ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าหน้ากากเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงเวลาที่เชื้อไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะเชื้อ 2 สายพันธ์ุหลัก เดลตา และเบตา ซึ่งมีความรุนแรง เพราะสามารถติดต่อกันง่ายและรวดเร็วมาก กรมควบคุมโรคจึงได้แนะนำประชาชนเคร่งครัดในการสวมใส่แมสก์ให้ถูกวิธี เพราะบางครั้งอาจสวมใส่แล้วหลวม ไม่พอดีกับหน้า เกิดช่องว่าง ทำให้มีโอกาสในการแพร่เชื้อ หรือเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย วันนี้เราขอพามาอัปเดตวิธีการสวมใส่หน้ากากอนามัย และหน้ากากแบบไหนที่สามารถช่วยป้องกันเชื้อโรคได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
การเลือกใช้หน้ากากแบบไหนถึงสามารถช่วยป้องกันเชื้อโรคได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้เรามีคำตอบ อ้างอิงข้อมูลจาก United States Environmental Protection Agency (EPA) ซึ่งการสวมใส่หน้ากากอนามัยแต่ละแบบนั้นมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโควิด 19 ได้อย่างไร มาดูกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี จะสามารถช่วยกรองเชื้อโรคได้ประสิทธิภาพมากที่สุด และกรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลไว้ว่า สำหรับวิธีการสวมหน้ากากอนามัยที่ดี คือ การสวม 2 ชั้น แต่ต้องเป็นการ "สวมหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยเท่านั้น" จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและป้องกันเชื้อได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามที่เราควรรู้สำหรับการสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันเชื้อโควิด 19 ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนี้
อย่าลืมว่าการสวมหน้ากากผิดประเภท หรือผิดวิธี อาจทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไปใช้ได้น้อยลง และการจับหน้ากากอนามัย หรือใช้ร่วมกับผู้อื่นนั้น ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญการสวมหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหน หรือวิธีใดก็ตาม ควรสวมให้แนบชิดกับใบหน้า แก้ม คาง หรือจมูก เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงที่สุด
เพื่อช่วยลดการแพร่เชื้อจากตัวคุณไปสู่คนรอบตัว และเป็นการป้องกันการติดเชื้อในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อด้วย ดังนั้นควรสวมหน้ากากตลอดเวลา ทั้งขณะอยู่ในบ้านและนอกบ้านจึงสำคัญ และการเลือกใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง ซึ่งกรมควบคุมโรคได้วางแนวปฎิบัติไว้ดังนี้
ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อยังสูงขึ้น ซึ่งหนึ่งในตัวเลขการติดเชื้อพบว่าผู้ติดเชื้อมาจากการสัมผัสมาชิกในครอบครัว หรือเกิดกับผู้ใกล้ชิด และหากเป็นไปได้ ขอให้ทุกคนในครอบครัวสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในบ้าน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน รวมถึงสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียง
หน้ากากอนามัยใช้แล้ว ก็ต้องทิ้งให้ถูกวิธี ไม่ใช่ถอดปุ๊บทิ้งปั๊บ เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบยังมีอีกหลายคนหลังจากคุณทิ้งลงถังขยะ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่เก็บขยะ หากสัมผัสหน้ากากที่ติดเชื้อขึ้นมาก็คงไม่ดีแน่ โดยวิธีการมีดังนี้
ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทุกคน หากเราระมัดระวังในการใช้ชีวิต สวมใส่หน้ากากตลอดเวลา และปฎิบัติตัวอย่างเคร่งครัดตามมาตรการของทางภาครัฐ ก็จะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้เพิ่มความอุ่นใจให้กับการใช้ชีวิตที่เหมาะสำหรับทุกเจเนเรชัน ด้วยแผนความคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุม คุ้มครองทั้ง โรคโควิด 19 การแพ้วัคซีนโควิด 19 โรคระบาด โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เหมาจ่ายค่ารักษาตามจริง หากเจ็บป่วยขึ้นมา ก็สามารถเข้าพักรักษาได้ทุกโรงพยาบาล เลือกวงเงินความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 200,000 – 100,000,000 บาท ต้องการแบบไหนก็เลือกได้ ดูแลสุขภาพยาว ๆ สมัครได้ตั้งแต่อายุ 11 – 80 ปี จนถึงอายุ 99 ปี* เลือกประกันสุขภาพแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ คลิก หรือ โทร.1766
*สำหรับความคุ้มครองสุขภาพ อีลิท เฮลท์ และ ดีเฮลท์
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 24/08/64
🔖 กรุงเทพธุรกิจ (ข้อมูล ณ วันที่ 21/08/64)
🔖 The Standard (ข้อมูล ณ วันที่ 04/08/64)
🔖 กรุงเทพธุรกิจ (ข้อมูล ณ วันที่ 08/07/64)
🔖 Thairath (ข้อมูล ณ วันที่ 19/08/64)
🔖 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 05/08/64)
🔖สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร (ข้อมูล ณ วันที่ 01/06/64)
🔖 United States Environmental Protection Agency (EPA) (ข้อมูล ณ วันที่ 05/04/64)