เหตุผลที่ลูกน้อยต้องทำประกันชีวิตและสุขภาพ

เชื่อว่าคนเป็นพ่อแม่คงปวดใจทุกครั้งยามลูกน้อยเจ็บป่วย แม้ทารกแรกเกิดจะมีภูมิคุ้มกันโรคบางชนิด แต่จะอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนหลังคลอด หลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดลง นั่นหมายความว่าร่างกายลูกน้อยย่อมอ่อนแอและอาจเจ็บป่วยได้ง่ายเพราะภูมิต้านทานต่ำ

การทำประกันชีวิตและสุขภาพจึงเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงได้ แม้ไม่ได้ช่วยเรื่องความเจ็บป่วย แต่ก็สามารถช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาล พร้อมคุ้มครองทุกโรคอย่างครอบคลุม ให้คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเงินในกระเป๋าไปมากเลยทีเดียว เมืองไทยประกันชีวิตจึงมีเหตุผลสำคัญที่พ่อแม่หลายท่านอาจมองข้ามมาให้พิจารณากัน ว่าทำไมลูกน้อยต้องทำประกันชีวิตและสุขภาพ

1. เด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ป่วยง่าย

ภูมิคุ้มกันของลูกน้อยมีความสำคัญอย่างมาก เพราะการมีภูมิคุ้มกันจะช่วยให้ลูกน้อยร่างกายแข็งแรงไม่ติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งทารกแรกเกิดมีภูมิคุ้มกันโรคบางชนิดติดตัวมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว แต่จะอยู่แค่ช่วง 2-3 เดือนแรกเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ทารกจึงมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่ายมากขึ้น เมื่อเจ็บป่วยสิ่งที่ตามมาคือค่ารักษาที่บางทีพ่อแม่อาจไม่ได้สำรองไว้มากพอ

2. แม้ลูกเจ็บป่วยก็หายห่วงเรื่องค่ารักษา

เมื่อเด็กยังมีภูมิคุ้มกันต่ำทำให้ติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากพ่อแม่จะกังวลเรื่องอาการของลูกแล้ว ยังต้องมากังวลเรื่องค่ารักษา ที่บางครั้งอาจจ่ายแพงกว่าผู้ใหญ่อย่างเราๆ การทำประกันชีวิตและสุขภาพให้ลูกน้อยจึงช่วยกระจายความเสี่ยงเรื่องค่ารักษาได้เป็นอย่างมาก เพราะประกันชีวิตและสุขภาพบางบริษัทสามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน-70 ปี เลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)

3. คุ้มครองโรคได้ครอบคลุม

เหตุผลนี้ถือว่าเป็นข้อดีอย่างมากเลยทีเดียว เพราะเมื่อทำประกันชีวิตและสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ลูกของคุณซึ่งไม่มีประวัติการเจ็บป่วยโรคอื่นมาก่อน เมื่อซื้อประกันชีวิตและสุขภาพจึงเป็นเรื่องง่าย เพราะหากรอจนโตแล้วค่อยซื้อลูกคุณอาจมีประวัติสุขภาพแล้ว อาจทำให้บริษัทประกันรับทำประกันยากขึ้นก็เป็นได้

ดังนั้นจากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นแล้วทำไมจะไม่ซื้อประกันสุขภาพเด็กล่ะ เพราะนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก ยังมีความคุ้มค่าที่คุณจะได้คืนมาให้ลูกน้อยเมื่อซื้อประกันชีวิตและสุขภาพ ตัวอย่างเช่น

เมื่อคุณซื้อความคุ้มครองสุขภาพสัญญาเพิ่มเติมสมาร์ทเฮลท์ ของเมืองไทยประกันชีวิต แล้ว ก็มีอายุรับประกัน 30 วัน – 70 ปี ระยะเวลาคุ้มครองยาวถึง 81 ปีเลยทีเดียว, คุ้มครองผู้ป่วยในแบบเหมาจ่ายทั้ง ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาล, เลือกชำระเบี้ยได้หลากหลายทั้ง รายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และรายเดือน จ่ายเบี้ยประกันน้อย แต่คุ้มค่ากับค่ารักษาพยาบาลยามลูกน้อยเจ็บป่วยหรือแม้แต่เจออุบัติเหตุก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

จากเหตุผลที่กล่าวมาหวังว่าพ่อแม่หลายท่านคงมองออกถึงปัญหายามลูกป่วย และข้อดีของประกันชีวิตและสุขภาพที่จะช่วยให้แบ่งเบาภาระได้เป็นอย่างมาก เพราะเรื่องสุขภาพไม่ว่าจะวัยไหนก็สำคัญเท่ากันหมด

ที่มา : theasianparent