คิดอยากมีลูกสักคน ต้องวางแผนไว้หลายทาง โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคตที่ต้องมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเติบโตของลูกรัก ไหนจะค่าใช้จ่ายในเวลาเจ็บป่วย พ่อแม่บางคนจึงมองหาแบบประกันชีวิตและสุขภาพ ที่ตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดเพื่อช่วยลดความเสี่ยง แต่นอกจากเรื่องนี้แล้วยังต้องกังวลถึงโรคร้ายในเด็กที่บางทีอาจรับมือไม่ทันยามลูกป่วย ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่าโรคร้ายยอดฮิตที่เด็กป่วยมากที่สุดมีอะไรบ้าง
อันดับ 2 โรคยอดฮิตในเด็กก็คือ “โรคมือเท้าปาก” ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส พบมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และพบบ่อยในช่วงหน้าฝน ซึ่งช่วงอายุของเด็กที่ป่วยคือช่วงที่เด็กเข้าเตรียมอนุบาลกันแล้ว จึงทำให้มีการระบาดได้มากขึ้น
อาการเริ่มต้นของโรคมือเท้าปากจะคล้ายไข้หวัด คือ มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย มีตุ่มใส หรือแผลร้อนในเกิดขึ้นหลายแผลในปาก เพดานปากและกระพุ้งแก้ม มีอาการเจ็บ มีผื่นแดงหรือตุ่มใส ขนาดเล็กที่บริเวณฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า หรือก้น และมีอาการไข้เป็นระยะเวลา 5-7 วัน
“ไข้หวัดใหญ่” มักระบาดในช่วงหน้าฝน และเป็นโรคที่ติดต่อง่าย โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังต่ำ จึงทำให้เด็กป่วยได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมรับมือด้วยการพาลูกไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสามารถฉีดได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ก็จะมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกใส ๆ จาม คอแห้ง เจ็บคอ ไอแห้ง ไอมีเสมหะเป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หากอาการรุนแรงอาจมีโรคแทรกซ้อนที่มากับไข้หวัด คือ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือ ปอดอักเสบได้
โรคสุดท้ายอาจเป็นโรคที่พ่อแม่มือใหม่หลายท่านอาจไม่ค่อยคุ้นหู ซึ่งโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กจากไวรัส RSV เป็นโรคติดเชื้อที่มีอาการคล้ายหวัดแต่บางครั้งอาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นปอดอักเสบ ไวรัส RSV เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก
อาการที่เกิดจากไวรัส RSV คือ อาการหอบ เหนื่อย บางคนหอบมากจนเป็นโรคปอดบวม หายใจหอบจนอกบุ๋ม หายใจแรงจนหน้าอกโป่ง หายใจออกลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ดแบบหลอดลมฝอยอักเสบ บางรายไอมากจนอาเจียน ซึมลง ตัวเขียว กินข้าว กินน้ำ กินนมไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกัน ไวรัส RSV รวมถึงไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรล้างมือให้เด็กเล็กบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
สุดท้ายแล้วโรคต่างๆ เหล่านี้แม้ป้องกันและระวังดีแค่ไหนก็อาจหนีไม่พ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการการรักษาพยาบาล การซื้อประกันชีวิตและสุขภาพจึงเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งได้ดีมาก เมืองไทยแบบประกันชีวิตได้ออกแบบสัญญาเพิ่มเติม สมาร์ทเฮลท์ที่สามารถซื้อได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน – 70 ปี ระยะเวลาคุ้มครองยาวถึง 81 ปี คุ้มครองผู้ป่วยในแบบเหมาจ่ายทั้ง ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาล คลายกังวลได้เลยหากลูกน้อยเจ็บป่วยขึ้นมาก็มีผู้ช่วยลดความเสี่ยงแน่นอน
หมายเหตุ
ที่มา : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, the Asian parent