7 โรคระบบทางเดินหายใจยอดฮิต รู้ไว้… ป้องกันได้
หายใจไม่ออก ไอเรื้อรัง หรือรู้สึกเหนื่อยง่ายผิดปกติ? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือน ว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับ "โรคระบบทางเดินหายใจ" ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญ ที่ใช้ในการหายใจ ไม่ว่าจะเป็นจมูก ลำคอ กล่องเสียง หลอดลม และปอด ซึ่งในแต่ละวัน เราต้องหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกาย และในอากาศยังปะปนไปด้วยฝุ่นละออง มลภาวะ เราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับ 7 โรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อย พร้อมวิธีสังเกตอาการ และแนวทางการป้องกันเบื้องต้น เพื่อให้คุณรู้เท่าทัน และดูแลสุขภาพปอดของคุณให้แข็งแรงอยู่เสมอ
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
8. เคล็ดลับดูแลปอดให้แข็งแรง ห่างไกลโรคทางเดินหายใจ
1. ไข้หวัด (Common Cold)
ไข้หวัด เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด มักระบาดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
- อาการ เริ่มจากเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว และอาจมีไข้ต่ำ ๆ
- การแพร่เชื้อ แพร่ผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อน
- การป้องกัน ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย และพักผ่อนให้เพียงพอ
2. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจเช่นกัน แต่มีความรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา และอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว
- อาการ มีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ และอาจมีน้ำมูก
- การแพร่เชื้อ คล้ายไข้หวัดธรรมดา คือแพร่ผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม
- การป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัดในช่วงที่มีการระบาด
3. หลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
หลอดลมอักเสบ คือภาวะที่เยื่อบุหลอดลมเกิดการอักเสบ บวม และมีการผลิตเสมหะมากขึ้น ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลง แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ คือ หลอดลมอักเสบเฉียบพลันและหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
- อาการ ไอมีเสมหะ เจ็บหน้าอก หายใจมีเสียงหวีด เหนื่อยหอบ และอาจมีไข้ต่ำ ๆ
- สาเหตุ หลอดลมอักเสบเฉียบพลันมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ส่วนหลอดลมอักเสบเรื้อรังมักเกิดจากการสูบบุหรี่ หรือการได้รับสารระคายเคืองเป็นเวลานาน
- การป้องกัน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองหรือมลภาวะสูง
4. ปอดอักเสบ/ปอดบวม (Pneumonia)
ปอดอักเสบ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ปอดบวม เป็นการอักเสบของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา เป็นโรคที่มีความรุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- อาการ ไข้สูง หนาวสั่น ไอมีเสมหะข้น เจ็บหน้าอกขณะหายใจหรือไอ หายใจหอบเหนื่อย อ่อนเพลีย
- สาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae (นิวโมคอคคัส)
- การป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และวัคซีนปอดอักเสบ (นิวโมคอคคัส) ล้างมือบ่อย ๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
5. วัณโรค (Tuberculosis - TB)
วัณโรค เป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis ซึ่งส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อปอด แต่ก็สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้ เป็นโรคที่ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก
- อาการ ไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ มีไข้ต่ำ ๆ โดยเฉพาะช่วงบ่ายหรือเย็น เหงื่อออกตอนกลางคืน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย และอาจไอเป็นเลือด
- การแพร่เชื้อ แพร่กระจายผ่านละอองฝอยในอากาศเมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูด
- การป้องกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรคที่ยังไม่ได้รับการรักษา หากมีอาการที่สงสัยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว และสำหรับเด็กควรได้รับการฉีดวัคซีน BCG
