คณะกรรมการบริษัท มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายที่สำคัญ ดูแลให้ บริษัทฯ มีกลไกในการบริหารความเสี่ยง และการควบคุมกำกับที่มีประสิทธิผล ติดตามการดำเนินงานของผู้บริหารให้เป็นไปตามกลยุทธ์ และนโยบาย ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงกำกับดูแลให้ผู้บริหารรายงานเรื่องที่สำคัญของบริษัทฯ และมีกระบวนการในการรายงานข้อมูล เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอ และทันต่อเหตุการณ์ที่จะปฏิบัติตามอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม โปร่งใส รับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และสร้างคุณค่าให้บริษัทฯ อย่างเหมาะสมในระยะยาว
คณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะอำนวยการบริหาร ให้มีบทบาทเสมือนหนึ่งเป็นคณะกรรมการในเรื่องที่เกี่ยวกับฝ่ายจัดการ และให้มีความรับผิดชอบเบื้องต้นในการหารือข้อกลยุทธ์และร่วมมือกับฝ่ายจัดการในการดำเนินงานตามแผนธุรกิจและงบประมาณ นอกจากนี้ คณะอำนวยการบริหาร มีหน้าที่กำกับดูแลให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจอื่น การใช้บริการจากบุคคลภายนอก และการปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยและการเสนอขายกองทุนรวม ที่ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือใช้ประโยชน์จากความเข้าใจผิดของลูกค้า การให้บริการลูกค้า การชดใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต และการประวิงการใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต และการบริหารจัดการข้อร้องเรียนของลูกค้าที่เป็นธรรม รวมถึงการดูแลข้อมูลของลูกค้า สำหรับเรื่องการลงทุนนั้น คณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารด้านการลงทุน ให้ทำหน้าที่กำกับดูแลให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการผลิตภัณฑ์ ให้ทำหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการออกผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ เป้าหมายทางการเงินและแผนงานที่คณะกรรมการบริษัทกำหนด
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท ยังได้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อช่วยสนับสนุนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทในด้านต่างๆ ดังนี้
1) คณะกรรมการตรวจสอบ
2) คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
3) คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
4) คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน
1) โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัท
1.1) โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัท
บริษัทฯ มีการกำหนดเกี่ยวกับโครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทเพื่อให้มีความเหมาะสมกับขนาดและความซับซ้อนของกิจการ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง การกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญดังนี้
- ข้อบังคับบริษัท ข้อที่ 31 กำหนดว่า “ให้บริษัทมีคณะกรรมการเพื่อดำเนินกิจการของบริษัท ประกอบด้วยกรรมการจำนวนไม่เกินสิบหก 16 คน โดยกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง (1/2) ของจำนวนกรรมการทั้งหมด จะต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และกรรมการไม่ต่ำกว่าสามในสี่ (3/4) ของจำนวนกรรมการทั้งหมด จะต้องมีสัญชาติไทย”
- กฎบัตรคณะกรรมการบริษัท กำหนดว่า โครงสร้างของคณะกรรมการ
-
- เป็นกรรมการที่เป็นผู้บริหารได้ไม่เกินหนึ่งในสาม(1/3) ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
- เป็นกรรมการอิสระไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่(1/4)ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
- ประธานคณะกรรมการของบริษัทต้องเป็นกรรมการอิสระ หรือกรรมการที่ไม่เป็นกรรมการที่เป็นผู้บริหาร
1.2) คุณสมบัติของกรรมการบริษัท
ตามกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท กรรมการบริษัทจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ว่าด้วยประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประกาศต่างๆ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการบริษัท
1.3) คุณสมบัติของกรรมการอิสระ
ตามกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท กรรมการอิสระจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ว่าด้วยประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประกาศต่างๆ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการอิสระ
1.4) บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังต่อไปนี้
1) กำหนดทิศทางและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ รวมทั้งพิจารณาอนุมัตินโยบายและงบประมาณประจำปีของบริษัทฯ โดยการกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกรอบการบริหารความเสี่ยงและนโยบายการบริหารความเสี่ยง รวมถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของบริษัทฯ
2) พิจารณาอนุมัติกรอบนโยบายการลงทุนและการประกอบธุรกิจอื่น ติดตาม ควบคุมดูแลให้การลงทุน และการประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทฯ มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ และภาระผูกพัน
3) กำกับดูแลในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Development) ซึ่งครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และ ด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance and Economic) ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงนาแนวปฏิบัติที่ดีและมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาประกอบการพิจารณา
4) พิจารณาทบทวนและอนุมัติกรอบการบริหารความเสี่ยง นโยบายการบริหารความเสี่ยงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รายงานการบริหารความเสี่ยงแบบองค์รวมและการประเมินความเสี่ยงและความมั่นคงทางการเงินของบริษัทฯ กระบวนการและการควบคุมทางด้านการบริหารความเสี่ยงโดยรวมของบริษัทฯ ให้สอดคล้อง ตามข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลที่กำหนด
5) ดำเนินการให้บริษัทฯ มีระบบการควบคุมภายใน และการตรวจสอบภายในที่มีประสิทธิภาพ
6) กำกับดูแลในเรื่องการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ ให้อยู่ในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ให้มีการจัดทำรายงานสถานะความเสี่ยงและรายงานการปฏิบัติตามนโยบายการบริหารความเสี่ยงดูแลฐานะเงินกองทุนของบริษัทฯ ให้อยู่ในระดับที่มั่นคงและเพียงพอที่จะรองรับการดำเนินธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและหน่วยงานบริหารความเสี่ยงให้สามารถปฏิบัติตามหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์และได้รับการจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอ
7) ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทฯ ตลอดจนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ
8) ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย โดยมีอำนาจและความรับผิดชอบตามที่คณะกรรมการบริษัทกำหนด
9) เลือกบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ
10) แต่งตั้ง หรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นใดดำเนินกิจการของบริษัทฯ ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการบริษัท ภายในเวลาตามที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร
11) พิจารณาอนุมัติรายงานทางการเงินประจำไตรมาส งวดหกเดือน และประจำปีที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และการสอบทานของคณะกรรมการตรวจสอบ
2) การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัท ได้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อช่วยสนับสนุนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทในด้านต่างๆ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
2.1) คณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบ ทำหน้าที่กำกับดูแลให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายต่างๆ ดังนี้
- นโยบายการควบคุมภายใน ซึ่งทำให้เกิดความมั่นใจอย่างสมเหตุสมผลว่าการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์สร้างผลประโยชน์ตอบแทนในระยะยาวและมีรายงานข้อมูลทางการเงินและการดำเนินการที่น่าเชื่อถือ ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ และป้องกันมิให้เกิดการกระทำอันอาจก่อความเสียหายต่อชื่อเสียงบริษัทฯ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจ (Check and Balance) และเป็นไปตามกฎหมาย
- นโยบายต่อต้านการคอร์รัปชัน ซึ่งมีแนวปฏิบัติและข้อกำหนดในการดำเนินธุรกิจและการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมีวัตถุประสงค์ห้ามการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ โดยกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ตัวแทน นายหน้า ตลอดจนบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ไม่ว่าเพื่อประโยชน์ต่อบริษัทฯ หรือต่อตนเอง ครอบครัว เพื่อน หรือคนรู้จัก
- นโยบายการรับแจ้งข้อมูลหรือข้อร้องเรียน ซึ่งมีกระบวนการรับแจ้งข้อมูลหรือข้อร้องเรียนภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีการสอดส่องดูแลและรายงานการกระทำที่อาจผิดกฎหมาย ขัดต่อนโยบาย ระเบียบ กระบวนการภายใน และจรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ
โดยกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน จะต้องไม่ทำการที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- นโยบายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายฯ
- นโยบายการบริหารความเสี่ยงด้านการฉ้อฉล เพื่อให้บริษัทฯ สามารถยับยั้ง ป้องกัน ตรวจหา รายงาน จัดการ และเยียวยาความเสียหายจากการฉ้อฉล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คณะกรรมการตรวจสอบ ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลให้บริษัทฯ มีกระบวนการจัดทำรายงานทางการเงินที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ และเปิดเผยข้อมูลสำคัญต่างๆ อย่างถูกต้อง เพียงพอ ทันเวลาต่อสาธารณะและหน่วยงานกำกับตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำกับดูแลผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามนโยบายที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีภายนอก โดยครอบคลุมถึงเรื่องดังต่อไปนี้
1) พิจารณาแต่งตั้งและถอดถอน บุคคลที่มีความเป็นอิสระเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ และกำหนดค่าตอบแทนอย่างเหมาะสม และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป
