ประกันสุขภาพ ดีไหม ซื้อแบบไหนตอบโจทย์ที่สุด

ประกันสุขภาพ ตัวไหนดี? ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ กับมนุษย์เงินเดือน หรือ เด็กจบใหม่ first jobber การจะซื้อประกันสุขภาพสักแผน จะต้องเลือกแบบไหนถึงจะตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่สุด อย่างเช่น เจ้าของธุรกิจที่ต้องดูแลกิจการ เจ็บป่วยขึ้นมางานอาจสะดุด การเลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาที่ทันสมัย เพื่อรักษาตัวเองให้สุขภาพกลับมาแข็งแรง จะได้กลับมาทำงานให้เร็วที่สุดจึงตอบโจทย์ ส่วนเด็กจบใหม่ที่มีสวัสดิการจากบริษัทอยู่แล้ว อยากอัปสวัสดิการ แต่ยังกังวลค่าเบี้ยประกัน การมีประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่คุ้มครองครอบคลุม เบี้ยถูก ก็สามารถตอบโจทย์ได้ตรงจุด ซึ่งวันนี้แอดได้มีแผนประกันสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิตมาแนะนำ แผนไหนตอบโจทย์ก็สามารถเลือกซื้อได้เลย  

ความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus)

ความคุ้มครองสุขภาพ อีลิท เฮลท์ พลัส (Elite Health Plus)

ความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus)

เหมาะกับใคร

สำหรับเด็กจบใหม่ หรือ first jobber ที่ส่วนมากจะได้สวัสดิการสุขภาพจากทางบริษัทตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ยังมองหา ประกันสุขภาพเพิ่ม และไม่รู้ว่าจะซื้อตัวไหนดี เพราะบางทีวงเงินที่ได้ก็ไม่ครอบคลุมกับค่ารักษา ต้องควักเงินเก็บตัวเองมาจ่ายเพิ่ม ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าตัวเองอายุยังน้อย โรคภัยไม่ค่อยมี อาจจะมีนิด ๆ หน่อย ๆ อย่างออฟฟิศซินโดรมที่โจมตีสุขภาพมนุษย์เงินเดือนทุกคนอยู่แล้ว เลยอยากได้ประกันสุขภาพ เบี้ยถูก แต่คุ้มครองแบบเหมาจ่าย ความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) สามารถตอบโจทย์ได้ ที่สำคัญการซื้อประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย และร่างกายแข็งแรงแล้ว เบี้ยก็ยังถูกอีกด้วย

ความคุ้มครอง

ความคุ้มครองสุขภาพดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) คุ้มครองสุขภาพเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง 1-5 ล้านบาท ต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง คุ้มครองกรณีแอดมิตทั้ง โรคทั่วไป โรคร้ายแรง นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาล ครอบคลุมการรักษาฟื้นฟูต่อเนื่องแบบ OPD คุ้มครองค่าห้องไอ.ซี.ยู ค่าหมอ ค่ายา ค่าตรวจ ค่าผ่าตัด แบบจ่ายตามจริง และสามารถเลือกพลัสความคุ้มครองเพิ่มได้ตามความต้องการ

จุดเด่นของความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส

ความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส สามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ตรงใจ (Convertible Option) และเลือกกําหนดความรับผิดส่วนแรกได้ (Deductible) เช่น

ในวัยทำงาน หากมีสวัสดิจากบริษัทอยู่แล้ว แต่อาจไม่เพียงพอ เลยอยากซื้อประกันสุขภาพสักแผนเพื่ออัพความคุ้มครองให้ครอบคลุมเพิ่ม แต่ไม่อยากเสียค่าเบี้ยแพง ก็สามารถเลือกซื้อ ความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส เพิ่มโดยเลือกแผนที่มีความรับผิดส่วนแรกได้ (Deductible) เบี้ยประกันจะถูกลงอีก ไม่ต้องจ่ายเบี้ยซํ้าซ้อน ยกตัวอย่างเช่น เรามีสวัสดิการอยู่แล้ว 30,000 บาท เลือกซื้อ ความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผน 5 ล้านบาท แบบมีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท เราก็สามารถใช้สวัสดิการตัวอื่นที่เรามีเบิกเคลมไปก่อน เมื่อบิลค่ารักษานั้นเกิน 30,000 บาท เราก็สามารถเบิกส่วนที่เกินจาก 30,000 กับแบบประกันที่เราซื้อได้

