Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

Eyes Content Desktop 1440 X390

เช็กก่อนเสี่ยง ! โรคทางสายตา ปัญหาของวัยทำงาน

เพราะแต่ละช่วงวัยจะมีปัญหาทางสายตาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะชีวิตมนุษย์ออฟฟิศอย่างเรา ๆ อาจเป็นวัยที่เริ่มต้นปัญหาทางสายตาเลยก็ว่าได้ เพราะยิ่งจ้องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือนานเท่าไหร่ ยิ่งเหนื่อยล้าทางสายตามากเท่านั้น และหลีกเลี่ยงการใช้สายตาได้ยากมาก แม้บางคนจะยังได้ work from home แต่ก็ต้องนั่งมองหน้าจอกันทุกวัน ซึ่งการมองจอแบบแทบไม่มองหน้าคนรอบข้างนี่แหละ อาจส่งผลร้ายแรงทำให้เราเป็นโรคทางเกี่ยวกับทางสายตาได้โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็มีอาการแล้ว


วันนี้ลองมาดูกันว่าชีวิตมนุษย์ออฟฟิศวัยทำงาน ถ้าหากใช้สายตามากไปจะส่งผลให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง จะได้เตรียมพร้อมป้องกัน ไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคทางสายตาต่าง ๆ ดังนี้


Eyes  Blog 1


โรคซีวีเอส (Computer Vision Syndrome)


เริ่มด้วยโรคสุดฮิตของคนติดจอ ใครที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน อาจส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาวและอาจเป็นสาเหตุของโรค Computer Vision Syndrome หรือ (CVS) ได้ ซึ่งโรคนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากการใช้สายตามองจอคอมพิวเตอร์ มือถือเป็นเวลานานเกิน 2 ชั่วโมงต่อวันอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ละสายตาไปที่อื่น ทำให้เซลล์จอประสาทตาค่อย ๆ เสื่อม ซึ่งความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ


สาเหตุ

  • แสงไม่เพียงพอ
  • ตำแหน่งของหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสม
  • เกิดจากภาวะสายตาที่ไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะสายตายาวหรือเอียง


อาการ

  • ปวดตา
  • ตาพร่ามัว มองภาพไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อน
  • ระคายเคืองตา ตาแห้ง
  • ปวดคอ ปวดหัว หรือปวดหลัง


🔖 โรงพยาบาลบางปะกอก (ข้อมูล ณ วันที่ 06/08/64)

🔖 โรงพยาบาลเวิลล์เมดิคอล


Eyes  Blog 2


โรควุ้นในตาเสื่อม


วุ้นในตาเสื่อม ทุกคนคงคิดว่าเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นกับคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบว่าวัยทำงานแบบเรานี่แหละที่ป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้น เนื่องจากมีการใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ซึ่งวุ้นในตาจะมีลักษณะเป็นเจลหนืดใสอยู่ส่วนหลังของลูกตาและติดกับจอประสาทตา หากวันไหนที่วุ้นในตาเสื่อมก็จะกลายเป็นของเหลวน้ำใส ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดจอประสาทตาหลุดลอก และทำให้เกิดโรคสายตาอื่น ๆ ตามมา


สาเหตุ

  • อายุที่เพิ่มขึ้น
  • จ้องคอมพิวเตอร์ มือถือ นานเกินไป
  • การติดเชื้อ หรือภาวะทางกายอื่น ๆ เช่น มะเร็ง เป็นต้น
  • ภาวะเลือดออกในน้ำวุ้นตา จากอุบัติเหตุหรือโรคที่ทำให้มีความผิดปกติของหลอดเลือด


อาการ

  • เห็นคล้ายเงาดำหรือหยากไย่ลอยไปมาในตา
  • เห็นแสงวาบในตา
  • เห็นเงาคล้ายม่านบังตาบางส่วน


