คู่มือวางแผนภาษีแบบมือใหม่ เข้าใจง่าย
ถึงเวลาต้องยื่นภาษีอีกแล้วหรอ! คำพูดคุ้นหู ที่ไม่ค่อยคุ้นเคย ของพวกเราผู้มีรายได้ต้องทำหน้าที่เป็นประชาชนที่น่ารักเสียภาษีเพื่อนำเงินไปพัฒนาประเทศทุกๆ ปี เพราะฉะนั้นการวางแผนการจัดการภาษีตั้งแต่เนิ่นๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีงามสำหรับการยื่นช่วงปลายปี โดยเราสามารถตรวจสอบตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเราต้องเสียภาษีจากรายได้ส่วนใด และส่วนใดสามารถนำมาจัดการภาษีได้ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเถอะ
มีรายได้เท่ากับต้องยื่นภาษี
เพราะมีรายได้เราจึงต้องเสียภาษี ท่องไว้ให้ขึ้นใจเลย โดยส่วนใหญ่ผู้มีรายได้ทุกคนจะเป็นผู้มีเงินเดือนประจำไม่ว่าจะเป็น พนักงานออฟฟิศ หรือลูกจ้าง ซึ่งจะถูกหักภาษีจากบริษัทไว้อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้หากคุณมีรายได้จากช่องทางอื่นๆ เข้ามาเสริม ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ หรือทำธุรกิจเสริมที่มีรายได้ พูดเลยต้องนำมาคำนวณภาษีด้วย เพราะการมีรายได้เท่ากับต้องเสียภาษี หากไม่นำมาแสดงระวังงานจะเข้าได้นะพ่อแม่พี่น้อง ฉะนั้นแนะนำให้รวบรวม เอกสารแสดงรายได้ที่ได้รับต่อเดือน หรือต่อจ๊อบจากผู้จ้างเก็บไว้ให้ดี จะช่วยให้คุณยื่นภาษีได้ง่ายและสะดวกขึ้น
MTL Tips : ถ้าบุคคลที่มีเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท (หรือมีเงินเดือนไม่เกิน 26,583.33 บาท) ต้องยื่นภาษี แต่ไม่ต้องเสียภาษี ส่วนใครที่คำนวณดูแล้วเข้าข่ายต้องเสียภาษี ขอแนะนำตัวช่วยในการวางแผนภาษี อาทิเช่นการซื้อกองทุน ประกัน หรือหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับการใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษี เพื่อเข้ามาช่วยวางแผนภาษีของคุณให้เรียบร้อย ถูกต้อง
ขายของออนไลน์ก็ต้องเสียภาษี
เป็นหัวข้อที่ต้องขอย่อยมาจากหัวข้อก่อนหน้า เพราะธุรกิจขายของออนไลน์ค่อนข้างป็อบได้รับความนิยมอย่างมาก จนผู้ขายหลายต่อหลายคนไม่ได้นึกถึง และคุณอาจอยู่ในเงื่อนไขของการเสียภาษี คุณจะถูกตรวจสอบบัญชีอีเพย์เม้นต์ หรือบัญชีออนไลน์นั่นเอง หากมียอดฝากหรือโอนเงินเข้าทุกบัญชี ตั้งแต่ 3,000 ครั้งต่อปีขึ้นไป ไม่ว่าจะรับครั้งละกี่บาทก็ตาม ฝากหรือโอนเงินเข้าทุกบัญชีตั้งแต่ 400 ครั้งต่อปีขึ้นไป และมียอดเงินรวมกันตั้งแต่ 2,000,000 บาทต่อปีขึ้นไป ซึ่งต้องเข้าเงื่อนไขทั้งจำนวนครั้ง และจำนวนมูลค่าของเงินที่รับฝากหรือโอน ซึ่งสิ่งที่เราอยากแนะนำเลยคือผู้ที่ขายของออนไลน์ควรต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย และจดทะเบียนบริษัทให้ถูกต้องอย่างละเอียด เพราะหากตรวจสอบแล้วพบเจอคุณอาจจะมีโอกาสเสียภาษีเพิ่มก็ได้
MTL Tips : หากคุณประเมินตัวเองแล้วว่ามีโอกาสอยู่ในเงื่อนไขผู้ต้องเสียภาษีอีเพย์เมนต์ และอยากทำธุกิจออนไลน์แบบจริงจังในอนาคต ขอแนะนำให้คิดราคากำไรของสินค้า พร้อมบวกกับภาษีไปด้วยจะเป็นผลดีกับคุณ เพราะหากถึงเวลาต้องเสียภาษีคุณจะได้ไม่ต้องหยิบกำไรที่ได้มาจ่ายภาษีแทน
ประกันกับการวางแผนภาษี
หลายคนอาจจะทราบว่าการออมเพื่อการลงทุนในระยะยาวนั้นมีเพียงกองทุนที่สามารถนำมาใช้สิทธิทางภาษีได้ แต่ความจริงแล้วยังมี “ประกัน” อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะคุ้มครองเราแล้วยังสามารถออมเพื่ออนาคตไปพร้อมๆ กัน ที่สำคัญสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยนำเบี้ยประกันที่เราได้ซื้อไว้มาคำนวณเพื่อจัดการภาษีปลายปี สำหรับประกันที่สามารถนำมาใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ ประกันชีวิต ประกันบำนาญ ประกันสุขภาพ ประกันเพื่อบิดามารดา ประกันคู่สมรส ส่วนค่าเบี้ยประกันรวมที่เราสามารถนำมาใช้สิทธิทางภาษีได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบของประกันที่เราได้ทำว่าสามารถนำมาใช้สิทธิได้ไม่เกินกี่บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
MTL Tips : การซื้อประกันเพื่อคุ้มครองและการออมสำหรับการวางแผนภาษี แนะนำว่าควรซื้อประมาณวันที่ 15 ธันวาคม 2562 เพราะประกันบางประเภทจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบก่อน ส่วนบางประเภทก็สามารถทำได้เลย ดังนั้นควรเผื่อเวลาในการทำจะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับคุณในการจัดการภาษี
การจัดการภาษีต้องมีพร้อมเพย์
ขั้นตอนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ เพื่อความรวดเร็วในการขอคืนภาษีเงินได้คุณต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ช่วยลดภาระในการเดินทางไปยังธนาคารของประชาชน ป้องกันการศูนย์หายของเอกสารสำคัญ ที่สุดแล้วเลยคือคุณจะได้เงินคืนเร็วมากกกกก
MTL Tips : ช่องทางการรับภาษีคืนสะดวก รวดเร็วชัวร์ๆ เพียงปลายนิ้วสมัครการใช้งานพร้อมเพย์ได้ ง่ายๆ ผ่าน Online Banking แค่มีแอพพลิเคชั่นของธนาคารและเลขบัตรประชาชน เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็จบบริบูรณ์