2) พิจารณารายงาน (Management Letter) ผู้สอบบัญชี และเสนอข้อคิดเห็นต่อรายงานถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ
3) มีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบและผู้สอบบัญชีของบริษัทฯเป็นประจำอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งโดยไม่มีผู้บริหารเข้าร่วมประชุมด้วย
4) กำกับดูแลการใช้บริการอื่นของผู้สอบบัญชีต้องไม่กระทบต่อความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชี
นอกจากนี้ คณะกรรมการตรวจสอบ ทำหน้าที่กำกับดูแลให้บริษัทฯ มีระบบการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การควบคุมภายในที่เพียงพอเหมาะสม ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และดูแลให้ผู้บริหารรายงานเรื่องที่สำคัญของบริษัทฯ รวมถึงกรณีพบประเด็นเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน ต้องมีการรายงานประเด็นที่พบอย่างเร่งด่วนต่อคณะกรรมการบริษัท และรายงานสถิติข้อมูลหรือข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชันต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับทราบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอที่จะปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบได้อย่างสมบูรณ์
2.2) คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
- กำหนดนโยบายเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาในเรื่องการบริหารความเสี่ยงโดยรวม ซึ่งต้องครอบคลุมถึงความเสี่ยงประเภทต่างๆ ที่สำคัญของบริษัทฯ รวมถึงทบทวนความเหมาะสมของนโยบายการบริหารความเสี่ยง และนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัทฯ
- ดูแลให้บริษัทฯ มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องอำนาจ หน้าที่ ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการความเสี่ยง และลำดับขั้นการรายงานความเสี่ยง โดยให้สอดคล้องกับกฎ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
- ดูแลให้บริษัทฯ มีกระบวนการในการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพียงพอ มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และสอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยง กฏ ระเบียบ หลักเกณฑ์ที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และให้เป็นไปตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี โดยให้มีการระบุ ประเมิน ตอบสนอง ติดตาม ทบทวน และรายงานความเสี่ยง และรายงานข้อมูลอย่างน้อยตามที่กฎหมายกำหนดต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับทราบ รวมถึงการจัดทำการทดสอบภาวะวิกฤต การจัดให้มีแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ การกำหนดให้มีกระบวนการทดสอบแบบจำลอง มีระบบข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ สม่ำเสมอ สมบูรณ์ และสามารถใช้ในการตัดสินใจได้
- ให้คำปรึกษาแก่คณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงหรือประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของบริษัทฯ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสม รวมไปถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเด็นใดๆ ที่อาจนำไปสู่การละเมิดต่อกฎระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
- ติดตามและให้คำแนะนำต่อคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับความเหมาะสมและความเพียงพอของโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือ ทรัพยากร ระบบ และเอกสารสำหรับใช้ในการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้เกิดการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์
- ทบทวนและให้คำแนะนำต่อคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการกำหนดความเสี่ยงที่มุ่งหวัง ช่วงความเบี่ยงเบนที่ยอมรับได้ ขีดจำกัดความเสี่ยง รวมถึงสมมติฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบบจำลองด้านการบริหารความเสี่ยง
- ติดตามและให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินกองทุนในปัจจุบันและในอนาคตของบริษัทต่อคณะกรรมการบริษัทอย่างสม่ำเสมอ
- พิจารณาและจัดเตรียมแผนบรรเทาความเสี่ยงเพื่อรับมือกับความเสี่ยงกรณีฉุกเฉิน
2.3) คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่หลักใน 2 ด้าน ดังนี้
1. ด้านการสรรหา
คณะกรรมการสรรหาฯ มีหน้าที่ในการพิจารณา สรรหา และคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ตามข้อกำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เมื่อตำแหน่งกรรมการของบริษัทฯ ว่างลง หรือกรรมการถึงกำหนดออกตามวาระ โดยพิจารณาจากผู้ที่มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ และมีประสบการณ์ที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างรอบด้าน
2. ด้านการกำหนดค่าตอบแทน
คณะกรรมการสรรหาฯ มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดนโยบายและพิจารณาค่าตอบแทนสำหรับกรรมการและกรรมการชุดย่อยของบริษัทฯ รวมทั้งค่าเบี้ยประชุมโบนัสประจำปี สวัสดิการและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นๆ ทั้งที่เป็นตัวเงินและมิใช่ตัวเงิน โดยดูแลให้กรรมการ และกรรมการชุดย่อยของบริษัทฯ ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบของกรรมการ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามหลัก Fiduciary Duty อันเป็นภาระหน้าที่ที่กำหนดโดยกฎหมาย และกรรมการจะต้องมีความรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาหากไม่ได้ปฏิบัติตาม ความทุ่มเท (Dedication) ของกรรมการแต่ละคน รวมทั้งคุณค่า (Value) ที่ได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ
นอกจากนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาถึงเรื่องความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกลยุทธ์และเป้าหมายระยะยาวในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งคำนึงถึงผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance and Economic) และมีการเทียบเคียงกับอัตราค่าตอบแทนกรรมการในกลุ่มธุรกิจประกันภัยที่อยู่ในระดับเดียวกันด้วย
นโยบายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการสรรหาฯ มีดังนี้
- นโยบายการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนกรรมการบริษัท รวมถึงนโยบายการจ่ายค่าตอบแทนของผู้บริหารและบุคลากรหลักในหน่วยงานควบคุม และพนักงานในหน่วยงานที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญ (Major Risk-Taking Staff) ซึ่งมีการกำหนดโดยสะท้อนวัตถุประสงค์และความเสี่ยงของแต่ละหน่วยงานโดยคำนึงถึงความมั่นคงในระยะยาวของบริษัทฯ รวมถึงไม่สร้างแรงจูงใจในการทำธุรกรรม ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงมากเกินไปจนกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทฯ และผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย
2.4) คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน
คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
- กำหนด และทบทวน กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี นโยบายการกำกับดูแลกิจการ จรรยาบรรณ และจริยธรรมทางธุรกิจ และนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และแนวปฏิบัติสากล
- ให้ความเห็นชอบและอนุมัติ กรอบและนโยบายการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- ดูแล ให้คำแนะนำ เพื่อให้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืนมีผลในทางปฏิบัติ อย่างมีความต่อเนื่อง และเหมาะสมกับธุรกิจของบริษัทฯ
- ติดตาม และดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
- รายงานต่อคณะกรรมการบริษัท เกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ พร้อมให้ความเห็นในแนวปฏิบัติและข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ไขปรับปรุงตามความเหมาะสม
- แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานชุดต่าง ๆ ตามที่เห็นสมควร
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน มีหน้าที่ในการจัดทำแบบประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อยในรูปแบบองค์รวมทั้งคณะและแบบรายบุคคล เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติให้มีการทำการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นประจำทุกปี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทฯ และส่งเสริมการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคณะกรรมการยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิผล
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน มีการรายงานผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารต่อคณะกรรมการบริษัท เป็นประจำทุกปี ด้วย
นโยบายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน มีดังต่อไปนี้
- กรอบและนโยบายการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมใน 3 มิติ ได้แก่ มิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ โดยมีการกำหนดนโยบาย และแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เพื่อให้ทุกหน่วยงานของบริษัทฯ มีการนำไปปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม
- กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสำหรับคณะกรรมการบริษัทเพื่อให้คณะกรรมการบริษัทตระหนักและเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะเป็นผู้นำ ขององค์กรที่ต้องกำกับดูแลให้มีการบริหารจัดการที่ดี และนำไปใช้ในการกำกับดูแลให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีในระยะยาว น่าเชื่อถือ เพื่อประโยชน์ในการสร้างคุณค่าให้บริษัทฯ อย่างยั่งยืน
- นโยบายการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งประกอบด้วยหลักการและแนวปฏิบัติที่ดี 5 หมวด ได้แก่ 1.สิทธิของผู้ถือหุ้น 2. การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน 3. บทบาทต่อผู้มีส่วนได้เสีย 4.การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และ 5. ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
- จรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ ซึ่งเป็นแนวทางและบรรทัดฐานในการปฏิบัติงาน โดยยึดแนวทางการบริหารจัดการที่ดีตามหลักบรรษัทภิบาลเพื่อให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- นโยบายการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำ เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง หรือเกิดปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และการไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่สำคัญของบริษัทฯ โดยกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน จะต้องไม่ทำการที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์