Trick or Treat กิจกรรมวันฮาโลวีนในคืนผีดุ กับสิ่งที่ห้ามทำ
เทศกาลแห่งความหลอน อย่างวันฮาโลวีน 2567 วนกลับมาอีกแล้ว ซึ่งจะตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศแถบตะวันตก ผู้คนจะเฉลิมฉลองด้วยการแต่งกายเป็นผี ปีศาจ หรือตัวละครที่น่ากลัว ตกแต่งบ้านให้ดูน่าขนลุก และกิจกรรมวันฮาโลวีน ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างเช่น trick or treat การเล่นบ้านผีสิง จับกลุ่มกันเล่าเรื่องผี หรือรับชมหนังผี/หนังสยองขวัญ เพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับความหลอนนั่นเอง แต่ในความหลอนก็ยังมีความเชื่อต้องห้ามสำคัญอยู่ อย่างเช่น ห้ามทำอะไรในวันฮาโลวีน ต้นกำเนิดวันฮาโลวีน ตำนานของตะเกียงฟักทอง สัญลักษณ์สุดสยองของวันฮาโลวีน หลากหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ ตามมาดูกันเลย
1. ที่มาและจุดเริ่มต้นเทศกาลวันฮาโลวีน
2. ความเชื่อเกี่ยวกับวันฮาโลวีน
1. ที่มาและจุดเริ่มต้นเทศกาลวันฮาโลวีน
วันฮาโลวีน หรือ Halloween ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบันนั้น มีรากเหง้ามาจากประเพณีโบราณที่สืบทอดกันมานานหลายศตวรรษ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากเทศกาล Samhain ของชาวเคลต์โบราณ ซึ่งเชื่อว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และเป็นวันเริ่มต้นของปีใหม่ โดยชาวเคลต์เชื่อว่าในคืนนี้ พรมแดนระหว่างโลกของคนเป็นกับโลกของวิญญาณจะเชื่อมกันได้ จนทำให้วิญญาณสามารถกลับมาเยี่ยมเยียนโลกมนุษย์ได้
เทศกาล Samhain ของชาวเคลต์
เทศกาล Samhain ของชาวเคลต์เป็นรากฐานสำคัญของวันฮาโลวีน แม้ว่ารายละเอียดของประเพณีจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ความเชื่อเรื่องการเชื่อมต่อระหว่างโลกของคนเป็น และโลกวิญญาณในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของเทศกาลนี้ ซึ่งมีความเชื่อกันว่า
- วันสิ้นสุดของฤดูกาล ชาวเคลต์เชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อนและเป็นวันเริ่มต้นของฤดูหนาว หรือที่เรียกว่าวันปีใหม่ของชาวเคลต์
- โลกของคนเป็นและคนตายใกล้ชิดกัน ในคืน Samhain ชาวเคลต์เชื่อว่าพรมแดนระหว่างโลกของคนเป็นและโลกของวิญญาณจะเบลอเลือน ทำให้วิญญาณของบรรพบุรุษสามารถกลับมาเยี่ยมเยียนโลกมนุษย์ได้
- การเฉลิมฉลองและการป้องกัน เพื่อเป็นการต้อนรับวิญญาณบรรพบุรุษ และป้องกันไม่ให้วิญญาณร้ายเข้ามาสร้างความเดือดร้อน ชาวเคลต์จึงจัดงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ เช่น การจุดไฟ การสวมหน้ากาก และการแต่งกายเลียนแบบวิญญาณ
วันฮาโลวีนกับการผสมผสานกับวัฒนธรรมอื่น ๆ
