Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด อันตรายที่มาในหน้าร้อน

ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด อันตรายที่มาในหน้าร้อน

คนไทยเตรียมตัวร้อนตับแตก พร้อมระวังฮีทสโตรกถามหา เพราะปีนี้กรมอุตตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว 1.2 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิสูงสุด พุ่ง 44.5 องศาเซลเซียส และสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงเป็น ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด จากความร้อนที่สูงได้ เตรียมรับมือหาวิธีรักษาฮีทสโตรก หรือวิธีปฐมพยาบาลฮีทสโตรกไว้รอเลย ที่สำคัญ อาจเกิดฮีทสโตรกกับสุนัขและแมวได้ วันนี้เมืองไทยประกันชีวิตมีข้อมูลดี ๆ มาแนะนำเพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวป้องกัน และเฝ้าระวังโรคฮีทสโตรกภัยร้ายที่มากับความร้อนกัน



ฮีทสโตรกหรือโรคลมแดด คือ


ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด คืออะไร


“ฮีทสโตรก” (Heat Stroke) หรือ “โรคลมแดด” คือโรคที่ต้องระวังในช่วงหน้าร้อนเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นภาวะที่เกิดจากร่างกายมีความร้อนสูงเกินไป ไม่สามารถควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ มักเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งความร้อนที่สูงเกินไปในร่างกาย มักเกิดจากอากาศที่ร้อนจัดเกินไป จากการออกกำลังกายอย่างหนักในที่ที่มีอุณหภูมิสูง รวมไปถึงการทำงานที่ต้องใช้แรงงานหนัก ๆ พอร่างกายเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นมาก ๆ จนร่างกายระบายความร้อนไม่ทัน ก็จะเกิดฮีทสโตรกได้ ยิ่งเมื่อเกิดอาการควรได้รับการรักษาทันที เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจส่งผลกระทบต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ และหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้


ประเภทของฮีทสโตรก


ประเภทของฮีทสโตรก


รู้หรือไม่ว่าฮีทสโตรกไม่ได้เกิดจากอากาศร้อนประเภทเดียว แต่ฮีทสโตรกมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ ซึ่งแบ่งได้ตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ได้แก่


  1. ฮีทสโตรกที่ไม่ได้เกิดจากการออกกำลัง (Classic Heatstroke or Non – Exertional Heatstroke) ฮีทสโตรกประเภทนี้ จะเกิดจากการยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นเวลานาน การสวมเสื้อผ้าหนา หรือไม่ระบายอากาศ ทำให้เหงื่อไม่สามารถระเหยออกได้ รวมถึงการดื่มน้ำน้อย การดื่มแอลกอฮอล์ สาเหตุเหล่านี้ จะไปรบกวนการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงตามไปด้วย ซึ่งผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคเรื้อรัง มีความเสี่ยงต่อการเป็นฮีทสโตรกประเภทนี้
  2. ฮีทสโตรกที่เกิดจากการออกกำลัง (Exertional Heatstroke) เกิดจากการออกกําลังกายอย่างหนัก หรือจากการทำงานในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ยิ่งในคนที่ไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศที่ร้อน ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสเป็นฮีทสโตรกได้ 


ใครที่มีความเสี่ยง เป็นฮีทสโตรก


ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็นฮีทสโตรก 


นอกจากสภาพอากาศ และปัจจัยแวดล้อมหลาย ๆ อย่างที่ทำให้คนเกิดฮีทสโตรกได้ ยังมีอีกลุ่มที่มีความเสี่ยง "ฮีทสโตรก" ได้แก่


  1. เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และผู้สูงอายุ เพราะร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว
  2. คนที่มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง
  3. คนที่ทำงาน หรือทำกิจกรรมกลางแดดร้อนจัด
  4. คนที่มีน้ำหนักภาวะอ้วน
  5. คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งหากนอนไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อกลไกควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย
  6. คนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก เพราะแอลกอฮอล์ จะทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม ยิ่งดื่มในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็ว และแรงขึ้น มีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานหนักขึ้น จนอาจทำให้ช็อก และเสียชีวิตได้


