ตรุษจีนปีนี้ กินแบบไหนไม่เสี่ยงโรค !
ตรุษจีนตรุษใจ กินแบบไหนไม่เสี่ยงโรค ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับเทศกาลตรุษจีน ปี 2566 ซึ่งตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ซึ่งแน่นอนว่าช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากเราจะได้ทำพิธีไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการสังสรรค์รวมญาติกันในหมู่พี่น้อง
ซึ่งเทศกาลตรุษจีนแบบนี้ต้องบอกเลยว่า เลี่ยงไม่ได้แน่นอนสำหรับอาหารคาวหวานที่จัดกันมาเต็ม ๆ มีให้กินกันได้พุงกาง แต่อาหารหรือของไหว้ในวันตรุษจีนนั้น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นกันหากไม่เลือกกิน ดังนั้นด้วยความห่วงใยจากเมืองไทยประกันชีวิต จึงขอรวมวิธีการกินและปรุงอาหารในช่วงตรุษจีน ให้เสี่ยงโรคน้อยที่สุด จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน !
ตามหลักของไหว้ในวันตรุษจีน จะมีการไหว้ของคาวที่เรียกว่า ซาแซ หรือ โหงวแซ หมายถึงเนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง ได้แก่ หมูสามชั้น, ไก่, เป็ด, ปลา, ตับ ซึ่งหลังจากไหว้ตรุษจีนเสร็จ จะนิยมนำของไหว้มากินกันในครบครัว เพื่อความเป็นสิริมงคล
แต่รู้หรือไม่ว่าของไหว้เหล่านั้น หากกินมากไปอาจมีอันตรายแฝงอยู่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่กินเนื้อสัตว์มากเกินไป อาจมีอาการย่อยยาก หรือกินอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม มากเกินไป ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคไต ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น
แนะนำให้กินแต่พอดี หรือเลือกกินแบบที่มีไขมันน้อยที่สุด เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง หมูสามชั้นตัดส่วนมันออก เน้นกินเนื้อปลา นอกจากนี้ อาหารผัดควรใช้น้ำมันน้อยๆ และเลือกใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันเมล็ดทานตะวัน จะดีต่อสุขภาพมากกว่า เพราะกรดไขมันไม่อิ่มตัวช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
🔖 mgronline (ข้อมูล ณ วันที่ 20/01/60)
ขนมไหว้ตรุษจีน เป็นอะไรที่ยั้งใจไม่ได้จริง ๆ เพราะมีให้ชิมแค่ปีละครั้ง แค่ลองคิดถึงแป้งขนมที่อบควันเทียนจนหอมกรุ่น แค่นี้ก็อดใจไม่ไหวที่จะลองลิ้มชิมรสกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถ้วยฟู ซาลาเปาหรือหมั่นโถว ขนมจันอับ ก็อาจทำให้เราลงพุงได้ไม่รู้ตัวเลยนะ
เพราะขนมหล่านี้มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณค่อนข้างมาก จึงเสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น ควรกินแต่พอดีเช่นกัน แค่พอให้รู้รสหายอยาก ไม่เน้นกินอิ่ม
แนะนำให้กินพวกผักผลไม้ หรือธัญพืชให้มากขึ้น เพราะผักผลไม้มีวิตามิน เกลือแร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นให้มีการขับถ่ายของเสียทุกวัน ช่วยให้ขจัดสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ อีกทั้งยังช่วยจับคอเลสตอรอลและไขมัน เพื่อขับออกจากร่างกายอีกด้วย
🔖 mgronline (ข้อมูล ณ วันที่ 20/01/60)
🔖 pptvhd36 (ข้อมูล ณ วันที่ 18/01/65)
ในวันตรุษจีนก่อนที่จะมีอาหารหรือขนมของไหว้ที่แสนอร่อยนั้น เมนูเหล่านั้นจะต้องผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ ที่ช่วยให้อาหารหรือขนมดูสดใหม่และอร่อยขึ้น ดังนั้นเราควรต้องระวังสารปนเปื้อนเหล่านี้ เพราะสารบางอย่างอาจอันตรายถึงชีวิตได้
- ฟอร์มาลีน
พบมากในอาหารทะเล ผักผลไม้ ทำให้อาหารดูสดใหม่ แต่มีอันตรายต่อตับ ไต หัวใจ สมองและทางเดินอากาศอักเสบ หากรับสารมากไปอาจทำให้เสียชีวิตได้
- บอแรกซ์
พบในลูกชิ้น ตังกวยแฉะ ทำให้เกิดอาการเป็นพิษเฉียบพลัน อาเจียน ท้องเสีย มีผลถึงขั้นทำให้เสียชีวิต
- สารฟอกขาว
พบในถั่วงอก เต้าหู้ หน่อไม้จีน ทำให้เกิดอาการอักเสบบริเวณอวัยวะที่สัมผัส เช่น ปาก กระเพาะอาหาร เกิดอาการแน่นหน้าอก ปวดท้อง อาเจียน มีผลถึงขั้นทำให้เสียชีวิต
- สารกันรา
พบในผักดอง ผลไม้ดอง มีผลต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ได้
- ยาฆ่าแมลง
พบในผักสด ผลไม้สดและปลาหมึกแห้ง หากได้รับสารมากไป อาจมีอาการชัก หายใจติดขัด และก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
🔖 rama (ข้อมูล ณ วันที่ 15/08/59)
โควิดก็ยังมีเทศกาลก็ต้องเข้าร่วม แบบนี้ต้องยิ่งระวังกันมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการปรุงอาหารให้สะอาด ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ดังนี้
- ต้องรักษาความสะอาด ควรล้างมือก่อนกิน และก่อนเตรียมอาหารทุกครั้ง บริเวณเตรียมอาหารต้องสะอาด โดยเฉพาะจาน โต๊ะ เขียง เพื่อป้องกันจุลินทรีย์ที่อาจติดมาได้
- แยกอาหารที่ปรุงสุกแล้วออกจากอาหารดิบ เพราะอาจมีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนอยู่
- ปรุงอาหารให้สุกทั่วถึง ที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อ เนื้อไก่ ไข่ และอาหารทะเล ต้องสุกถึงด้านใน ซึ่งการปรุงที่ถูกวิธีและถูกสุขลักษณะจะทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายได้เกือบทุกชนิด
- เก็บอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- ใช้น้ำสะอาดและวัตถุดิบที่ปลอดภัยในการปรุงอาหาร การเลือกวัตถุดิบในการปรุงอาหารอย่างถูกวิธีและการปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย จช่วยะลดความเสี่ยงจากสารปนเปื้อนในอาหารได้
🔖posttoday (ข้อมูล ณ วันที่ 27/01/65)
จะเห็นได้ว่าอาหารบางชนิดแม้จะอร่อยแค่ไหน แต่ก็อาจให้โทษกับสุขภาพได้ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับการเลือกกินของเรา ควรกินแต่พอดี เน้นอาหารที่มีประโยชน์ และควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อไม่ให้เกิดไขมันสะสมที่จะนำไปสู่โรคร้ายต่าง ๆได้
ซึ่งวันตรุษจีนนี้ถือว่าเป็นวันรวมญาติที่หลาย ๆ ครอบครัวจะมาร่วมเฉลิมฉลองกันในเทศกาลนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน หลายครอบครัวอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นการเจอกันผ่าน ช่องทาง online แทน ดังนั้นเราควรหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ หรือมอบประกันสุขภาพให้กับคนที่เรารักแทนความห่วงใยที่มี ด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 65 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
☑️ โทร 1766
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต หรือ สาขาธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
- สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย