Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

วิธีแก้อาการ เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม และสาเหตุการเกิด

วิธีแก้อาการ เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม และสาเหตุการเกิด

November 27, 2024

5 minutes

อาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เป็นอาการที่หลายคนเคยเป็น ไม่ว่าจะเป็นจากความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ สาเหตุอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวม ซึ่งส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก หากไม่ได้รับการดูแลและบรรเทาที่เหมาะสมอาจมีผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้น วันนี้เมืองประกันชีวิตจะพาคุณไปรู้จักกับสาเหตุที่อาจเป็นต้นเหตุของอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม รวมถึงบ้านหมุน พร้อมทั้งวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น


1. สาเหตุของอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม เกิดจากอะไร 

2. วิธีบรรเทาอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม กินอะไรหาย

3. วิธีป้องกันอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม

4. อาการบ้านหมุนเกิดจากอะไร?



. สาเหตุของอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม เกิดจากอะไร


1. สาเหตุของอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม เกิดจากอะไร

อาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม เป็นอาการที่พบได้บ่อย และอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่

 

  • ขาดน้ำและการพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มน้ำน้อยเกินไปทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงและทำให้เวียนหัวหรือคลื่นไส้ได้ การพักผ่อนไม่เพียงพอก็อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและเกิดอาการเหล่านี้เช่นกัน
  • ความเครียดและความวิตกกังวล ความเครียดส่งผลต่อระบบประสาทและระบบการย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ได้ ความวิตกกังวลมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกพะอืดพะอมหรือวิงเวียน
  • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หากระดับน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำกว่าปกติ จะทำให้รู้สึกเวียนหัว อ่อนเพลีย และคลื่นไส้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ทานอาหารเป็นเวลานาน หรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอยู่แล้ว
  • โรคไมเกรน ไมเกรนทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงและอาจทำให้เกิดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ร่วมด้วย โดยเฉพาะเมื่อได้รับแสงจ้า เสียงดัง หรือกลิ่นแรง
  • โรคของหูชั้นใน (เวียนศีรษะจากหูชั้นใน) หูชั้นในทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัว หากมีปัญหา เช่น ภาวะน้ำในหูไม่เท่ากัน จะทำให้เกิดอาการเวียนหัว และคลื่นไส้ได้
  • ผลข้างเคียงจากยา ยาหลายชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เวียนหัวหรือคลื่นไส้ เช่น ยาลดความดัน ยาแก้ปวด หรือยาแก้ซึมเศร้า
  • อาการเมารถ เมาเรือ หรือการเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป หรือการอยู่ในยานพาหนะที่เคลื่อนไหวมากอาจทำให้สมองและหูชั้นในสับสน ส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ หรือพะอืดพะอมได้
  • การตั้งครรภ์ ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงสามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และพะอืดพะอมได้

 

  • โรคที่อาจส่งผลให้เกิดอาการ เวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม  เช่น

    • โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ภาวะความดันโลหิตต่ำ หรือการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินอาหาร อาจทำให้รู้สึกพะอืดพะอมและคลื่นไส้ร่วมกับอาการเวียนหัวได้
    • ไมเกรน อาการปวดหัวแบบไมเกรนบางครั้งอาจมีอาการเวียนหัวร่วมด้วย
    • โรคเบาหวาน อาการน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงอาจทำให้เกิดอาการเวียนหัว


 วิธีบรรเทาอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม กินอะไรหาย


2. วิธีบรรเทาอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม กินอะไรหาย


หลายคนอาจเคยเจอ อาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ และสามารถดูแลสุขภาพตัวเองเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง แต่หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา

 

  • วิธีดูแลอาการเบื้องต้น

    • พัก นอนพัก หรือหลับตาสักครู่ จนกว่าอาการจะบรรเทา
    • งดทำกิจกรรม ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น ขับรถ วิ่งออกกำลังกาย 
    • ดื่มน้ำ ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น
    • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว หรือท่าทางที่ทำให้เกิดการเวียนหัว
    • รับประทานอาหารอ่อน เลือกอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ผลไม้สุก
    • สูดอากาศบริสุทธิ์ หาที่โล่ง ๆ อากาศถ่ายเทสะดวก
    • ใช้ยาแก้คลื่นไส้ หากอาการรุนแรง สามารถรับประทานยาแก้คลื่นไส้ที่ซื้อได้ตามร้านขายยา แต่ควรอ่านฉลากและปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้
    • หากมีอาการลิ้นแข็งพูดไม่ชัด แขนขาไม่มีแรง ตัวชา ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองที่ต้องระวัง

 

  • อาการแบบไหนควรไปพบแพทย์

    • อาเจียนมากกว่า 2 วัน
    • หากเป็นเด็กแล้วมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากกว่า 1 วัน
    • มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเรื้อรังอยู่นานกว่า 1 เดือน โดยอาจเป็น ๆ หาย ๆ
    • น้ำหนักลดลงผิดปกติ

 

  • หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียนควรรีบไปพบแพทย์ทันที

    • มีไข้สูง
    • คอแข็ง รู้สึกตึงบริเวณต้นคอใกล้กับท้ายทอย
    • เหงื่อออกมากผิดปกติ
    • ปวดหัวอย่างรุนแรง
    • เจ็บหน้าอก
    • เจ็บบริเวณช่องท้อง
    • การมองเห็นแย่ลง สายตาพร่าเบลอ
    • เวียนศีรษะ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
    • อาเจียนอาหารที่รับประทานเข้าไปอย่างต่อเนื่องมากกว่า 12 ชั่วโมง


วิธีป้องกันก่อนอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม


3. วิธีป้องกันก่อนอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และพะอืดพะอม สามารถป้องกัน และดูแลตัวเองได้ดังนี้

 

  • ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

    • พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟู
    • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
    • กินอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
    • ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว

 

  • หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น

    • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่อากาศร้อนอบอ้าว ความร้อนอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน
    • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีกลิ่นแรง กลิ่นฉุนแรงอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้
    • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่รุนแรง การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วหรือเปลี่ยนท่าทางกระทันหันอาจทำให้เกิดอาการเวียนหัว
    • หลีกเลี่ยงการอดอาหาร การอดอาหารเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และเกิดอาการเวียนหัว

 

  • จัดการความเครียด

    • ฝึกผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือฟังเพลงเบา ๆ
    • หาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อคลายเครียดและผ่อนคลาย

 

  • ปรึกษาแพทย์:

    • หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพ
    • หากมีอาการเรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษา


อาการบ้านหมุนเกิดจากอะไร?

4. อาการบ้านหมุนเกิดจากอะไร?


อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับอาการบ้านหมุน ที่หลายคนรู้จัก โดยจะเกิดอาการมึนหัว รู้สึกมึนงง รู้สึกร่างกายลอย ๆ โคลงเคลง ไม่มั่นคง และในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย โดยสาเหตุเบื้องต้นที่ส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว หรือบ้านหมุนมี ดังนี้

 

  • โรคหินปูนในหูชั้นใน หรือ BPPV
  • โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
  • โรคไมเกรน
  • โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โรคความดันโลหิตสูง
  • ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยานอนหลับ หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด
  • ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ เมารถ หรือเมาเรือ

 

  • อาการบ้านหมุนแบบไหน ควรต้องพบแพทย์

    • มึนงง เวียนศีรษะ
    • เดินเซทรงตัวผิดปกติ
    • คลื่นไส้ อาเจียน
    • สูญเสียการทรงตัว
    • หูอื้อ มีเสียงดังในหู
    • หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม


  • เมื่อเกิดอาการบ้านหมุน ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

    • หยุดเคลื่อนไหวทันที เมื่อเกิดอาการ ให้หยุดพักในท่าที่สบาย
    • ปรับท่าทางช้า ๆ ลุกขึ้น หรือ นอนลงอย่างช้า ๆ เพื่อลดอาการบ้านหมุน
    • ดื่มน้ำ เพื่อรักษาสมดุลในร่างกาย โดยเฉพาะหากเกิดจากภาวะขาดน้ำ
    • หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง ชา ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที


  • วิธีดูแลสุขภาพ ถ้าไม่อยากบ้านหมุน 

    • พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดและหลีกเลี่ยงการอดนอน
    • ออกกำลังกายเพื่อการทรงตัว เช่น โยคะ หรือ Tai Chi ช่วยพัฒนาความสมดุลของร่างกาย
    • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกอาหารที่ลดโซเดียมและน้ำตาล หากมีภาวะน้ำในหูไม่เท่ากัน
    • เลี่ยง คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และบุหรี่


อาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม รวมถึงบ้านหมุน เป็นอาการที่หลายคนพบเจอบ่อย แต่สาเหตุและความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไป ดังนั้น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และเลี่ยงการเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว จะช่วยบรรเทาได้ แต่หากมีอาการรุนแรง หรือ เกิดขึ้นบ่อย กระทบการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะการดูแลที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันผลกระทบในระยะยาวได้ดีที่สุด

 

พร้อมหาตัวช่วยดูแลสุขภาพแบบสบาย ๆ ด้วย ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล 

 

ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท

 

Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)


D Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)


เหมาจ่าย Extra แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต

 

(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง

(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง (แผน Top Up ความคุ้มครอง) และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(5) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

(6) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี

 

  • เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย



ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 18/11/67

🔖hdmall

🔖Vimut Hospital

🔖Phyathai Hospital

🔖Sikarin Hospital

Interested In

I agree that Muang Thai Life Assurance PCL. Collect and use my personal information above to contact me to offer products and services at I am interested or the company saw that it was beneficial to I have by me to equate the mark In the square is an indication of intent. instead of my consent Signing as evidence. I have read and acknowledged the Privacy Policy.

Iteresting Article