ขมิ้นชัน สรรพคุณเพียบ! ของดีที่ต้องมีติดครัว
ใครๆ ก็รู้จัก ขมิ้นชัน (Turmeric) เครื่องเทศสีเหลืองสดใส ที่คุ้นเคยกันดีในครัวเรือนของเรา ไม่ว่าจะนำไปปรุงอาหารให้มีสีสันน่ากิน หรือใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบำรุงผิว แต่รู้หรือไม่ว่า ขมิ้นชันไม่ได้มีดีแค่นั้น! เบื้องหลังสีเหลืองทองอร่ามนี้ ยังซ่อนสรรพคุณทางยา และประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ที่จะทำให้คุณต้องทึ่ง วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงสรรพคุณเด่น ๆ วิธีการนำไปใช้ ไปจนถึงข้อควรระวัง เช่น กินขมิ้นชันทุกวัน อันตรายไหม, ขมิ้นชันห้ามกินคู่กับอะไร, ขมิ้นชันควรกินก่อนหรือหลังอาหาร, ขมิ้นชัน ควรกินวันละเท่าไหร่, โทษของขมิ้นชัน เพื่อให้คุณได้รู้จักและเข้าใจถึงขมิ้นชันได้อย่างละเอียด พร้อมนำไปปรับใช้เพื่อดูแลสุขภาพของตัวคุณ และคนที่คุณรักได้อย่างถูกต้อง
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
1. ทำความรู้จักกับขมิ้นชัน สมุนไพรคู่ครัวเรือนไทย
2. สรรพคุณเด่นของขมิ้นชัน ที่ต้องบอกต่อ
3. ข้อควรระวังในการใช้ขมิ้นชัน
1. ทำความรู้จักกับขมิ้นชัน สมุนไพรคู่ครัวเรือนไทย
ขมิ้นชันเป็นพืชล้มลุกที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในมีสีเหลืองส้ม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa Linn. อยู่ในวงศ์ Zingiberaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับขิง ข่า และไพล เป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ในตำรับยาแผนโบราณของไทย และอินเดียมาอย่างยาวนานนับพันปี ลักษณะเด่นของขมิ้นชันคือสีเหลืองสดใสของเหง้า ซึ่งมาจากสารสำคัญที่ชื่อว่า เคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีสรรพคุณทางยาหลากหลายประการ
อะไรทำให้ขมิ้นชันมีสีเหลืองสวยงามและมีสรรพคุณเยอะแยะ?
เคล็ดลับอยู่ที่สารสำคัญที่ชื่อว่า "เคอร์คูมิน (Curcumin)" ซึ่งสารตัวนี้แหละที่เป็นเหมือน "ซุปเปอร์ฮีโร่" ในขมิ้นชัน เพราะมีฤทธิ์ทางยาหลายอย่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เราจะพูดถึงกันต่อไป แล้วเราคุ้นเคยกับขมิ้นชันในรูปแบบไหนบ้าง?
