ชีวิตติดจอ ระวังวุ้นตาเสื่อม!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตเป็นอย่างมาก ทั้งการทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ หรือในชีวิตประจำวันที่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อติดต่อสื่อสารหรือดูความเคลื่อนไหวในแต่ละวัน ไม่ว่าจะก่อนนอนก็ต้องจับโทรศัพท์ ตื่นมามือก็ควานหาเป็นอย่างแรก แต่รู้หรือไม่การติดจอมาก ๆ ยังทำให้วุ้นตาเสื่อมอีกด้วย แม้โรคนี้จะเป็นโรคที่พบได้ในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันพฤติกรรมการใช้สายตาอย่างผิดวิธี ทำให้ดวงตาถูกใช้งานอย่างหนัก จนสายตาเสียจนทำให้วุ้นตาเสื่อมขึ้นมา แล้ววุ้นตาเสื่อมคืออะไร ส่งผลเสียต่อดวงตาแค่ไหน เป็นแล้วหายหรือไม่ ตามมาดูกัน
1. วุ้นตาเสื่อมคืออะไร มีอาการอย่างไร
4. ดูแลดวงตาให้ชะลอวุ้นตาเสื่อมก่อนวัย
1. วุ้นตาเสื่อมคืออะไร มีอาการอย่างไร
ในลูกตาของเราจะมีวุ้นตา (vitreous) เป็นส่วนประกอบในลูกตา ซึ่งจะอยู่ระหว่างตัวเลนส์กับตัวจอประสาทตา มีหน้าที่ในการคงภาวะตัวลูกตาไว้ มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ โปรตีน และเส้นใย เมื่ออายุมากขึ้นวุ้นตาก็เริ่มเสื่อม เมื่อวุ้นตาเริ่มเสื่อมตัวกลายสภาพเป็นน้ำ เส้นใยไฟเบอร์ขนาดเล็กในตาจะหดจับกันเป็นก้อนตะกอนขุ่น และวุ้นตาจะลอกออกจากผิวจอตา โดยมีอาการดังนี้
- เห็นเงาดำลอยไปมาในตา
- เห็นเงาดำจุดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- มองไม่ชัด เหมือนมีหยากไย่ในลูกตา
- เห็นแสงวาบในตา
- ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง
2. สาเหตุของวุ้นตาเสื่อม
ส่วนมากเรามักจะรู้กันอยู่แล้วว่าโรควุ้นตาเสื่อม มักเกิดเมื่ออายุเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยพบมากในผู้ที่มีอายุมาก 40 ปีขึ้นไป แต่ในบางคนก็อาจมีปัจจัยมากระตุ้นให้เกิดภาวะวุ้นในตาเสื่อมได้เร็วขึ้น ซึ่งพบในวัยหนุ่มสาว และคนทำงานออฟฟิศมากขึ้น โดยมีสาเหตุดังนี้
- ใช้งานดวงตาที่หนัก จ้องจอมากเกินไป
- ได้รับการกระทบกระเทือนที่ดวงตา
- การผ่าตัดที่กระทำภายในลูกตา
- คนที่สายตาสั้นมาก ๆ ยิ่งสั้นมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น
- มีภาวะแทรกซ้อนจากต้อกระจก
- มีภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน
3. วุ้นตาเสื่อมอันตรายหรือไม่
สำหรับหลายคนที่กำลังร้อน ๆ หนาว ๆ เพราะอาการที่ว่ามานั้นเข้าข่ายหลายเลยข้อทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าโรควุ้นตาเสื่อมนั้น เป็นภาวะที่เกิดจากธรรมชาติ ในคนที่มีอาการมองเห็นเงาดำลอยไปลอยมา ไม่มีรอยฉีกขาดของจอประสาทตา มักเป็นอาการที่ทำให้เกิดความรำคาญเท่านั้น แต่ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้สายตามัวลง พอนานไปอาจชินและสามารถปรับตัวได้เอง หรือเงาดำอาจหลบไปจากแนวสายตา หรือค่อย ๆ ลดลง และอาจหายไปในที่สุดเอง จึงไม่จำเป็นต้องรักษาแต่อย่างใด แต่ในกรณีที่ จอประสาทตาฉีกขาด เบาหวานขึ้นตาควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที
4. ดูแลดวงตาให้ชะลอวุ้นตาเสื่อมก่อนวัย
การดูแลดวงตาให้ยืดอายุวุ้นตาเสื่อมก่อนวัยนั้น มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- ไม่ควรใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรพักสายตาทุก 20 นาที
- ปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอโทรศัพท์มือถือให้สว่างพอดีและสบายตา ไม่จ้าหรือมืดเกินไป เพราะจะทำให้สายตาใช้งานหนักเกินไป
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
- เข้ารับการตรวจตาพร้อมกับวัดสายตาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจาก โรคจอประสาทตาเสื่อมจากอายุ ภาวะวุ้นในตาเสื่อม
- ไม่กินอาหารซ้ำ ๆ ควรกินอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ และอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตา เช่น บูลเบอร์รี่สกัด เบต้าแคโรทีน แอสต้าแซนทีน ฯลฯ
หากอยากยืดอายุการใช้งานดวงตาไม่ให้วุ้นตาเสื่อมก่อนวัย ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพลดการติดจอให้พอดี เพราะเราไม่รู้ว่าโรคร้ายต่าง ๆ จะมาเยือนตอนไหน การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อให้ห่างไกลโรคจึงเป็นเรื่องสำคัญเสมอ และไม่ว่าจะวัยไหน เพศใด ก็ควรเริ่มดูแลสุขภาพตัวเอง รวมไปถึงการตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำทุกปี หรือสามารถเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจด้วยการซื้อประกันสุขภาพตั้งแต่ตอนที่เรายังแข็งแรง มีสุขภาพดี หากมีแล้วจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 29/04/65
🔖 Medthai