กาแฟกับสรรพคุณทางยา…ประโยชน์มากกว่าที่หลายคนรู้
หลายคนดื่ม “กาแฟ” เพราะแค่อยากรับ “คาเฟอีน” แต่หากคุณรู้ว่า กาแฟถ้วยโปรดมีสรรพคุณทางยาที่ให้คุณค่ามากกว่าความหอมกรุ่นและรสชาติอันลุ่มลึก การจิบกาแฟถ้วยต่อไปอาจมีความหมายและคงต้องใส่ใจให้มากกว่าเดิม..
ไม่ใช่เพียงแค่ปลุกสมองอันเหนื่อยล้า ดื่มกาแฟแล้วเหมือนว่าได้เบิกเนตรให้ตื่นทันตา แต่ยังมีงานวิจัยพบว่า “คาเฟอีน ใน กาแฟ” มีประโยชน์ไม่ธรรมดา อาจช่วยป้องโรคเหล่านี้ได้ เช่น ป้องกันโรคพาร์กินสัน โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเบาหวานบางชนิด โรคเก๊าท์ โรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งปอด
คาเฟอีน มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันโรคได้อย่างไร??
ยกตัวอย่างเช่น…
โรคพาร์กินสัน มีงานวิจัยพบว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนอย่างกาแฟ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคนี้ได้ โดย ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับปริมาณกาแฟที่ได้รับ เช่นในผู้ชาย การดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีน 3-4 แก้วต่อวัน พบว่าช่วยลดความเสี่ยงได้มากกว่าดื่มแค่ 1-2 แก้ว แต่ในผู้หญิงกลับมีประสิทธิภาพดีเมื่อต่อวันดื่มอยู่ที่ 1-3 แก้ว
โรคนิ่วในถุงน้ำดี เคยมีการศึกษาพบว่า คนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคนี้มาก่อนทั้งหญิงและชาย มีความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลง เมื่อได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่มากขึ้น ปริมาณที่ให้ผลป้องกันดีที่สุด คือ วันละ 4 แก้วขึ้นไป หรือประมาณ 800 มิลลิกรัม
โรคเบาหวาน ป้องกันโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ หรือไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีการทดลองในกลุ่มผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน พบว่าการดื่มกาแฟโดยไม่ใส่น้ำตาลหรือครีมเทียมอย่างน้อยวันละ 3 ครั้งต่อวัน ให้ผลดีที่สุดในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ที่สำคัญผลการวิจัยของกลุ่มทดลองในแต่ละประเทศยังต่างกันด้วย เช่นชาวญี่ปุ่น หรือ ยุโรป
ต้องการผลแบบไหน ให้ดื่มแค่นั้น...
1. อยากให้ผลของคาเฟอีน ช่วยเรื่องปวดศีรษะ แนะนำให้ดื่มกาแฟวันละประมาณ 2 แก้ว
2. อยากเพิ่มความสดชื่นตื่นตัว แนะนำให้ดื่มกาแฟวันละประมาณ 2 แก้ว
3. ช่วยป้องกันโรคพาร์กินสัน แนะนำให้ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนวันละ 3-4 แก้ว
4. ช่วยป้องกันโรคนิ่วในถุงน้ำดี แนะนำให้ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนวันละ 4 แก้ว
คอกาแฟควรรู้ อันตราย!! ถ้ากินกาแฟกินร่วมกับบางอย่าง
1. ห้ามดื่มกาแฟร่วมกับยาเอฟีดรีน (Ephedrine)หรือกลุ่มยาแก้คัดจมูก เพราะ มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท เหมือนกันกับกาแฟ รับประทานพร้อมกันอาจมีผลกับหัวใจ
2. ไม่ดื่มร่วมกับแอลกอฮอล์ เพราะจะไปกระตุ้นให้ร่างกายย่อยเร็วขึ้น จนมีสารคาเฟอีนในเลือดมากเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียงได้ สั่นกระตุก ปวดศีรษะ และหัวใจเต้นเร็ว
3. ยาอื่นๆ ที่ควร เช่น ยาอะดีโนซีน อะเลนโดรเนท โคลซาปีน ไดไพริดาโมล ไดซัลฟิแรม เอสโตรเจน ฟลูวอกซามีน เลโวไทรอกซีน ลิเทียม ยาต้านซึมเศร้ากลุ่ม MAOIs ยาต้านซึมเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก เพนโทบาร์บิทอล ฟีโนไทอาซีนทีโอฟิลลีน เวอราปามิล ยากระตุ้นระบบประสาท ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาปฏิชีวนะ
ดื่มกาแฟอย่างพอดี จึงจะมีประโยชน์กับร่างกาย และขอแนะนำให้เป็นกาแฟดำ หรือ ใส่น้ำตาลแต่น้อย ที่สำคัญกินอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้วออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนะคะ
ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล