SRI fund ทางเลือกของการลงทุนเพื่อความยั่งยืน
กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน หรือ SRI Fund เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะเหมือนกองทุนทั่วไปที่เราทุกคนสามารถลงทุนได้ เพียงแต่มีลักษณะพิเศษก็คือ มีนโยบายลงทุนที่มุ่งเน้นความยั่งยืน หรือ ESG : Environmental, Social และ Governance เป็นหลัก ดังนั้น SRI Fund จึงมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินของผู้ลงทุนไปลงทุนเพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริง และ บลจ. ก็เปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของ SRI Fund อย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจลงทุน จึงทำให้เกิดการขับเคลื่อนมี SRI Fund ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ

การฟอกเขียว (Greenwashing) หมายถึง การทำให้ผู้ลงทุนเกิดความเข้าใจผิดว่ากองทุนรวมนั้นเป็นกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน โดยที่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งถือเป็นศัตรูในเงามืดของ “ความยั่งยืน” ที่แท้จริงตามหลักของ ESG โดยมีการสื่อสารว่ากิจการหรือผลิตภัณฑ์ของตนเองเป็นเช่นนั้น ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น ทำให้ผู้ลงทุนหรือผู้บริโภค เสียประโยชน์จากการยอมจ่าย หรือมีต้นทุนการลงทุนที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับการลงทุนเพื่อความยั่งยืน
จะรู้จัก SRI fund ได้ ต้องรู้จัก ESG ก่อน “ESG” ย่อมาจากคำว่า “Environmental, Social และ Governance” ซึ่งก็คือ สิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล ซึ่งทั้ง 3 คำนี้ เป็นสิ่งที่จะมาทำให้โลกของเรานั้น เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นในอนาคต ดังนั้น ทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จึงได้เริ่มตระหนักและหันมาให้ความสำคัญกับ “ESG” นั่นเอง ในหลายประเทศ เกิดกระแสเรียกร้องให้กิจการต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการดำเนินกิจการของตนเองมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเป็นภาระต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง หากกิจการไหนใดไม่สนใจ ก็อาจเกิดเป็นกระแสโต้กลับจาก “ผู้ลงทุน”
โดยกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่บริหารจัดการ SRI Fund ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนภายใต้มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลเดียวกัน เช่น วัตถุประสงค์การลงทุนที่เกี่ยวกับความยั่งยืน, เป้าหมายด้านความยั่งยืนที่กองทุนรวมต้องการบรรลุ, กลยุทธ์การลงทุน และกระบวนการวิเคราะห์และคัดเลือกหลักทรัพย์ เป็นต้น
จำนวนกองทุน SRI Fund ปัจจุบันในไทยมีทั้งหมด 13 กองทุนภายใต้การบริหารของ 3 บลจ. คือ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) 4 กองทุน, บลจ.ทิสโก้ 4 กองทุน และ บลจ.กสิกรไทย 5 กองทุน ยังถือว่ามีบลจ.และกองทุนจำนวนที่ไม่มากนัก เนื่องจากเพิ่งมีการประกาศให้จัดตั้งได้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2565 และต้องมีการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดที่ครอบคลุมตามเกณฑ์ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยใส่สัญลักษณ์ SRI Fund ในหน้าแรกของหนังสือชี้ชวน (Fund Fact Sheet)
หากดูผลตอบแทนที่ตั้งแต่มีการตั้งกองทุนมา ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกในระดับที่แตกต่างกันอยู่ แต่หากดูระยะเวลาการลงทุนในระยะเวลาที่สั้นคือ รอบ 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี ส่วนใหญ่จะพบว่าให้ผลตอบแทนเป็นลบ ซึ่งอาจเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การลงทุนในกิจการที่คำนึงถึงเรื่อง ESG ครบเครื่องอย่างจริงจัง จะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและเป็นไปอย่างยั่งยืนมากกว่าการใช้เวลาในการลงทุนเพียงระยะสั้นหรือไม่เกินช่วง 1 ปี

แต่ละกองทุนขึ้นอยู่กับแต่ละ บลจ. ที่จะมีกระบวนการคัดเลือกรายละเอียดข้างในอย่างไรบ้างตั้งแต่
- หลักทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับความยั่งยืน (ESG Rating) จากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างๆ ที่มีเกณฑ์ในการประเมินเพื่อวัดระดับความเสี่ยงในด้าน ESG
- หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีที่เกี่ยวกับความยั่งยืนต่างๆ ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ เช่น ดัชนีอีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index), MSCI ESG Universal Index เป็นต้น
- หลักทรัพย์ของกิจการที่ลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ หมายถึงหน่วยวัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การผลิตอาหาร การใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตลอดจนกระบวนการกำจัดของเสีย เป็นต้น
- หลักทรัพย์ของบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้หรือกำไรมาจากกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์
- หลักทรัพย์ที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ภายในจาก บลจ. ที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืนเป็นหลัก โดยต้องมีการเปิดเผยที่มาและรายละเอียดของการวิเคราะห์นี้อย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ลงทุนใช้ตัดสินใจ

- เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่เน้น “ความยั่งยืน” เป็นหลัก เป็นทางเลือกใน การลงทุนที่ทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลัก ธรรมาภิบาล
- มีผู้จัดการกองทุนช่วยคัดเลือกกิจการ และบริหารจัดการลงทุนให้ ทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์และคัดเลือกกิจการที่ผ่านการตรวจสอบเชิงลึกมาแล้วว่า เป็นกิจการที่มีแนวคิดและการกระทำในเชิงประจักษ์ตามหลักของ ESG ว่า ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และหลัก ธรรมาภิบาล โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต
- ซื้อขายได้เหมือนกองทุนรวมทั่วไป กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน หรือ SRI Fund นี้ เป็นกองทุนรวมทั่วไปประเภทหนึ่ง (Mutual Fund) ที่หลายท่านรู้จักและลงทุนอยู่ในปัจจุบันนี้ เพียงแต่สาระสำคัญของ SRI Fund นั้นก็คือ “นโยบายการลงทุนในกิจการ ที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน หรือ ESG” ดังนั้น ถ้าหากสนใจอยากลงทุน ก็สามารถเลือกลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่มีการจัดตั้งและเสนอขาย SRI Fund เช่นเดียวกับกองทุนรวมอื่น ๆ
- เป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงทางการลงทุน โดยงานวิจัยพบว่า ความผันผวนของกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนแบบยั่งยืนหรือ SRI Fund นั้น จะต่ำกว่ากองทุนรวมที่ไม่ใช่ SRI Fund ทำให้กองทุนรวมประเภทนี้อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ หรือวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นน้อยกว่า ซึ่งหากใครที่ชอบลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่ต้องการสร้างความยั่งยืนในระยะยาวนั้น SRI Fund ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เรากระจายสัดส่วนเงินลงทุนในพอร์ตได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อ SRI Fund จากเว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต.ที่ลิงก์ 🔖 https://sustainablefinance.sec.or.th/Fund
SRI Fund ภายใต้แบบประกันเมืองไทยยูนิตลิงค์
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ขอบคุณที่มา :
🔖https://www.smarttoinvest.com/Pages/Investment%20Products/Investment%20knowledge/SRI-Fund-alternative-sustainable-investment.aspx
🔖https://thestandard.co/sri-fund-vs-esg-fund/
🔖https://www.smarttoinvest.com/Pages/Investment%20Knowledge/SRI-Fund.aspx