ทำความรู้จัก ประกันโรคร้ายแรง แผนสำรองที่ทุกคนควรมี
โรคร้ายแรง เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การเตรียมตัวรับมือล่วงหน้า ด้วยการทำประกันโรคร้ายแรง ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง โดยเฉพาะ ประกันมะเร็ง ประกันโรคไต ประกันโรคหัวใจ ประกันโรคตับ ต่างก็เป็นประกันโรคร้ายแรงที่หลายคนสนใจกันมาก เพราะเป็นโรคร้ายที่คนไทยป่วยเยอะเป็นอันดับต้น ๆ ที่สำคัญการวางแผนสุขภาพ ด้วยประกันโรคร้ายแรง ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราและครอบครัวอุ่นใจมากขึ้น แต่การเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรงสักฉบับนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละบริษัทก็จะมีรายละเอียดความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก เพื่อให้คุณได้เลือกซื้อประกันโรคร้ายแรงที่คุ้มค่าที่สุด
1. ทำไมต้องทำประกันโรคร้ายแรง?
2. วิธีเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรงให้คุ้มค่า
3. ประกันโรคร้ายแรง vs. ประกันสุขภาพ ต่างกันอย่างไร?
4. ควรซื้อประกันโรคร้ายแรงเมื่ออายุเท่าไหร่?
1. ทำไมต้องทำประกันโรคร้ายแรง?
ประกันโรคร้ายแรง ก็เปรียบเหมือนเกราะป้องกัน ที่ช่วยดูแลคุณและครอบครัว ในยามที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน การทำประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นการวางแผนทางการเงินที่ดี เพื่อรับมือกับค่าใช้จ่าย ที่อาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และมหาศาล จะได้มีเงินทุนสำรองไว้ใช้ ในการรักษาพยาบาล และดูแลครอบครัว แต่การเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรง ก็ต้องใช้ความรอบคอบพอสมควร เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่เหมาะสม กับความต้องการและงบประมาณ มาดูกันว่าเหตุผลอะไรบ้าง ที่เราควรทำประกันโรคร้ายแรง
- ค่ารักษาพยาบาลโรคร้ายแรงสูงมาก โรคมะเร็ง โรคไต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคร้ายแรงอื่น ๆ ล้วนมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมาก อาจเกินกว่ากำลังทรัพย์ที่คุณมี
- คุ้มครองค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาล นอกจากค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมา เช่น ค่าเดินทางไปรักษา ค่าที่พัก ค่าดูแลผู้ป่วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งประกันโรคร้ายแรงจะช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้
- ช่วยให้คุณมีสมาธิในการรักษา เมื่อเกิดโรคร้ายแรงขึ้น คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทางการเงิน ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การรักษาและฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเต็มที่
- เป็นการดูแลคนที่คุณรัก หากคุณเป็นเสาหลักของครอบครัว การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้ครอบครัวของคุณยังคงดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ แม้ว่าคุณจะเจ็บป่วย
- เพิ่มความอุ่นใจ การมีประกันโรคร้ายแรงจะทำให้คุณและครอบครัวรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เพราะรู้ว่ามีหลักประกันทางการเงินคอยดูแล
- เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากโรคร้ายแรง และทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
2. วิธีเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรงให้คุ้มค่า
โรคร้ายแรง เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด และอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน การมี ประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นเหมือนการเตรียมพร้อมรับมือ กับเหตุการณ์ไม่คาดคิดเหล่านี้ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพื่อให้คุณและครอบครัว มีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำประกัน ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. โรคร้ายแรงที่คุ้มครอง
- โรคที่คุณกังวล ควรเช็กให้แน่ใจว่าโรคที่คุณกังวล เช่น มะเร็ง หัวใจ หลอดเลือดสมอง หรือโรคไต รวมอยู่ในความคุ้มครองของแผนประกันหรือไม่
- นิยามของโรคร้ายแรง แต่ละบริษัทจะมีนิยามของโรคร้ายแรงแตกต่างกันไป ควรอ่านรายละเอียดให้เข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดในภายหลัง
2. วงเงินความคุ้มครอง
- ค่ารักษาพยาบาล พิจารณาวงเงินความคุ้มครองให้เพียงพอ ต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งอาจรวมถึงค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าดูแลผู้ป่วย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ปรับเพิ่มได้ เลือกประกันที่สามารถปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองได้ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น
3. ระยะเวลาการรอคอย
- ระยะเวลาสั้น เลือกประกันที่มีระยะเวลาการรอคอยสั้น เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
4. ค่าเบี้ยประกัน
- เปรียบเทียบ เปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันจากหลาย ๆ บริษัท เพื่อหาแผนประกันที่คุ้มค่าที่สุด
- ความสามารถในการจ่าย เลือกแผนประกันที่สอดคล้องกับกำลังซื้อของตัวเอง
5. เงื่อนไขการเคลม
- อ่านรายละเอียด อ่านเงื่อนไขการเคลมให้ละเอียด เพื่อทราบขั้นตอน และเอกสารที่ต้องใช้ในการเคลม
- ความสะดวก เลือกบริษัทที่มีกระบวนการเคลมที่รวดเร็วและสะดวก
6. บริษัทประกัน
- ความน่าเชื่อถือ เลือกบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ มั่นคง และมีประสบการณ์
- บริการหลังการขาย ตรวจสอบบริการหลังการขายของบริษัท เช่น การให้คำปรึกษา การช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล
7. สวัสดิการอื่น ๆ
- สวัสดิการเพิ่มเติม บางบริษัทอาจมีสวัสดิการเพิ่มเติม เช่น การชดเชยรายได้ระหว่างรักษา หรือ การให้คำปรึกษาทางการเงิน
8. อายุและสุขภาพ
- อายุ อายุที่น้อยกว่ามักจะมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่า หากเริ่มทำไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะยิ่งคุ้มค่า
- สุขภาพ หากมีสุขภาพที่ดี จะทำให้ได้เบี้ยประกันที่ต่ำกว่า
3. ประกันโรคร้ายแรง vs. ประกันสุขภาพ ต่างกันอย่างไร?
ประกันโรคร้ายแรง และ ประกันสุขภาพ ถือเป็นประกันที่หลายคนมักสับสน เพราะทั้งสองชนิดต่างก็ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ แต่มีจุดมุ่งหมายและความคุ้มครองที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ประกันโรคร้ายแรง (Critical Illness Insurance)
- จุดเด่น จ่ายเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- ความคุ้มครอง เน้นคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โดยเมื่อตรวจพบโรคเหล่านี้ ผู้เอาประกันจะได้รับเงินก้อนตามจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายส่วนตัว หรืออื่น ๆ
- ข้อดี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาลที่สูง ค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเอง หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ประกันสุขภาพ (Health Insurance)
- จุดเด่น คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- ความคุ้มครอง คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งในและนอกโรงพยาบาล เช่น ค่าห้อง ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าตรวจวินิจฉัย
- ข้อดี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย โดยผู้เอาประกันจะได้รับการชดเชยค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
4. ควรซื้อประกันโรคร้ายแรงเมื่ออายุเท่าไหร่?
ควรซื้อประกันโรคร้ายแรงเมื่ออายุไหร่? คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะโรคร้ายแรงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมากก็ตาม ซึ่งการซื้อประกันโรคร้ายแรงยิ่งซื้อเร็ว ยิ่งดี เพราะยิ่งอายุน้อย สุขภาพแข็งแรง เบี้ยประกันก็จะยิ่งถูก และความคุ้มครองก็จะครอบคลุมระยะเวลานานขึ้น มาดูกันว่าเหตุผลอะไรบ้าง ที่เราถึงควรซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่อายุน้อย?
- เบี้ยประกันถูกกว่า เมื่ออายุยังน้อย ร่างกายแข็งแรง โอกาสเกิดโรคร้ายแรงก็จะน้อยลง ทำให้บริษัทประกันคิดเบี้ยประกันที่ต่ำกว่า
- ความคุ้มครองยาวนาน การทำประกันตั้งแต่อายุน้อย จะทำให้ได้รับความคุ้มครองยาวนานตลอดช่วงชีวิตการทำงาน
- ป้องกันความเสี่ยงในอนาคต โรคร้ายแรงไม่เลือกวัย การทำประกันตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณและครอบครัวอุ่นใจมากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น
- ลดภาระทางการเงิน หากเกิดโรคร้ายแรงขึ้นมา การมีประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูง
ช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับการทำประกันโรคร้ายแรง
- วัยทำงาน เป็นช่วงอายุที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงได้มากขึ้น
- วัยเรียน แม้ว่าจะเป็นวัยที่ยังไม่มีรายได้มากนัก แต่การทำประกันตั้งแต่อายุน้อย ก็เป็นการวางแผนที่ดีสำหรับอนาคต โดยส่วนมากผู้ปกครองจะเล็งเห็น ถึงความสำคัญของการทำประกันโรคร้ายแรงไว้ให้ลูกในอนาคต
ดังนั้น การทำประกันโรคร้ายแรง เป็นการวางแผนและการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ช่วยให้คุณและครอบครัวมีความมั่นคงและอุ่นใจมากขึ้น ยิ่งทำตั้งแต่อายุน้อย ยิ่งคุ้มค่า และได้รับความคุ้มครองที่ยาวนานขึ้น หากเรา วางแผนสุขภาพไว้ก่อน จะได้ไม่ปวดใจกับค่ารักษา เพราะ ชีวิต “คุณ” ก็สำคัญ และหากคุณเป็นคนที่กำลังมองหา ประกันค่ารักษามะเร็ง หรือ ประกันค่ารักษาไตวายเรื้อรัง เลือกความคุ้มครองที่จำเป็นสำหรับคุณ เลือก Care Plus คุ้มครองค่ารักษามะเร็ง และไตวายเรื้อรัง วงเงินค่ารักษา 5 ล้านบาท ต่อโรค ต่อปี เบี้ยไม่ถึง 12 บาทต่อวัน* ครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD เข้าถึงการรักษาที่ทันสมัย การตรวจวินิจฉัยขั้นสูง MRI, CT Scan, PET Scan เข้าถึงการรักษามะเร็งที่ทันสมัย ยามุ่งเป้า Targeted Therapy, ภูมิคุ้มกันบำบัด Immunotherapy, การปลูกถ่าย Stem Cell และ ทางเลือกการรักษาไตวายเรื้อรัง ล้างไตทางผนังช่องท้อง, ล้างไตแบบประสิทธิภาพสูง, ปลูกถ่ายไต สมัครได้ถึงอายุ 80 ปี คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ สนใจติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา
*สำหรับผู้เอาประกันภัย เพศชาย อายุ 40 ปี เลือกความคุ้มครองสำหรับโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรัง แผน 5 ล้านบาท และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
- ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็งและ/หรือโรคไตวายเรื้อรัง ดังกล่าว จะจ่ายสำหรับวิธีการบำบัดรักษาตามที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้น ณ วันที่ 25/10/67