เมื่อชาวโรมันเข้ามายึดครองดินแดนของชาวเคลต์ เทศกาล Samhain ก็ค่อย ๆ ผสมผสานเข้ากับเทศกาลของชาวโรมันที่ชื่อว่า Feralia ซึ่งเป็นเทศกาลรำลึกถึงผู้ตาย และเทศกาล Pomona เทพีแห่งผลไม้และสวน เมื่อศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในยุโรป เทศกาล Samhain ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น All Saints' Day หรือ วันนักบุญทั้งหมด ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน และ All Souls' Day ซึ่งตรงกับวันที่ 2 พฤศจิกายน เพื่อเป็นการระลึกถึงวิญญาณของผู้ศักดิ์สิทธิ์และผู้ตาย ส่วนวันฮาโลวีนที่เราฉลองกันในปัจจุบันนั้น เป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อ และประเพณีของหลายวัฒนธรรม ทั้งชาวเคลต์ ชาวโรมัน และศาสนาคริสต์ ทำให้เกิดเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความหลอนในเวลาเดียวกัน
2. ความเชื่อเกี่ยวกับวันฮาโลวีน
สำหรับความเชื่อของวันฮาโลวีน ที่ทุกคนจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเกี่ยวกับโลกแห่งวิญญาณ ซึ่งมีทั้งความน่ากลัว ความลึกลับ ความสยองขวัญ โดยสิ่งเหล่านี้มักตามมากับความเชื่อที่เป็นตำนาน ได้เล่าขานกันมาช้านานตั้งแต่โบราณ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- วิญญาณ ชาวเคลต์เชื่อว่าในคืนวันฮาโลวีน วิญญาณของผู้ตายจะกลับมาเยี่ยมเยียนโลกมนุษย์
- ฟักทอง ฟักทองแกะสลักเป็นสัญลักษณ์ของแจ็ค โอ'แลนเทิร์น ซึ่งเป็นตำนานเกี่ยวกับชายคนหนึ่ง ที่หลอกล่อซาตานและต้องแบกตะเกียงฟักทองเร่ร่อนไปตลอดกาล
- แม่มด เป็นสัญลักษณ์ของเวทมนตร์คาถาและความชั่วร้าย มักจะถูกเชื่อมโยงกับวันฮาโลวีน
- แมวดำ แมวดำถูกมองว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด และเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้ายในบางวัฒนธรรม
ตำนานตะเกียงฟักทอง แจ็ค โอ' แลนเทิร์น สัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน
ตะเกียงฟักทอง หรือ แจ็ค โอ' แลนเทิร์น (Jack-o'-lantern) เป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในวันฮาโลวีน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าที่มาของตะเกียงฟักทองนั้น มีเรื่องราวที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับตำนานเก่าแก่
ตำนานของแจ็ค
เรื่องราวของตะเกียงฟักทองนั้น เริ่มต้นจากตำนานของ แจ็ค ชายชาวไอริชที่เจ้าเล่ห์ เขาเคยหลอกล่อซาตานให้ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วจึงแกะสลักไม้กางเขนบนเปลือกต้นไม้ ทำให้ซาตานติดอยู่บนต้นไม้ไม่ได้ จนกว่าจะสัญญาว่า จะไม่นำวิญญาณของแจ็คไปนรก เมื่อแจ็คตายไป ทั้งสวรรค์และนรกก็ไม่ยอมรับวิญญาณของเขา จึงทำให้แจ็คต้องเร่ร่อนไปในความมืดตลอดกาล
ซาตานด้วยความแค้นใจ จึงให้ถ่านไฟก้อนหนึ่งแก่แจ็ค เพื่อให้แจ็คได้ใช้ส่องทางในความมืด แต่แจ็คก็ใช้ความเจ้าเล่ห์อีกครั้ง โดยนำถ่านไฟใส่ไว้ในหัวผักกาด เพื่อให้ถ่านไฟติดทนอยู่ได้นาน ๆ จากเรื่องราวของแจ็ค จึงกลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาว่า ในคืนวันฮาโลวีน วิญญาณของแจ็คจะเร่ร่อนไปพร้อมกับตะเกียงฟักทอง เพื่อส่องแสงนำทางในความมืด และเพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายอื่น ๆ เข้าใกล้
ทำไมต้องเป็นฟักทอง?