อาการของฮีทสโตรก

อาการของฮีทสโตรก


ฮีทสโตรก ถือว่าเป็นหนึ่งในโรคที่มากับหน้าร้อนที่อันตราย และหากรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น ในวันที่อากาศร้อนจัด ควรสังเกตอาการเหล่านี้ของตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น


  1. ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงถึง 40 องศาเซลเซียส
  2. รู้สึกสับสนเฉียบพลัน หงุดหงิดฉุนเฉียว พูดไม่รู้เรื่อง เพ้อ ชัก หรือโคม่า
  3. หากเป็นฮีทสโตรกจากอากาศร้อน ผิวจะแห้ง และร้อน
  4. หากเป็นฮีทสโตรกจากการออกกําลังกาย ผิวจะแห้ง และชื้นเล็กน้อย
  5. ไม่มีเหงื่อออก รู้สึกกระหายน้ำมาก
  6. หายใจถี่ ชีพจรเต้นแรง
  7. ปวดหัวตุบ ๆ  หน้ามืด ความดันโลหิตต่ำ
  8. อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน


วิธีป้องกันฮีทสโตรก

วิธีป้องกันฮีทสโตรก


ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งการป้องกันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนมาก ๆ หรือวันที่รู้ว่าตัวเองต้องได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งนาน ๆ ควรเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยวิธีเหล่านี้


  1. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด หรือ การเล่นกีฬา ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด
  2. สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน โปร่ง ระบายความร้อนได้ดี
  3. เติมความชุ่มชื้น และลดอุณหภูมิร่างกาย ด้วยการจิบน้ำบ่อย ๆ อย่างน้อย 6-8 แก้ว ต่อวัน
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา รวมถึงกาแฟ และ เครื่องดื่มน้ำตาลสูง
  5. สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรอยู่ในที่อากาศร้อนจัด
  6. คนที่ออกกำลังกาย แนะนำออกกำลังกายในที่ที่อากาศถ่ายเท และหากออกกำลังกายช่วงเช้าหรือช่วงเย็นก็ยิ่งดี เพราะอากาศไม่ร้อนมาก
  7. มีอุปกรณ์คลายร้อนติดตัวไว้อยู่เสมอ เช่น พัดลมจิ๋ว หรือพัดมือเล็ก ๆ 


วิธีรักษาและปฐมพยาบาลฮีทสโตรก

ฮีทสโตรก วิธีรักษาและปฐมพยาบาล


หากสังเกตได้ว่าตัวเอง หรือคนใกล้ชิดเริ่มมีอาการน่าเป็นห่วง เสี่ยงเป็นฮีทสโตรก เพราะความร้อนที่สูงขึ้น เราควรช่วยเหลือเบื้องต้นดังนี้


  1. รีบนำคนป่วยหลบเข้าที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือห้องที่มีความเย็น เพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายลง
  2. ให้คนป่วยนอนราบ ยกเท้าและสะโพกสูง  เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
  3. คลายเสื้อผ้าออกให้หลวม เพื่อระบายความร้อน
  4. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว ซอกคอ ตัว รักแร้ ขาหนีบ หน้าผาก หรือประคบด้วยน้ำแข็ง  เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย ให้ต่ำลงอย่างรวดเร็วที่สุด
  5. หากคนป่วยหมดสติ ให้จับนอนตะแคง เพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดทางเดินหายใจ
  6. แจ้งสายด่วน 1669 หรือนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที


ฮีทสโตรกในสุนัขและแมว


ฮีทสโตรกในสุนัขและแมว


ฮีทสโตรกในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อคนแล้ว สำหรับสัตว์เลี้ยงก็อันตรายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในสุนัขและแมวที่คนนิยมเลี้ยงกันมากที่สุด ยิ่งขนยาว ขนหนาหรือขนเยอะ และหน้าสั้น ยิ่งน่าเป็นห่วงในช่วงที่อากาศร้อนจัด ๆ ซึ่งฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยง เกิดจากการที่อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียสอย่างรวดเร็ว และระบายความร้อนออกสู่ภายนอกไม่ทัน เหล่าทาสแมวทาสหมาทั้งหลาย จึงต้องเตรียมตัวหาวิธีคลายร้อน เพื่อป้องกันการเกิดฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยงของตัวเอง มาดูกันว่าเราจะสังเกตอาการ เตรียมการป้องกัน และปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไร เมื่อน้อง ๆ เป็นฮีทสโตรก ตามมาดูกัน


