ปวดหัวทุกครั้งเมื่อต้องแอดมิท! เชื่อว่าหลายคนคงเจอปัญหานี้บ่อยๆ หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วต้องเคลียร์ค่าใช้จ่าย แม้ตอนแรกจะมั่นใจว่าเอาอยู่เพราะประกันชีวิตและสุขภาพที่มีอยู่คงคุ้มครองครอบคลุม แต่เมื่อเจอใบเสร็จอาจต้องเครียดกว่าเดิมเพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเกินวงเงินความคุ้มครอง ไม่ว่าจะค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ค่าอาหาร ฯลฯ ที่งอกเงยจนน่าตกใจ สุดท้ายต้องควักเงินเก็บออกมาจ่ายเอง
หรือหากบางคนที่มีสิทธิประกันสังคม หรือจะเป็นประกันกลุ่มจากสวัสดิการของบริษัทนั้นก็สามารถใช้ความคุ้มครองได้เมื่อคุณเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ แต่หากเจ็บป่วยโรคร้ายขึ้นมาค่ารักษาก็ย่อมเพิ่มขึ้นตามการรักษาที่ซับซ้อน สวัสดิการเหล่านี้อาจมีวงเงินความคุ้มครองไม่มากพอ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ก่อนที่เราจะซื้อประกันชีวิตและสุขภาพควรศึกษาเงื่อนไขให้ชัดเจนเพื่อเลือกแผนที่ตอบโจทย์ และเหมาะกับตัวเองจริงๆ เวลาเจ็บป่วยขึ้นมาจะได้ไม่ต้องใช้เงินเก็บมาจ่ายส่วนต่าง
ซึ่งแต่ละแผนความคุ้มครองก็จะมีเงื่อนไขและวงเงินที่ต่างกันไป เช่น วงเงินการรักษาผู้ป่วยนอก (OPD) วงเงินการรักษากรณีที่ต้องแอดมิท (IPD) เป็นต้น ซึ่งวงเงินการรักษาเมื่อต้องนอนโรงพยาบาลหรือแอดมิทนี่แหละที่เราต้องพิจารณาดีๆ เพราะบางแผนประกันชีวิตและสุขภาพอาจไม่ได้เหมาจ่ายในวงเงินความคุ้มครองนั้น จึงทำให้ต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายส่วนต่างนั้นเอง
เมืองไทยประกันชีวิต เข้าใจถึงปัญหานี้ จึงขอเสนอความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ (D Health)คุ้มครองสุขภาพเหมาจ่ายในวงเงินเดียว เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะ...
√ เหมาจ่ายค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน
√ เหมาจ่ายค่ายา
√ เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล
√ เหมาจ่ายค่าผ่าตัด
√ เหมาจ่ายค่าห้อง ไอ.ซี.ยู
√ เหมาจ่ายสูงสุด 5 ล้านบาท(1)
นอกจากนี้ ยังคุ้มครอง โควิด-19 โรคร้ายทุกระยะ และโรคทั่วไป สูงสุด 5 ล้านบาท(1) จ่ายเบี้ยวันละไม่ถึง 55 บาทต่อวัน(2) ให้คุณหายปวดหัวเมื่อต้องแอดมิทไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่เกินมาอีกต่อไป
(1)กรณีเลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2)สำหรับผู้เอาประกันเพศชาย อายุ 35 ปี ชำระเบี้ยประกันรายปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
หมายเหตุ