และพอถึงวัยเกษียณไม่ได้ทำงาน ไม่มีสวัสดิการช่วยจ่ายแล้ว ก็สามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ (Convertible Option) แบบไม่มีความรับผิดส่วนแรก โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่

ความคุ้มครองสุขภาพ อีลิท เฮลท์ พลัส (Elite Health Plus) 

เหมาะกับใคร

สำหรับเจ้าของกิจการ ที่ชอบทำงานเต็มที่ แบ่งชีวิตให้งาน แถมทุกเรื่องต้องเป๊ะ อยากวางแผนสุขภาพให้ตัวเอง เพราะเวลาเจ็บป่วยขึ้นมาหากต้องรักษาตัวนานงานก็อาจสะดุด การได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้หายเร็วที่สุด จะได้กลับมาทำงานต่อ การมีประกันสุขภาพที่คุ้มครองครอบคลุมได้ตรงจุดที่เราต้องการก็จะช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น 

ความคุ้มครอง

ซึ่ง อีลิท เฮลท์ พลัส (Elite Health Plus) สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เพราะเป็นความคุ้มครองสุขภาพ ที่คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง มะเร็ง หัวใจ ไต โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ สามารถเข้าถึงการรักษาโรคด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งการรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy), CT Scan, MRI, การฟอกไต โดยไม่ต้องแอดมิต เลือกวงเงินค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงถึง 20 -100 ล้านบาทต่อปี คุ้มครองครบทั้ง IPD และ OPD(1) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานได้ทุกโรงพยาบาล หรือเลือกห้องพักได้ตั้งแต่ 10,000 - 25,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี

จุดเด่นความคุ้มครองสุขภาพ อีลิท เฮลท์ พลัส

ในปัจจุบันทุกเพศ ทุกวัย ต่างมีความเสี่ยงทั้งโรคทั่วไป และโรคร้ายแรง ที่สำคัญเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เพราะโรคเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย พอเจ็บป่วยจึงอยากรักษาตัวให้หายเร็วที่สุด การวางแผนสุขภาพไว้ล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจุดเด่นของความคุ้มครองสุขภาพ อีลิท เฮลท์ พลัส คือ สามารถเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างตรงจุด เช่น

• Chemotherapy (ยาเคมีบำบัด) หรือ “คีโม” เป็นการรักษาด้วยกลุ่มสารเคมีที่มีฤทธิ์ยับยั้งและทำลายเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตหรือแบ่งตัวอย่างรวดเร็วผิดปกติ โดยยาเคมีบำบัดจะออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งหลายรูปแบบ ทำให้เซลล์ไม่สามารถแบ่งตัวต่อไปได้และตายในที่สุด
• Targeted Therapy เป็นวิธีการรักษาโรคมะเร็งแบบออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง โดยการให้ยาหรือสารไปยับยั้งกระบวนการส่งสัญญาณระดับเซลล์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเจริญเติบโตและแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ทำให้เป็นการรักษาที่แม่นยำ ตรงจุด มีผลข้างเคียงน้อย
• Immunotherapy เป็นการรักษาโดยการใช้ยาหรือวิธีการกระตุ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ภูมิคุ้มกันสามารถมองเห็นเซลล์มะเร็งว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายและสามารถควบคุม กำจัดหรือทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แน่นอนว่าการจะตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพสักแผน และตอบโจทย์กับตัวเองให้ตรงจุดตัวเองที่สุด ต้องศึกษาให้รอบคอบ ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบที่มี หรือแม้กระทั่งรายได้ของตัวเอง หากศึกษาดีแล้วชอบก็สามารถลุยได้เลย

และเริ่มวางแผนอนาคตสุขภาพตัวเองได้เลย ที่สำคัญการมีประกันสุขภาพไว้ก่อนป่วย ก็ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องค่ารักษายามเจ็บป่วยได้ พร้อมเพิ่มความมั่นใจด้วยการมีประกันสุขภาพที่ช่วยให้เบาใจยามเจ็บป่วย

- Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)

- D Health Plus แอดมิตคุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาล เบี้ยวันละไม่ถึง 65 บาท(4)

รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต หรือ ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง

(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 35 ปี เลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

• เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
• ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
• เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
• การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
• โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 18/04/67

🔖เมืองไทยประกันชีวิต