อาการฮีทสโตรกในสุนัขและแมว

  • หายใจรุนแรง หายใจไม่ทัน อ้าปากค้าง และหอบมากกว่าปกติ
  • ซึม มีน้ำลายยืด เหนียวมากกว่าปกติ นอนอยู่กับที่ไม่ขยับ
  • ม่านตาขยาย นิสัยเปลี่ยนไปหรือดุกว่าปกติ ในระยะเวลาสั้น ๆ
  • ตา เหงือก และลิ้นจะแดงกว่าปกติ หากอาการรุนแรงมากจะมีสีซีด
  • อุณหภูมิของสัตว์เลี้ยงจะสูงถึง 40.5 องศาเซลเซียส


วิธีป้องกันฮีทสโตรกในสุนัขและแมวเบื้องต้น

  • งดพาสัตว์เลี้ยงออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงเวลาแดดร้อน
  • ทำกิจกรรมในช่วงแดดร่ม ลมตก อาจเป็นช่วงเช้า หรือตอนเย็นไปแล้ว
  • ช่วงอากาศร้อนจัด ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาภายในบ้าน เปิดพัดลม หรือแอร์ให้สัตว์เลี้ยง
  • ควรมีอุปกรณ์คลายร้อนไว้กระจายรอบบ้าน เพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้คลายร้อนด้วยตัวเอง เช่น แผ่นเจลเย็นรองนอน โอ่งดินเผา ฯลฯ
  • ควรมีน้ำสะอาด ให้สัตว์เลี้ยงได้กินตลอดเวลา


การปฐมพยาบาลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้นจากอาการฮีทสโตรก

  • นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในร่มที่ร่ม มีอากาศถ่ายเท หรือสถานที่ที่มีจุดกำบังแดดโดยเร็วที่สุด
  • หากมี โซ่ สร้อยคอ หรือเสื้อผ้า ควรปลดออกทั้งหมด
  • นำผ้าเปียกน้ำอุณหภูมิปกติบิดหมาด มาเช็ดให้สัตว์เลี้ยงที่บริเวณ ขาหนีบ หรือใต้รักแร้ รวมถึงบนหัวสักพัก เพื่อคลายความร้อน และปรับอุณหภูมิในร่างกาย
  • รีบพาไปพบสัตวแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อทำการรักษาต่อไป


แฮมเสตอร์กับอาการฮีทสโตรก

แฮมเสตอร์กับอาการฮีทสโตรก


แฮมสเตอร์ก็เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงยอดฮิต ที่เรามักได้ยินข่าว ว่าเกิดฮีทสโตรกบ่อยเช่นกัน ยิ่งแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ยิ่งสังเกตอาการน้องยากมากขึ้นไปอีก กว่าจะรู้ตัวว่าน้องป่วย ก็อาจสายไปแล้วก็ได้ มาสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่า แฮมสเตอร์กำลังเสี่ยงเป็นฮีทสโตรก พร้อมวิธีป้องกันเพื่อ คลายร้อนให้น้องกัน


อาการฮีทสโตรกในแฮมสเตอร์

เพราะแฮมเสตอร์เป็นสัตว์ที่ตัวเล็กมาก คนเลี้ยงจึงต้องคอยสังเกตอาการอย่างอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อนจัด ซึ่งพฤติกรรมและอาการของแฮมเสตอร์จะเปลี่ยนไป ดังนี้