6. โรคหอบหืด (Asthma)
โรคหอบหืด เป็นภาวะเรื้อรังที่ทางเดินหายใจเกิดการอักเสบและหดเกร็ง ทำให้หลอดลมตีบแคบลง และการไหลเวียนของอากาศเข้าสู่ปอดทำได้ยากขึ้น ความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และอาจถูกกระตุ้นโดยสิ่งเร้าต่าง ๆ
- อาการ หายใจมีเสียงหวีด ไอ แน่นหน้าอก หายใจหอบเหนื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลากลางคืนหรือตอนเช้ามืด
- สิ่งกระตุ้น ไรฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ ควันบุหรี่ มลภาวะทางอากาศ การออกกำลังกาย การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรือความเครียด
- การป้องกัน หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ พกยาพ่นขยายหลอดลมติดตัวเสมอ และเข้ารับการรักษาและติดตามอาการกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
7. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease - COPD)
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ COPD เป็นกลุ่มของโรคปอดที่ทำให้การไหลเวียนของอากาศในปอดถูกขัดขวาง ทำให้หายใจลำบาก ประกอบด้วยโรคหลัก ๆ สองชนิดคือ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง และ ถุงลมโป่งพอง ซึ่งมักเกิดร่วมกันและเป็นผลมาจากการทำลายปอดอย่างต่อเนื่อง
- อาการ ไอเรื้อรังมีเสมหะ หายใจเหนื่อยหอบ โดยเฉพาะเมื่อออกแรง หายใจมีเสียงหวีด แน่นหน้าอก และอาจมีริมฝีปากหรือปลายนิ้วเขียวคล้ำ
- สาเหตุ การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ยังรวมถึงการได้รับควันบุหรี่มือสอง การสัมผัสสารเคมีหรือฝุ่นละอองในสิ่งแวดล้อม หรือการได้รับมลพิษทางอากาศเป็นเวลานาน
- การป้องกัน หยุดสูบบุหรี่ทันที หลีกเลี่ยงควันบุหรี่และมลภาวะทางอากาศ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็น และเข้ารับการตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ
8. เคล็ดลับดูแลปอดให้แข็งแรง ห่างไกลโรคทางเดินหายใจ
ปอดทำงานหนักเพื่อสุขภาพของเรา การดูแลจึงสำคัญอย่างยิ่ง มาดูวิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนทำได้เพื่อปอดที่แข็งแรง
- เลิกบุหรี่และหลีกควันมือสอง เพราะบุหรี่มือสองเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ที่ส่งผลเสียต่อปอด การเลิกบุหรี่ช่วยฟื้นฟูปอดและลดความเสี่ยงโรคปอดร้ายแรง
- ป้องกันตัวเองจากมลภาวะ ตรวจสอบค่า AQI, สวมหน้ากากอนามัย (N95) เมื่อฝุ่นสูง, ลดกิจกรรมกลางแจ้ง, และ ใช้เครื่องฟอกอากาศ ในบ้าน หลีกเลี่ยงควันอื่น ๆ เช่น ควันจากการเผาไหม้
- ล้างมือบ่อย ๆ ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ
- พักผ่อนให้พอ จัดการความเครียด การนอนน้อยและความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายแบบแอโรบิกช่วยให้ปอดแข็งแรง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดและเสริมภูมิคุ้มกัน
- กินอาหารมีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้สด ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรค โดยเฉพาะ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และ วัคซีนนิวโมคอคคัส (ปอดอักเสบ)
- รักษาสุขภาพช่องปาก ป้องกันแบคทีเรียจากช่องปากเข้าสู่ปอดและก่อให้เกิดการติดเชื้อ
- พบแพทย์เมื่อผิดปกติ หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับปอด เช่น ไอเรื้อรัง หายใจเหนื่อย ควรรีบปรึกษาแพทย์
ระบบทางเดินหายใจเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต การรู้จักโรคที่พบบ่อย สังเกตอาการ และเรียนรู้วิธีป้องกัน จะช่วยให้เราสามารถดูแลปอดของเราให้แข็งแรง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ดังนั้น การดูแลปอดต้องอาศัยความสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีปอดที่แข็งแรงและชีวิตที่มีคุณภาพ เพราะเราไม่มีวันรู้ได้ว่าจะเจ็บป่วยขึ้นมาเมื่อไร โรคร้ายจะมาเยือนตอนไหน การเตรียมความพร้อมเรื่องสุขภาพ และค่ารักษายามเจ็บป่วยไว้ล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต ไว้ช่วยดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต/ ช่องทางที่ดูแลท่าน
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 16/06/68