสงรบกวนน้อย เพื่อลดสิ่งรบกวนขณะนั่ง-นอนพักนั่นเอง
ระมัดระวังเมื่อต้องขยับตัว
เมื่อต้องขยับตัวหรือเคลื่อนไหวเพื่อไปทำกิจกรรมใด ๆ แนะนำให้เคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวัง ลุกขึ้นยืนและเดินช้า ๆ ค่อย ๆ หาที่จับเพื่อประคองตัวไปเรื่อย ๆ หรือใช้ไม้เท้าช่วยพยุง หลีกเลี่ยงการก้มตัวมาก ๆ หรือการยกของหนัก เพื่อป้องกันการเสียหลักและล้ม รวมทั้งหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องขยับศีรษะมากจนเกินไป
สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ลดความเครียด
การผ่อนคลายความเครียด และสร้างบรรยากาศให้มีความสุข ทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดลงได้ และยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเวียนหัวบ้านหมุนให้ลดลง เพราะความเครียด เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการขึ้น
วิธีการผ่อนคลายความเครียดทำได้ง่าย ๆ เริ่มจากการฝึกนั่งสมาธิ ผ่อนลมหายใจ และสร้างบรรยากาศที่ดีด้วยสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม สูดดมแล้วรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย เช่น เลมอน, ลาเวนเดอร์, เปปเปอร์มินต์ และขิง
นอกจากนี้ การบริหารร่างกายด้วยการออกกำลังเบา ๆ ไม่กระทบศีรษะมาก เช่น การยืดหยุ่นร่างกาย การเล่นโยคะ หรือการไปทำกายภาพบำบัด ก็มีส่วนช่วยให้อาการดีขึ้นอีกด้วย
พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยหลาย ๆ โรค รวมทั้งอาการเวียนหัวบ้านหมุนนี้ด้วย เพราะการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะระบบประสาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งระบบสำคัญในร่างกาย และยังสอดคล้องกับอาการเวียนหัวบ้านหมุนอีกด้วย
หากรู้สึกอ่อนเพลียระหว่างวัน แนะนำให้หาที่พักงีบหลับหรือนั่งพักนิ่ง ๆ ในช่วงเวลา 15 - 30 นาที อาจช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น แต่การนอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ และนอนหลับให้เพียงพอ ย่อมดีกว่า
ปรับเปลี่ยนการทานอาหาร
อาหาร ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจไปกระตุ้นให้อาการหนักขึ้นได้ ในขณะเดียวกัน หากเลือกทานอาหารอย่างเหมาะสม ก็มีส่วนช่วยให้อาการค่อย ๆ ดีขึ้นได้เช่นกัน สำหรับคนที่มีข้อสงสัยว่า เวียนหัวบ้านหมุนกินอะไรดี แอดแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนการทานอาหารตามนี้ได้เลย
- ลดการทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมาก
- ลดการทานอาหารเค็มจัด หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง
- เลี่ยงอาหารหมักดอง หรืออาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก โยเกิร์ต ชีส ผัก-ผลไม้ดอง และอาหารที่ม
- ส่วนประกอบของสารไทรามีน (Tyramine)
- ทานอาหารที่มีส่วนผสมของแปะก๊วย หรือชาแปะก๊วย เป็นพืชที่ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต
- ทานอาหารที่มีแคลเซียม และวิตามินดี
- หากต้องการทานอาหารเสริม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
- ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอตามปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน (6 - 8 แก้ว)
หากจะกล่าวถึงปัจจัยที่ส่งผลกับการมีสุขภาพที่ดี การจัดการกับความเครียดและการดูแลจิตใจให้สงบก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจิตใจที่ดีส่งผลให้ร่างกายมีความแข็งแรงไปด้วย เมื่อเราสามารถดูแลทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมทั้งอาการวิงเวียนบ้านหมุน และทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความสุขมากขึ้น
อีกหนึ่งทางเลือกช่วยดูแลทั้งสุขภาพกายและใจ ด้วยความคุ้มครองดี ๆ ที่วางใจได้ กับ ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และสบายใจในทุก ๆ วัน
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา สืบค้น ณ วันที่ 03/03/2568