PM2.5 วิกฤตฝุ่นจิ๋ว ภัยร้ายใกล้ตัวที่คุณต้องรู้
ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในบ้านเรายังคงมีต่อเนื่องและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด เพราะจากสถิติในปี 2567 ทั้งประเทศมีผู้ป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศกว่า 9.4 ล้านคน เพราะฝุ่น PM2.5 สามารถเข้าสู่กระแสเลือด และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่หลากหลาย ซึ่งฝุ่นขนาดเล็กจิ๋วสามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูก เข้าไปยังหลอดลมจนถึงถุงลมปอด และซึมเข้าสู่กระแสเลือดในร่างกาย ซึ่งหากสูดดมนานเข้าจะเกิดการสะสมในร่างกาย จนกลายเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ และอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เรามาดูกันว่าฝุ่น PM2.5 กระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง แล้วเป็นปัจจัยทำให้ป่วยเป็นโรคอะไรบ้าง และกลุ่มเสี่ยงไหนควรหลีกเลี่ยงอันตรายจากฝุ่นจิ๋วนี้ มาดูข้อมูลที่เรานำมาฝากกันได้เลย
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
2. ฝุ่น PM2.5 กระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
3. 4 กลุ่มเสี่ยงอันตรายจาก PM2.5
5. AQI เท่าไหร่อันตรายต่อสุขภาพ?
1. ฝุ่น PM2.5 เกิดจากอะไร
PM2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก จนสามารถล่องลอยอยู่ในอากาศได้นาน และเล็กพอที่จะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเรา ผ่านทางการหายใจได้อย่างง่ายดาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราอย่างร้ายแรง ซึ่งสาเหตุหลักของฝุ่น PM2.5 มีที่มาหลากหลาย แต่สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ได้แก่
- การเผาป่าและไฟป่า การเผาป่าเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 ปริมาณมาก โดยควันและฝุ่นจากไฟป่า จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และกระจายตัวไปในบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในวงกว้าง
- การผลิตอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเผาถ่านหินในโรงไฟฟ้า หรือการเผาขยะ โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น โรงงานเหล็ก โรงงานปูนซีเมนต์ ก็เป็นแหล่งปล่อยฝุ่น PM2.5 ในปริมาณมาก
- การทำอาหาร การหุงต้มด้วยฟืนหรือถ่าน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5
- มลพิษ ควันจากท่อไอเสียของรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซลเก่า ซึ่งการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์จะปล่อยเขม่าและฝุ่น PM2.5 ออกมาจำนวนมาก
- การเผาภาคเกษตรในที่โล่ง การเผาเศษวัสดุการเกษตร เช่น การเผาอ้อย การเผาในไร่ข้าวโพด นาข้าว และไร่หมุนเวียน การเตรียมดินเพื่อการเพาะปลูก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของฝุ่น PM2.5 ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณ PM2.5
นอกจากสาเหตุหลักแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอากาศ เช่น
- สภาพอากาศ อุณหภูมิ ความชื้น และลม มีผลต่อการกระจายตัวของฝุ่น PM2.5
- ภูมิประเทศ พื้นที่ที่มีอาคารสูง หรือพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น จะมีปริมาณฝุ่น PM2.5 สูงกว่าพื้นที่โล่งแจ้ง
- ฤดูกาล ในช่วงฤดูแล้ง หรือช่วงที่มีการเผาป่า ปริมาณฝุ่น PM2.5 มักจะสูงกว่าช่วงฤดูฝน
เช็กค่า PM2.5 ได้จากที่ไหน?
เราสามารถเช็คค่า PM2.5 ได้จากที่ไหน และค่าฝุ่น PM2.5 เป็นอย่างไรบ้าง? จะได้วางแผนกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างปลอดภัย ซึ่งสามารถเช็กได้ง่าย ๆ หลายช่องทาง ดังนี้
- แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ซึ่งมีข้อดีคือสะดวก รวดเร็ว และอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างแอป เช่น AirVisual, Air4Thai, BreezoMeter, เช็คฝุ่น (พัฒนาโดย GISTDA)
- เว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมควบคุมมลพิษ มีข้อมูลค่าฝุ่น PM2.5 ที่วัดได้จากสถานีตรวจวัดทั่วประเทศ และ กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งจะให้ข้อมูลสภาพอากาศและคุณภาพอากาศ
2. ฝุ่น PM2.5 กระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
ฝุ่น PM2.5 นั้นเล็กมาก จนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเรา ผ่านทางการหายใจได้อย่างง่ายดาย และส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายระบบของร่างกายเลย โดยผลกระทบที่พบบ่อย ได้แก่
อันตรายต่อทางเดินหายใจและปอด
PM2.5 และมลพิษในอากาศส่งผลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจและปอด ด้วยขนาดที่เล็กมาก ๆ ของ PM2.5 จึงสามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ง่ายและรวดเร็ว ส่งผลให้อาการของผู้ป่วยโรคหอบหืดกำเริบ หรือทำให้คนปกติป่วยเป็นหอบหืดได้เช่นเดียวกัน หากเราสูดดมเอาฝุ่นและมลพิษเข้าสู่ร่างกาย สะสมเป็นเวลานาน ๆ อาจเป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้
อันตรายต่อหัวใจ
การหายใจเอา PM2.5 เข้าสู่ร่างกายติดต่อระยะหนึ่ง จะส่งผลให้เกิดการตกตะกอนภายในหลอดเลือด ทำให้เกิดหัวใจวาย หลอดเลือดสมองตีบ นอกจากนี้ มลพิษทางอากาศยังมีผลต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและหัวใจวายเฉียบพลันได้
อันตรายต่อสมอง
ด้วยขนาดที่เล็กมาก ๆ ของ PM2.5 ทำให้เข้าสู่กระแสเลือดและเกิดการสะสม จนส่งผลให้เลือดมีความหนืด ความดันโลหิตสูง เสี่ยงเกิดลิ่มเลือดในสมอง หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัวจนทำให้เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก และเป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิต
3. 4 กลุ่มเสี่ยงอันตรายจาก PM2.5
ความเสี่ยงเจ็บป่วยจาก PM2.5 นั้นมากน้อยขึ้นอยู่กับสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายด้วย ซึ่งกลุ่มเสี่ยงหรือมีโรคประจำตัว ยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากขึ้น
- เด็ก เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ยังมีภูมิคุ้มกันน้อย รวมถึงอวัยวะในร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่เหมือนผู้ใหญ่ เมื่อ PM2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือดได้ง่าย จะทำให้ไปขัดขวางการเจริญเติบโตของระบบต่าง ๆ และเสี่ยงเจ็บป่วยภายหลังได้
- หญิงมีครรภ์ นอกจาก PM2.5 ส่งผลเสียต่อสุขภาพคุณแม่แล้ว ยังส่งผลต่อทารกในครรภ์อีกด้วย โดยมีผลต่อการคลอดก่อนกำหนด เสี่ยงแท้ง และเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของทารกในครรภ์
- ผู้สูงอายุ พออายุมากขึ้น ส่งผลให้อวัยวะของร่างกายเสื่อมถอยและทำงานลดลง ภูมิคุ้มกันโรคจึงลดตามไปด้วย หากกลุ่มผู้สูงอายุได้รับ PM2.5 มาก ๆ อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหอบหืดได้
- ผู้ป่วยหรือมีโรคประจำตัว กลุ่มเสี่ยงนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะจะส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป อาจทำให้โรคกำเริบหรือรุนแรงจนเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ดังนี้ 1.กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด 2.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ 3.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และ 4.กลุ่มโรคตาอักเสบ
4. วิธีป้องกันตัวจาก PM2.5
อันตรายของฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก เราจึงต้องป้องกันตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงเจ็บป่วย จากอันตรายของฝุ่น PM2.5 ดังนี้
- หน้ากาก ควรใส่มาสก์ปิดจมูกที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นได้สูง เช่น หน้ากาก N95 กรองได้อย่างน้อย 95% และหน้ากาก N99 กรองได้มากถึง 99% โดยสวมให้ถูกต้องตามวิธีที่ระบุไว้ กระชับหน้ากากให้แนบสนิท และไม่ควรใช้ซ้ำ
- โหลดแอป ควรโหลดแอปพลิเคชัน เช็กคุณภาพอากาศเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเช็กค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้าน เช่น AirVisual, Air4Thai, BreezoMeter, เช็กฝุ่น (พัฒนาโดย GISTDA)
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้าน การสูดดมหรือสัมผัสฝุ่น PM2.5 มาก ๆ โดยเฉพาะตอนออกกำลังกายกลางแจ้ง ยิ่งเพิ่มการสูดเอาละอองฝุ่นเข้าสู่ทางเดินหายใจและปอดมากขึ้นตามไปด้วย
- อยู่บ้าน ปิดหน้าต่างให้มิดชิด ในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูง หากเป็นไปได้ควรอยู่บ้านหรือในอาคารจะดีกว่า ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด และหากมีเครื่องฟอกอากาศ ควรเปิดเครื่องฟอกเพื่อช่วยกรองฝุ่นเล็ก ๆ ให้อากาศภายในให้ดียิ่งขึ้น
- งดสูบบุหรี่ หรือสร้างฝุ่นควัน การสูบบุหรี่หรือสูดดมควันต่าง ๆ ยิ่งทำให้ระบบทางเดินหายใจของเราแย่ลง เสี่ยงเป็นหอบหืด หรือมะเร็งปอดได้อีกด้วย
5. AQI เท่าไหร่อันตรายต่อสุขภาพ?
AQI หรือ Air Quality Index คือ ดัชนีที่บ่งบอกถึงคุณภาพอากาศในขณะนั้น โดยจะพิจารณาจากปริมาณของมลพิษทางอากาศต่างๆ เช่น PM2.5, PM10, โอโซน ฯลฯ ค่า AQI จะถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ โดยแต่ละระดับจะสอดคล้องกับผลกระทบต่อสุขภาพ ที่แตกต่างกันออกไปแล้ว AQI เท่าไหร่ถึงอันตราย?
- ค่า AQI ที่ 100 ขึ้นไป: ถือว่าเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
- ค่า AQI ที่ 150 ขึ้นไป: ทุกคนอาจเริ่มมีอาการผิดปกติทางสุขภาพ
- ค่า AQI ที่ 200 ขึ้นไป: เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และอาจเกิดภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ได้
PM2.5 ยังคงมีมาเรื่อย ๆ เราจึงควรป้องกันตัวเองให้ดี เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ จากอันตรายของฝุ่นจิ๋วพวกนี้ การป้องกันตัวที่ดีเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงเจ็บป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ที่มีปัจจัยมาจาก PM2.5 ในภายหลังได้ เช่นเดียวกับการซื้อประกันสุขภาพที่ต้องมีไว้ตั้งแต่ตอนที่สุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย เพื่อจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ เพราะประกันสุขภาพไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนซื้อ เราจึงต้องเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพียงมีประกันสุขภาพเหมาจ่ายไว้ช่วยดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท เจ็บป่วยก็เบาใจกับค่ารักษา
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 22/01/68
🔖 hfocus