Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

ท้องไม่สบาย อาจเป็นสัญญาณ มะเร็งกระเพาะอาหาร!

ท้องไม่สบาย อาจเป็นสัญญาณ มะเร็งกระเพาะอาหาร!

มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นโรคที่ไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น ซึ่งบางคนอาจแยกอาการเบื้องต้นไม่ออก เพราะบางที อาการเตือนมะเร็งกระเพาะอาหาร อาจท้องร้องโครกคราก แสบร้อนท้อง หรือมีอาการปวดหลัง 
ทำให้หลายคนกว่าจะรู้ตัวเองว่าป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ก็ต่อเมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลาม จนแพร่กระจายไปสู่อวัยวะข้างเคียงแล้ว ดังนั้น การรู้จักสังเกตสัญญาณเตือน และดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกัน และตรวจพบโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แอดจึงนำวิธีสังเกตอาการเตือนมะเร็งกระเพาะอาหารด้วยตัวเองมาฝาก หากรู้ตัวเร็วจะได้รับการรักษาเร็ว 


1. มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากสาเหตุอะไร

2. อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร สังเกตได้อย่างไร

3. แนวทางการรักษา มะเร็งกระเพาะอาหาร

4. ดูแลสุขภาพอย่างไร? ให้ห่างไกลมะเร็งกระเพาะอาหาร


มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจาก

1. มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากสาเหตุอะไร


มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติ และไม่สามารถควบคุมได้ของเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร จนแพร่กระจายไปสู่อวัยวะข้างเคียง กลายเป็นก้อนเนื้อมะเร็ง ซึ่งอาจลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ได้


สาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหารมีหลายปัจจัย ได้แก่


  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้น
  • เพศชาย มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารสูงกว่าเพศหญิงถึง 2 เท่า
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori (H. pylori)  เชื้อตัวนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารได้
  • พฤติกรรมการกิน การกินอาหารที่มีรสเค็มจัด อาหารหมักดอง อาหารรมควัน อาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม และอาหารที่มีปริมาณเกลือสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และภาวะอ้วน ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
  • โรคประจำตัว โรคบางชนิด เช่น ภาวะโลหิตจางเรื้อรัง และโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารได้


อาการโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร คล้ายกับโรคกระเพาะอาหาร?


อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะเริ่มแรก มักคล้ายคลึงกับโรคกระเพาะอาหารทั่วไปมาก ทำให้หลายคนเข้าใจผิด และอาจพลาดโอกาสในการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาการที่พบบ่อยทั้งในโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและโรคกระเพาะอาหารทั่วไป ได้แก่

  • ปวดท้อง มักเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะบริเวณท้องส่วนบน
  • อาหารไม่ย่อย รู้สึกอิ่มเร็ว ท้องอืด
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เบื่ออาหาร
  • น้ำหนักลด
  • อ่อนเพลีย


อย่างไรก็ตาม เมื่อโรคมะเร็งกระเพาะอาหารลุกลาม อาจมีอาการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น

  • เลือดออกในทางเดินอาหาร อาจพบเลือดปนในอุจจาระ หรืออาเจียนเป็นเลือด
  • กลืนอาหารลำบาก เนื่องจากก้อนมะเร็งไปอุดตันทางเดินอาหาร
  • คลำพบก้อนเนื้อในช่องท้อง


อาการ มะเร็งกระเพาะอาหาร

2. อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร สังเกตได้อย่างไร


อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะเริ่มแรก อาจไม่ชัดเจนหรือคล้ายกับโรคกระเพาะทั่วไป ทำให้หลายคนมองข้ามไปได้ง่าย กว่าจะรู้ตัวก็เกิดอาการรุนแรงและลุกลามไปตามอวัยวะใกล้เคียง แต่ถ้าสังเกตอาการเหล่านี้เป็นประจำและต่อเนื่อง ก็อาจช่วยให้พบความผิดปกติได้เร็วขึ้น ดังนั้นควรสังเกต อาการผิดปกติเหล่านี้ ได้แก่


  • ปวดท้อง มักเป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะบริเวณท้องส่วนบน
  • อาหารไม่ย่อย รู้สึกอิ่มเร็ว ท้องอืด
  • คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีเลือดปนในอาเจียนได้
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสาเหตุ
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • กลืนอาหารลำบาก อาจรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ
  • ท้องบวม เนื่องจากมีของเหลวในช่องท้อง
  • อุจจาระมีเลือดปน หรืออุจจาระดำ


3. แนวทางการรักษา มะเร็งกระเพาะอาหาร


การรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะของโรค ขนาดและตำแหน่งของก้อนมะเร็ง สุขภาพโดยรวมของคนที่ป่วย และประเภทของมะเร็งกระเพาะอาหาร แพทย์จะพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ได้แก่


