Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

จากจ่ายมาก เป็นจ่ายน้อย เทคนิคลดหย่อนภาษีที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้

จากจ่ายมาก เป็นจ่ายน้อย เทคนิคลดหย่อนภาษีที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้

February 28, 2025

5 minute

ในฐานะเจ้าของธุรกิจ การวางแผนลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะภาษีเป็นส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของธุรกิจทุกประเภท การวางแผนภาษีอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณสามารถลดภาระภาษีที่ต้องจ่าย และนำเงินส่วนต่าง ไปลงทุนหรือพัฒนาธุรกิจของคุณได้ ซึ่งเทคนิคลดหย่อนภาษีสำหรับเจ้าของธุรกิจมีหลากหลายวิธี โดยแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป รวมถึงแต่ละประเภทธุรกิจ ก็อาจมีการลดหย่อนภาษีคนละแบบ เช่น การเสียภาษีร้านค้า บุคคลธรรมดา หรือเป็นเจ้าของกิจการคนเดียว มีการเสียภาษีอย่างไร ดังนั้นมาดูวิธีลดหย่อนภาษีของเจ้าของธุรกิจกันว่า จ่ายภาษีแบบไหนคุ้มค่าที่สุด


ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ


1. ภาษีสำหรับธุรกิจคืออะไร

2. วิธีลดหย่อนภาษีบริษัท มีอะไรบ้าง

3. ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง

4.  เจ้าของกิจการคนเดียว เสียภาษี อย่างไร



ประเภทของภาษีสำหรับธุรกิจ


1. ภาษีสำหรับธุรกิจคืออะไร


ภาษีสำหรับธุรกิจ คือเงินที่ธุรกิจต้องจ่ายให้กับรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลนำเงินภาษีไปใช้ในการพัฒนาประเทศและให้บริการสาธารณะต่าง ๆ ภาษีสำหรับธุรกิจมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่ธุรกิจต้องแบกรับ และมีผลต่อกำไรของธุรกิจ


ประเภทของภาษีสำหรับธุรกิจ


ภาษีสำหรับธุรกิจมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีกฎหมายและอัตราภาษีที่แตกต่างกันไป ประเภทของภาษีสำหรับธุรกิจที่สำคัญมีดังนี้

  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล: เป็นภาษีที่เก็บจากกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): เป็นภาษีที่เก็บจากการขายสินค้าหรือให้บริการในประเทศไทย
  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย: เป็นภาษีที่ผู้จ่ายเงินได้หักไว้เมื่อจ่ายเงินให้กับผู้รับเงินได้
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ: เป็นภาษีที่เก็บจากธุรกิจบางประเภท เช่น ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจโรงรับจำนำ
  • ภาษีสรรพสามิต: เป็นภาษีที่เก็บจากสินค้าบางประเภท เช่น สุรา ยาสูบ น้ำมัน



วิธีลดหย่อนภาษีบริษัท


2. วิธีลดหย่อนภาษีบริษัท มีอะไรบ้าง


ในฐานะเจ้าของธุรกิจ การทราบถึงรายจ่ายที่สามารถช่วยประหยัดภาษีได้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อช่วยลดภาระภาษีและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจของคุณ ซึ่งรายการรายจ่าย ที่เจ้าของกิจการควรทราบ ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้มีดังนี้


1. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโดยตรง ซึ่งสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ เช่น


  • ค่าเช่า ค่าเช่าสำนักงาน ค่าเช่าโกดังสินค้า ค่าเช่าเครื่องจักร
  • ค่าจ้างพนักงาน เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส ค่าสวัสดิการพนักงาน
  • ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต
  • ค่าเดินทาง ค่าเดินทางของพนักงาน ค่าเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ
  • ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ ค่าเสื่อมราคาของอาคาร อุปกรณ์ เครื่องจักร


2. ค่าใช้จ่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนา (R&D)

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ หรือการปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการเดิม สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ เช่น


  • ค่าจ้างนักวิจัย เงินเดือน ค่าจ้าง ของนักวิจัย
  • ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิจัยและพัฒนา
  • ค่าทดสอบ ค่าทดสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่


3. ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงาน

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน เช่น ค่าอบรม ค่าสัมมนา สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้


4. เงินบริจาค

เงินบริจาคให้กับองค์กรการกุศล หรือองค์กรที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้


5. ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสินทรัพย์

ค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ โดยการหักค่าเสื่อมราคา


6. สิทธิประโยชน์ทางภาษี

รัฐบาลมักจะมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนหรือการจ้างงาน ซึ่งมาตรการเหล่านี้มักจะมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่น่าสนใจ เจ้าของธุรกิจควรศึกษาและใช้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์



ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง


3.ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง


ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหลายประการ ซึ่งจะช่วยลดภาระภาษีและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ SME มาดูกันว่าสิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ประกอบการนิติบุคคล SME มีอะไรบ้าง


1. ยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล


  • ยกเว้นภาษี: บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล SME ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิส่วนแรก 300,000 บาทแรก
  • ลดอัตราภาษี: หากกำไรสุทธิเกิน 300,000 บาท จะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนี้
    • กำไรสุทธิ 300,001 - 3,000,000 บาท: อัตราภาษี 15%
    • กำไรสุทธิเกิน 3,000,000 บาท: อัตราภาษี 20%


2. สิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ SME ยังสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ เช่น


  • หักค่าใช้จ่ายได้มากกว่าปกติ: บางรายการค่าใช้จ่าย สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้มากกว่าปกติ เช่น ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา
  • ลดหย่อนภาษีจากเงินสนับสนุน: หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในบางโครงการ อาจมีสิทธิในการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม


เงื่อนไขสำคัญ

  • คุณสมบัติของ SME: ต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น ทุนจดทะเบียน รายได้ จำนวนพนักงาน
  • การยื่นภาษี: ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล และปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง


4. เจ้าของกิจการคนเดียว เสียภาษี อย่างไร


เจ้าของกิจการคนเดียว หรือผู้ประกอบการรายย่อย ถือเป็นบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ ดังนั้น การเสียภาษีของเจ้าของกิจการคนเดียว จะเป็นการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณดังนี้


1. การคำนวณภาษี

  • เงินได้พึงประเมิน: รายได้จากการประกอบธุรกิจถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ซึ่งต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่น ๆ ของเจ้าของกิจการ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ดอกเบี้ย เงินปันผล
  • ค่าใช้จ่าย: เจ้าของกิจการสามารถหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจได้ เช่น ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ค่าสินค้า ค่าเดินทาง ค่าเสื่อมราคา
  • ค่าลดหย่อน: เจ้าของกิจการสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลต่าง ๆ เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนประกันชีวิต
  • เงินได้สุทธิ: เงินได้สุทธิคือเงินได้พึงประเมิน หักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
  • อัตราภาษี: เงินได้สุทธิจะถูกนำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได


2. การยื่นภาษี

  • แบบแสดงรายการภาษี: เจ้าของกิจการต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91)
  • กำหนดเวลายื่นภาษี: ปกติแล้ว กำหนดเวลายื่นภาษีจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ของทุกปี


3. ข้อควรทราบ

  • การจัดทำบัญชี: เจ้าของกิจการควรจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการคำนวณภาษีและเป็นหลักฐานในการยื่นภาษี
  • การวางแผนภาษี: การวางแผนภาษีล่วงหน้า จะช่วยให้เจ้าของกิจการ สามารถประเมินภาระภาษีที่ต้องจ่าย และวางแผนการลดหย่อนภาษีได้อย่างเหมาะสม
  • การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ


4. ตัวอย่างการคำนวณภาษี (แบบง่าย)

สมมติว่าเจ้าของกิจการมีเงินได้จากการประกอบธุรกิจ 500,000 บาท มีค่าใช้จ่าย 200,000 บาท และมีค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท

  • เงินได้สุทธิ = 500,000 - 200,000 - 60,000 = 240,000 บาท
  • ภาษีที่ต้องจ่าย (คำนวณตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา)


การลดหย่อนภาษีเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการลดภาระภาษีและเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจ การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคลดหย่อนภาษีต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดภาษีได้มากขึ้น เตรียมวางแผนการยื่นภาษีกันไปแล้ว อย่าลืมวางแผนลดหย่อนภาษีกันด้วยนะ คุ้มสองต่อได้ทั้งความคุ้มครองสุขภาพและลดหย่อนภาษี ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท และยังสามารถนำค่าเบี้ยไปลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 25,000 บาท อีกด้วย


รายละเอียดเพิ่มเติม 

☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต 


  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย


ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 24/02/68

🔖 scb

🔖 post today

🔖 wayaccounting

🔖 nexcloudsolution

Interested In

I agree that Muang Thai Life Assurance PCL. Collect and use my personal information above to contact me to offer products and services at I am interested or the company saw that it was beneficial to I have by me to equate the mark In the square is an indication of intent. instead of my consent Signing as evidence. I have read and acknowledged the Privacy Policy.

Interesting articles