ในอดีต ชาวไอริชนิยมใช้หัวผักกาดในการทำตะเกียง แต่เมื่อชาวไอริชอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกาเหนือ พวกเขาก็พบว่าฟักทองเป็นพืชที่หาได้ง่ายกว่า จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน และด้วยรูปร่างของฟักทองที่กลมและเนื้อหนา ทำให้สามารถแกะสลักเป็นรูปหน้าต่าง ๆ ได้อย่างสวยงาม
ความหมายของตะเกียงฟักทอง
- สัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน ตะเกียงฟักทองกลายเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในวันฮาโลวีน แทนความเชื่อเรื่องวิญญาณและสิ่งลี้ลับ
- การป้องกันสิ่งชั่วร้าย เชื่อกันว่าตะเกียงฟักทอง จะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายและวิญญาณร้ายต่าง ๆ
- การระลึกถึงบรรพบุรุษ ในบางวัฒนธรรม ตะเกียงฟักทอง ยังเป็นสัญลักษณ์ของการระลึก ถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
3. ห้ามทำอะไรในวันฮาโลวีน
แม้ว่าวันฮาโลวีนจะเป็นเทศกาลที่สนุกสนาน แต่ก็มีบางสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยและความเคารพผู้อื่น ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรทำในวันฮาโลวีน มีดังนี้
- แต่งกายล้อเลียนศาสนาหรือวัฒนธรรมอื่น การแต่งกายที่ล้อเลียนศาสนา หรือวัฒนธรรมอื่น ๆ ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ และอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งได้
- ก่อกวนหรือทำลายทรัพย์สิน การเล่นตลกที่รุนแรง หรือทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และผิดกฎหมาย
- บริโภคขนมที่ไม่รู้แหล่งที่มา ควรระวังขนมที่ได้รับจากคนที่ไม่รู้จัก อาจมีสิ่งเจือปนที่เป็นอันตรายได้
- ขับรถเร็วหรือขับรถโดยประมาท ในคืนวันฮาโลวีน มักจะมีเด็ก ๆ ออกมาเดินขอขนม ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
- เข้าไปในบ้านที่ไม่ได้รับอนุญาต การเข้าไปในบ้านที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการบุกรุกและผิดกฎหมาย
เล่นกลที่อันตราย การเล่นกลที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น เช่น การจุดพลุหรือเล่นปาหี่ ควรหลีกเลี่ยง
ที่สำคัญการฉลองวันฮาโลวีน ควรเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและปลอดภัย ควรคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นและปฏิบัติตามกฎระเบียบ
4. กิจกรรมยอดนิยมในวันฮาโลวีน
วันฮาโลวีน เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และความหลากหลายของกิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ที่วันฮาโลวีนได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งจะมีกิจกรรมยอดนิยมในวันฮาโลวีนก็มีมากมาย เช่น
- แต่งกายเป็นผี นี่คือกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลย เพราะทุกคนจะพากันแต่งกายเป็นผี สัตว์ประหลาด ตัวละครในหนังสยองขวัญ หรือตัวละครแฟนตาซีต่าง ๆ เพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้ หรือเดินขอกินขนม
- แกะสลักฟักทอง ฟักทองแกะสลักเป็นรูปหน้าผี หรือที่เรียกว่า แจ็กโอแลงเทิร์น เป็นสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีนที่ทุกบ้านต้องมี
- ปาร์ตี้ฮาโลวีน มีการจัดปาร์ตี้ฮาโลวีนหลากหลายรูปแบบ ทั้ง ปาร์ตี้เต้นรำ และปาร์ตี้ธีมต่าง ๆ เช่น ปาร์ตี้ผีดิบ ปาร์ตี้พ่อมดแม่มด เป็นต้น
- Trick or Treat กิจกรรมสุดคลาสสิกที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ คือการแต่งกายเป็นผี แล้วเดินไปตามบ้านเพื่อขอขนม โดยจะพูดว่า "Trick or Treat" (ให้ขนมหรือจะโดนแกล้ง)
- เล่าเรื่องผี การเล่าเรื่องผีหรือเรื่องราวสยองขวัญ เป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนาน และตื่นเต้นในคืนวันฮาโลวีน
- ดูหนังสยองขวัญ การนั่งดูหนังสยองขวัญกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัว ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่เข้ากับบรรยากาศของวันฮาโลวีน
- จัดบ้านให้มีบรรยากาศหลอน ๆ การตกแต่งบ้านด้วยโคมไฟฟักทอง ตุ๊กตาผี และของประดับตกแต่งอื่น ๆ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวและสนุกสนาน
- นอกจากกิจกรรมหลัก ๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น การทำอาหารและขนมที่มีธีมฮาโลวีน เช่น คุกกี้รูปผี คัพเค้กตกแต่งน่ากลัว
- การเล่นเกมที่เกี่ยวกับวันฮาโลวีน เช่น เกมหาของที่ซ่อน เกมเล่าเรื่องผี
- การจัดกิจกรรมชุมชน เช่น งานเดินขบวนคอสเพลย์ งานประกวดชุดผี
สิ่งที่สำคัญที่สุดของวันฮาโลวีน คือการได้ร่วมสนุกกับเพื่อน ๆ และครอบครัว การได้แต่งกายเป็นตัวละครที่ชอบ การได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากฟักทอง และการได้เล่าเรื่องราวสยองขวัญร่วมกัน จะทำให้วันฮาโลวีนเป็นวันที่น่าจดจำมากขึ้น
ที่มา : สืบค้น ณ วันที่11/10/67
🔖 Thai PBS
🔖 Thairath
🔖 Trueid