  • การผ่าตัด เป็นวิธีการรักษาที่สำคัญที่สุด โดยแพทย์จะผ่าเอาส่วนของกระเพาะอาหารที่เป็นมะเร็งออก
  • การให้เคมีบำบัด ใช้ยาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
  • การฉายรังสี ใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
  • การรักษาแบบเสริม เช่น ภูมิคุ้มกันบำบัด หรือยาต้านแอนติบอดี


ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกวิธีการรักษา


  • ระยะของโรค มะเร็งในระยะเริ่มต้น อาจรักษาด้วยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามะเร็งกระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ อาจต้องใช้การรักษาหลายวิธีร่วมกัน
  • สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย  ผู้ป่วยที่มีสุขภาพแข็งแรง อาจทนต่อการรักษาได้ดีกว่าผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ
  • ประเภทของมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหารแต่ละประเภท อาจตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกัน


วิธีดูแลสุขภาพ ให้ห่างไกลมะเร็งกระเพาะอาหาร

4. ดูแลสุขภาพอย่างไร? ให้ห่างไกลมะเร็งกระเพาะอาหาร


การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการป้องกันดีกว่าการรักษาเสมอซึ่งมีเคล็ดลับดังนี้


อาหารการกิน

  • เน้นผักผลไม้ กินผักและผลไม้หลากสีสันทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น
  • เลือกธัญพืช เลือกกินข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต หรือซีเรียลที่มีใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายและลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
  • ลดอาหารแปรรูป จำกัดการบริโภคอาหารแปรรูป อาหารหมักดอง อาหารรมควัน และอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม
  • ลดอาหารเค็ม ลดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป
  • ดื่มน้ำสะอาด ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • กินอาหารให้ตรงเวลา การกินอาหารให้ตรงเวลา จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เป็นปกติ


พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

  • เลิกบุหรี่ บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งกระเพาะอาหาร
  • ลดแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
  • ควบคุมน้ำหนัก ภาวะอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหลายชนิด รวมถึงมะเร็งกระเพาะอาหาร


การดูแลสุขภาพทั่วไป

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง
  • ลดความเครียด ความเครียดเรื้อรังอาจส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ การตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้พบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และสามารถรักษาได้ทันท่วงที


มะเร็งกระเพาะอาหารเป็นโรคร้ายแรง แต่ถ้าพบเร็วและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โอกาสหายขาดก็ยังมีสูง การดูแลสุขภาพที่ดีและการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคนี้ พร้อมวางแผนสุขภาพไว้ก่อน จะได้ไม่ปวดใจกับค่ารักษา เพราะ ชีวิต “คุณ” ก็สำคัญ เลือกความคุ้มครองที่จำเป็นสำหรับคุณ เลือก Care Plus คุ้มครองค่ารักษามะเร็ง และไตวายเรื้อรัง วงเงินค่ารักษา 5 ล้านบาท ต่อโรค ต่อปี เบี้ยไม่ถึง 12 บาทต่อวัน* ครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD เข้าถึงการรักษาที่ทันสมัย การตรวจวินิจฉัยขั้นสูง MRI, CT Scan, PET Scan เข้าถึงการรักษามะเร็งที่ทันสมัย ยามุ่งเป้า Targeted Therapy, ภูมิคุ้มกันบำบัด Immunotherapy, การปลูกถ่าย Stem Cell และ ทางเลือกการรักษาไตวายเรื้อรัง ล้างไตทางผนังช่องท้อง, ล้างไตแบบประสิทธิภาพสูง, ปลูกถ่ายไต สมัครได้ถึง อายุ 80 ปี คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี


รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ สนใจติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา


*สำหรับผู้เอาประกันภัย เพศชาย อายุ 40 ปี เลือกความคุ้มครองสำหรับโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรัง แผน 5 ล้านบาท และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

  • ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็งและ/หรือโรคไตวายเรื้อรัง ดังกล่าว จะจ่ายสำหรับวิธีการบำบัดรักษาตามที่บริษัทฯ กำหนด
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย


ที่มา : สืบค้น ณ วันที่ 04/10/67

🔖 ร.พ. สมิติเวช

🔖 ร.พ. เปาโล

🔖 ร.พ. บางปะกอก 9


Interested In

I agree that Muang Thai Life Assurance PCL. Collect and use my personal information above to contact me to offer products and services at I am interested or the company saw that it was beneficial to I have by me to equate the mark In the square is an indication of intent. instead of my consent Signing as evidence. I have read and acknowledged the Privacy Policy.

Interesting article