  1. นอนทับฉี่ หรือนอนบนที่เปียก เย็น หรือนอนทับบนผักสดที่เราให้น้องกิน ซึ่งอาการนี้บ่งบอกว่าแฮมเสตอร์ต้องการระบายความร้อนออกจากร่างกายอย่างหนึ่ง แต่การนอนทับฉี่ หรือ ที่เปียกนาน ๆ อาจทำให้น้องป่วยในภายหลังได้  เช่น ขนร่วง โรคผิวหนัง ปอดบวม หรือ โรคอื่น ๆ ตามมาอีกได้
  2. กินน้ำเยอะ เพราะเวลาร้อน แฮมเสตอร์จะมีการเสียน้ำในร่างกาย เค้าจึงต้องกินน้ำเยอะขึ้น เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
  3. นอนในถ้วยอาหาร เพื่อเป็นการระบายความร้อนออกจากร่างกาย เพราะชามอาหารที่เราให้น้องส่วนมากจะเป็นแบบเซรามิก หรือ แบบดินเผา ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะมีความเย็นในตัวอยู่แล้ว
  4. มีเหงื่อออก ในแฮมเสตอร์บางตัว จะมีน้ำบริเวณรอบคอ ถ้าร้อนมาก ๆ อาจมีเหงื่อเปียกบริเวณท้อง หากร้อนมาก ๆ อาจถึงขั้น มีอาการฮีทสโตกได้เลย
  5. มีอาการหงุดหงิด เมื่ออากาศร้อนมาก ๆ
  6. นอนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยเล่น เคลื่อนไหวน้อยลง เพราะอาจอ่อนเพลียจากอากาศจากอากาศร้อนจัด
  7. คุ้ยขี้เลื่อยจนเป็นหลุม เพื่อที่จะนอนแนบกับพื้น เพราะที่พื้นจะเย็นสบาย
  8. ขนร่วง ขนแหว่ง เพราะพออากาศร้อนแฮมเสตอร์บางตัวจะกำจัดขน เพื่อระบายความร้อน

 

วิธีป้องกันฮีทสโตรกในแฮมเสตอร์


อย่างแรกเลยเมื่ออากาศร้อนจัด อาจต้องงดพาแฮมเสตอร์ออกจากบ้านเลย ยิ่งออกไปที่ร้อนและกลับมาที่เย็น อากาศเปลี่ยนไปมาอาจทำให้แฮมเสตอร์ช็อคอากาศ ถึงตายได้ก็มี น้ำต้องมีตลอดไม่ให้ขาด และที่ที่แฮมเสตอร์อยู่ ต้องอยู่ตรงที่อากาศถ่ายเทสะดวก อย่าให้อับ หรือ ร้อนเกินไป อาจมีแตงกวาเป็นชิ้น ๆ เพื่อให้เค้ากินแก้หิวน้ำ แต่ไม่ควรทิ้งอาหารไว้นาน  เพราะหน้าร้อนเชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี อาจทำให้ท้องเสียได้ และ ไม่จำเป็นต้องใส่ขี้เลื่อยเยอะเหมือนปกติ อาจใส่เท่าที่จำเป็น หากเปิดพัดลมเป่าเบา ๆ ไม่ต้องเปิดจ่อยิ่งดี เพราะเป็นการช่วยระบายความร้อนอย่างหนึ่ง


ข้อควรระวัง ห้าม!! ลดอุณหภูมิของสัตว์เลี้ยงด้วยน้ำเย็นจัด และห้ามเปลี่ยนอุณหภูมิห้องฉับพลัน หากอาการไม่ดีขึ้นรีบพาไปหาหมอจะดีที่สุด


เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน อันตรายจากความร้อนและแสงแดดถือว่าค่อนข้างมีความรุนแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด ควรหมั่นสังเกตอาการเหล่านี้ให้ดี ๆ ทั้งในคนและสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ซึ่งทางที่ดีควรเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน และดูแลให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่ใกล้เคียงปกติมากที่สุด รวมถึงวางแผนเสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล
ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท


✅ Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)

✅ D Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)

✅ เหมาจ่าย Extra แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)

 

พิเศษ! รับส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับเบี้ยประกันปีต่ออายุ เพียงทำกิจกรรมผ่านแอปฯ MTL Fit


รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต


(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง

(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง (แผน Top Up ความคุ้มครอง) และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(5) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

(6) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี


  • เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย


ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 4/03/67

🔖 ไทยรัฐ

🔖 โรงพยาบาลราชวิถี

🔖 โรงพยาบาลสินแพทย์

🔖 โรงพยาบาลพญาไท

🔖 โรงพยาบาลเปาโล

🔖 PONGKUNG HAMSTER AND PET

🔖 PPTV

Interested In

I agree that Muang Thai Life Assurance PCL. Collect and use my personal information above to contact me to offer products and services at I am interested or the company saw that it was beneficial to I have by me to equate the mark In the square is an indication of intent. instead of my consent Signing as evidence. I have read and acknowledged the Privacy Policy.

บทความน่าสนใจ