วิธีดูแลหัวใจ ฉบับคนใจไม่แข็ง รับวาเลนไทน์
ใกล้ถึงเทศกาลแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ เชื่อว่าคนมีความรักต่างเตรียมของขวัญสำหรับเซอร์ไพรให้กับคู่รักของตัวเอง ส่วนคนโสดก็ต้องดูแลเยียวยาหัวใจกันต่อไป แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าคุณจะเป็นคนโสดหรือคนมีคู่ ก่อนมอบความรักให้กับใครอย่าลืมรักตัวเองให้มาก ๆ โดยเฉพาะการดูแลรักษาหัวใจไม่ให้พังห่างไกลโรค เพราะเราเชื่อว่า จะอกหักกี่ครั้ง ร้องไห้สักกี่หน หากหัวใจแข็งแรง ก็ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูวิธีดูแลหัวใจรับวันวาเลนไทน์กัน
เช็กปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ ที่ควบคุมได้และไม่ได้
โรคหัวใจถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากเป็น หากแต่เราสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคหัวใจ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
1. ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้
- อายุ : ปกติแล้ว ความเสี่ยงของโรคหัวใจเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น
- พันธุกรรม : ผู้มีประวัติครอบครัว พ่อแม่ หรือญาติเป็นโรคหัวใจ อาจมีความเสี่ยงที่เป็นโรคหัวใจ
- เพศ : ผู้ชายจะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจมากกว่าผู้หญิง
2. ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้
- โรคความดันโลหิตสูง : ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดมาเลี้ยงร่างกาย
- สูบบุหรี่ : เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 2-4 เท่า
- ระดับไขมันในเลือด : มีความเสี่ยงโรคหัวใจสูงขึ้น เพราะไขมันทำให้ผนังหลอดเลือดหนาตัว
- โรคเบาหวาน : เบาหวานทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ เสื่อมลง
- ไม่ออกกำลังกาย : เพราะออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจได้
- โรคอ้วน : คอเลสเตอรอลและไขมันสูงทำให้หลอดเลือดหนา หลอดเลือดแดงจึงตีบ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้น้อย
ที่มา : โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์แนชั่นแนล หนองแขม
สำรวจตรวจ เอวและหน้าท้อง
หมั่นสำรวจตรวจเอวและหน้าท้องเป็นประจำ เพราะรอบเอวมีผลต่อความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากการมีไขมันในช่องท้องมาก และโรคเหล่านี้ย่อมไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน
ดังนั้นควรเช็กเส้นรอบเอวของตัวเองว่า มีความเสี่ยงในการเกิดโรคที่กล่าวมาในเบื้องต้นหรือไม่ โดยขนาดเส้นรอบเอวหรือเส้นรอบพุง ควรไม่เกินค่าดังนี้
- เส้นรอบเอวในผู้ชายไม่ควรเกิน 36 นิ้ว (90 ซม.)
- เส้นรอบวงเอวในผู้หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้ว (80 ซม.)
สำหรับผู้ชายที่มีรอบเอวตั้งแต่ 36 นิ้ว หรือผู้หญิงที่มีรอบเอวตั้งแต่ 32 นิ้วขึ้นไป ถือว่ามีความเสี่ยง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดพุงหรือลดไขมันในช่องท้องเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ
ลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ส่งผลต่อใจ
อย่างที่ได้กล่าวไปว่าปัจจัยที่ควบคุมได้นั้นมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตล้วน ๆ ที่ส่งผลเสี่ยงให้เกิดโรคหัวใจ ซึ่งพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่มีความเสี่ยง จงปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต และหันมาใส่ใจสุขภาพกันให้มากขึ้น
- สาวกฟาสฟู้ด : ถ้าชาบู ปิ้งย่าง ของทอด ของมัน หรืออาหารจานด่วนคือของโปรด บอกเลยว่านี่คือทางด่วนยกระดับสู่โรคหัวใจอย่างแท้ทรู เพราะอาหารเหล่านี้มีทั้งไขมันสูง โซเดียมสูง และไม่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เพียงพอ
สูตรลดละเลิก : กลับมากินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ต้ม ย่าง หรือ นึ่ง ก็ได้ และเน้นอาหารที่มีกากใย อย่าง ผัก ผลไม้ แต่ขอให้หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป และฟาสฟู้ดเด็ดขาด
- สิงห์อมควัน : จะแค่วันละมวน สองมวน หรือหลายซองก็เสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ 2-4 เท่า ซึ่งการสูบบุหรี่เสี่ยงให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะมีสารทำลายล้างร่างกาย เช่น นิโคติน คาร์บอนไดออกไซด์ และไฮโดรเจนไซยาไนด์ นั่นเอง
สูตรลดละเลิก : แนะนำอย่าหักดิบไม่เช่นนั้นอาจมีความเสี่ยง ควรค่อย ๆ ปรับลดปริมาณการสูบในแต่ละวันลง พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงสถานที่และผู้คนที่มีผลกระตุ้นให้เกิดความต้องการสูบ หรือทางที่ดีปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- สายดื่ม : โดยเฉพาะสายดื่มเป็นกิจวัตรประจำวัน รู้หรือไม่ว่าแอลกอฮอล์ช่วยเพิ่มไขมันไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มความดันและน้ำตาล ทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
สูตรลดละเลิก : สำหรับนักดื่มตัวจริงอาจเลิกได้ยากในทันที แนะนำให้ลองปรับมาดื่มคู่กับน้ำเปล่า หรือดื่มให้น้อยลง และตั้งเป้าการดื่มของตัวเองให้ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระตุ้นการอยากดื่มของเรา ส่วนผู้ติดสุราเรื้อรังหากเลิกด้วยการหักดิบ ควรระวังเพราะอาจเกิดอาการถอนพิษสุราอย่างรุนแรง
- มนุษย์เครียด : ใครกำลังเครียดอยู่ งาน ชีวิต หรืออะไรก็ตามที่ส่งผลให้ชีวิตไม่ค่อยเฮฮา จมปรักอยู่กับเรื่องซ้ำ ๆ วนไป โปรดระวัง เพราะเมื่อยามที่เราเครียดร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีน ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ส่วนสารคอร์ติซอลมีผลทำให้ร่างกายผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น และตับผลิตคอเรสเตอรอลเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อหลอดเลือดหัวใจทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง
สูตรลดละเลิก : หาสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเครียด ฝึกนั่งสมาธิ ออกกำลังกาย หรือออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนและบำบัดความเครียดที่เกิดขึ้น หากยังเครียดอยู่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางรักษา
หัวใจที่แข็งแรงเริ่มขึ้นได้จากตัวเราเอง ถ้าไม่อยากให้หัวใจพบกับความเสี่ยงในการเกิดโรคที่คาดไม่ถึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต คุ้มครองโรคอุบัติใหม่ โรคเก่าที่วนกลับมาใหม่ โรคระบาด โรคร้ายแรง และโรคทั่วไป วงเงินเลือกได้ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท อายุรับประกันสูงสุด 80 ปี ดูแลต่อเนื่องยาว ๆ สูงสุดถึงอายุ 99 ปี* ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 65 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
☑️ โทร 1766
☑️ ติดต่อสาขา ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ และ ดี เฮลท์
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 03/02/65
🔖 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 24/01/52)
🔖 โรงพยาบาลพญาไท (ข้อมูล ณ วันที่ 07/04/63)
🔖 กรุงเทพธุรกิจ (ข้อมูล ณ วันที่ 24/06/62)
🔖 สสส (ข้อมูล ณ วันที่ 03/06/53)