🔖 โรงพยาบาลกรุงเทพ 

🔖 megawecare 

🔖 mattayaclinic


Eyes  Blog 3


โรคต้อหิน


โรคต้อหินถือเป็นอีกโรคหนึ่งที่สามารถพบได้ในทุกวัย โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ต้องใช้สายตาหนัก ๆ ในทุกวัน ซึ่งโรคต้อหินเป็นโรคทางสายตาที่ทำลายขั้วประสาทตาเกิดจากการที่มีความดันในลูกตาเพิ่มสูงขึ้น หากไม่รีบรักษาอาจทำให้ตาบอดได้


สาเหตุ

ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเสื่อมของร่างกายเอง หรือพบร่วมกับโรคทางตาอื่น ๆ ที่แทรกซ้อนมาจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดรักษาโรคอื่น ๆ ในดวงตา แต่ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด คือความดันในลูกตาที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะเพิ่มสูงขึ้นเองตามธรรมชาติหรือเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากยาที่ใช้ อุบัติเหตุหรือการผ่าตัด


อาการ

  • ตาแดง
  • ปวดตา
  • ปวดหัว
  • บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน


🔖 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล


Eyes  Blog 4


รคจอประสาทตาเสื่อม


มาถึงโรคฮิตติดจออีกโรคนั่นก็คือ โรคจอประสาทตาเสื่อมซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติ เกิดขึ้นในบริเวณจุดศูนย์กลางรับภาพของจอประสาทตา ส่วนใหญ่พบมากในวัย 50 ปีขึ้นไป แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับวัยทำงานเช่นกัน โรคจอประสาทตาเสื่อมจะทำให้สูญเสียการมองเห็นโดยเฉพาะภาพตรงกลาง แต่ยังสามารถมองเห็นทางด้านขอบข้างของภาพได้อยู่


สาเหตุ

สามารถเกิดได้หลายปัจจัย เช่น คนที่มีสายตาสั้นมาก ๆ หรือคนที่เป็นโรคติดเชื้อบางอย่าง รวมถึงผลกระทบจากแสงสีฟ้าของหน้าจอ แต่สาเหตุส่วนใหญ่มักพบกลุ่มคนวัยผู้สูงอายุเชื่อว่าเป็นการเสื่อมสภาพของร่างกาย หรือเรียกว่า Aging เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของโรคจอประสาทตาเสื่อม


อาการ

  • มองเห็นไม่ค่อยชัด
  • ภาพที่เห็นบิดเบี้ยว
  • เห็นสีผิดเพี้ยน
  • มีจุดดำกลางภาพ
  • มองในที่สว่างไม่ชัด แพ้แสง


🔖 โรงพยาบาลสมิติเวช (ข้อมูล ณ วันที่ 09/04/63)

🔖 โรงพยาบาลบางปะกอก (ข้อมูล ณ วันที่ 06/08/64)

🔖 โรงพยาบาลศิครินทร์


Eyes  Blog 5


หยุดพฤติกรรมทำร้ายดวงตา

รู้เกี่ยวกับโรคสายตาที่วัยทำงานแบบเราเสี่ยงกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูพฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวันกันบ้าง เพราะเราอาจเผลอทำโดยไม่รู้ตัว และก่อให้เกิดโรคทางสายตาตามมาได้


  • อาการติดจอ

เพราะแสงสีฟ้าอาจนำไปสู่การเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเราสามารถป้องกันได้โดยเลือกจอที่มีความละเอียดสูงเพื่อลดการเพ่ง ระยะห่างระหว่างหน้าจอกับหน้าเราควรอยู่ระหว่าง 20-28 นิ้ว ปรับความสว่างหน้าจอไม้ให้สว่างหรือมืดจนเกินไป ปรับคอยเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อผ่อนคลาย


  • ดื่มน้ำน้อย กินอาหารไม่มีประโยชน์

ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำน้อยจะส่งผลโดยตรงต่อความชุ่มชื้นของดวงตา ตามมาด้วยอาการตาแห้ง ตาแดง เปลือกตาบวมช้ำได้ ส่วนการกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยกินผักผลไม้ จะทำให้ขาดวิตามินซึ่งจำเป็นต่อการซ่อมแซมและดูแลดวงตาของเราได้


  • ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่

การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ อาจส่งผลต่อสุขภาพของดวงตา ทั้งต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม ม่านตาอักเสบ โรคตาแห้ง หรือแม้กระทั่งเบาหวานขึ้นตา


  • ไม่สวมแว่นกันแดด ปล่อยให้ดวงตารับสังสียูวีโดยตรง

การเดินกลางแจ้งรวมถึงการขับรถโดยไม่สวมแว่นกันแดด ทำให้ดวงตาของเราปะทะกับรังสียูวีโดยตรง ทำให้เกิดทั้งต้อลมและต้อเนื้อ ดังนั้นทุกครั้งที่ต้องออกแดดหรือเจอฝุ่นควัน ก็ควรใส่แว่นกันแดดซึ่งสามารถกรองรังสียูวีเอและยูวีบีได้


  • ไม่เคยตรวจสุขภาพตา

การตรวจสุขภาพตาถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ควรทำเป็นประจำทุกปี หรือตามที่จักษุแพทย์แนะนำ เพื่อให้รู้ถึงปัญหา ภาวะเสี่ยงของโรคตาบางชนิดที่ไม่แสดงอาการเจ็บป่วย


🔖 โรงพยาบาลพญาไท (ข้อมูล ณ วันที่ 20/05/63)


จะเห็นได้ว่าการใช้สายตาอย่างหนักและต่อเนื่อง รวมไปถึงการมีพฤติกรรมที่ทำร้ายดวงตาโดยไม่รู้ตัว อาจทำให้เราเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้ ดังนั้นเราควรหันมาใส่ใจสุขภาพทางสายตาให้มากขึ้น และควรตรวจสุขภาพตาปีละหนึ่งครั้ง รวมถึงการมีประกันสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการซื้อประกันสุขภาพตั้งแต่ตอนที่เรายังสุขภาพดี จะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ เพราะประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน หากเจ็บป่วยแล้วถึงตัดสินใจซื้อก็อาจสายไป ดังนั้นวางแผนเตรียมไว้มั่นใจกว่า


เพิ่มความอุ่นใจ กับ ‘แพ็กสุขภาพดี พลัส’ ที่จะเป็นผู้ช่วยดูแลค่าตรวจสายตา ที่มาพร้อมมีการตรวจสุขภาพประจำปี และการค่ารักษาทางทันตกรรม ที่รวมอยู่ในแพ็ก ให้คุณเลือกซื้อเพิ่มกับ ความคุ้มครองสุขภาพ อีลิท เฮลท์ พลัส (Elite Health Plus) หรือ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) ที่คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง มะเร็ง หัวใจ ไต โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ หมดกังวลทั้งค่าห้องและค่ารักษา


เลือกความคุ้มครองที่คุณต้องการ

D Health Plus คุ้มครอง 1 - 5 ล้านบาทต่อการรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง

Elite Health Plus คุ้มครอง 20 - 100 ล้านบาทต่อปี


✔️ นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาล

✔️ หากเจ็บป่วยหนัก ก็คุ้มครองค่าห้อง ICU แบบจ่ายตามจริง

✔️ สมัครได้ถึงอายุ 11 - 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ถึงอายุ 99 ปี

✔️ ซื้อความคุ้มครองเสริมพิเศษเพิ่มได้ ตรวจสุขภาพ ทำฟัน ดูแลสายตา หรือคุ้มครองคลอดบุตร

✔️ ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือนหรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%


พลัสความคุ้มครองให้แผนการเงินไม่สะดุด


รายละเอียดเพิ่มเติม 

☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต


  • สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ พลัส และ อีลิท เฮลท์ พลัส ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
  • เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

บทความน่าสนใจ