- เหง้าสด ก็คือหัวขมิ้นชันที่เราขุดขึ้นมาสดๆ สามารถนำมาปอกเปลือก ล้าง แล้วก็ใช้ได้เลย จะหั่นใส่แกง ใส่ยำ หรือบางคนก็กินสด ๆ เลย
- ผงขมิ้นชัน จะเป็นการนำเหง้าขมิ้นชันมาตากแห้ง แล้วบดเป็นผงละเอียด เราจะเห็นบ่อย ๆ ในเครื่องแกง บางคนก็เอามาชงดื่ม หรือผสมกับน้ำผึ้งพอกหน้า
- แคปซูลขมิ้นชัน สำหรับคนที่อยากได้ปริมาณเคอร์คูมินที่แน่นอน และสะดวกในการกิน ก็จะมีแบบแคปซูลขาย
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เดี๋ยวนี้ก็มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายยี่ห้อ ที่สกัดเอาสารสำคัญจากขมิ้นชันมาใส่ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น
เรียกได้ว่า ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้านเลยทีเดียว
2. สรรพคุณเด่นของขมิ้นชัน ที่ต้องบอกต่อ
สำหรับ "สรรพคุณของขมิ้นชัน" นั้น ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้อาหารอร่อยหรือผิวพรรณผ่องใสเท่านั้น แต่เบื้องหลังความธรรมดาที่เราคุ้นเคยกันดี กลับซ่อนพลังในการดูแล และบำบัดร่างกายของเราได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว ตั้งแต่ฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ที่อาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ไปจนถึงคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายของเรา โดยขมิ้นชันได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในวงการวิทยาศาสตร์ถึงสรรพคุณที่น่าทึ่งมากมาย ดังนี้
1. ฤทธิ์ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) เคอร์คูมินในขมิ้นชัน มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคระบบทางเดินอาหารอักเสบ
2. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร ซึ่งสามารถทำลายเซลล์ในร่างกายและนำไปสู่ความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ขมิ้นชันมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและชะลอความเสื่อมของร่างกาย
3. บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขมิ้นชันมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการหลั่งน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาหารไม่ย่อย
4. ช่วยบำรุงตับ มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าขมิ้นชันอาจมีส่วนช่วยในการปกป้องตับจากสารพิษต่าง ๆ และช่วยในการทำงานของตับให้ดีขึ้น
5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สารเคอร์คูมินอาจมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น
6. อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง จากคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ขมิ้นชันถูกศึกษาถึงศักยภาพในการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์
7. ช่วยบำรุงผิวพรรณ ขมิ้นชันถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยลดการเกิดสิว ผิวหนังอักเสบ และช่วยให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสขึ้น
8. อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีงานวิจัยเบื้องต้นที่ชี้ให้เห็นว่า ขมิ้นชันอาจมีบทบาทในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์
9. อาจช่วยลดระดับไขมันในเลือด เช่นเดียวกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีการศึกษาบางชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า ขมิ้นชันอาจช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้
10. บรรเทาอาการปวดประจำเดือน สำหรับคุณผู้หญิง ขมิ้นชันอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยคลายกล้ามเนื้อ
3. ข้อควรระวังในการใช้ขมิ้นชัน
แม้ว่าขมิ้นชันจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรทราบ มาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการกินขมิ้นชันกัน เพื่อให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรดี ๆ ชนิดนี้ได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม
กินขมิ้นชันทุกวัน อันตรายไหม?
โดยทั่วไปแล้ว การกินขมิ้นชันในปริมาณที่เหมาะสมทุกวันนั้น ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การบริโภคในปริมาณที่สูงเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น
- ปัญหาทางเดินอาหาร อาจมีอาการไม่สบายท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ หรือปวดท้อง
- เลือดออกง่าย ขมิ้นชันอาจมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดเล็กน้อย ดังนั้นผู้ที่กำลังกินยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรระมัดระวังเป็นพิเศษและปรึกษาแพทย์
- กระตุ้นการหลั่งน้ำดี ผู้ที่มีภาวะท่อน้ำดีอุดตันควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขมิ้นชัน เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้
ขมิ้นชัน ห้ามกินคู่กับอะไร?
โดยทั่วไปแล้ว ยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนถึงอาหารที่ห้ามกินคู่กับขมิ้นชันโดยตรง อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการใช้ขมิ้นชันร่วมกับยาบางชนิด ดังนี้
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) ขมิ้นชันอาจเสริมฤทธิ์ของยา ทำให้เลือดแข็งตัวช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออก
- ยาต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelets) เช่น แอสไพริน (Aspirin), โคลพิโดเกรล (Clopidogrel) เช่นเดียวกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด ขมิ้นชันอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออก
- ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร (Antacids) ยาลดกรดอาจส่งผลต่อการดูดซึมของเคอร์คูมินในขมิ้นชันได้
- ยาเบาหวาน ขมิ้นชันอาจมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด การใช้ร่วมกับยาเบาหวานอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป
หากคุณกำลังกินยาใด ๆ อยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มกินขมิ้นชันเป็นประจำ เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้น
ขมิ้นชัน ควรกินวันละเท่าไหร่?
ปริมาณการบริโภคขมิ้นชันที่แนะนำต่อวันนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบของขมิ้นชันและจุดประสงค์ในการกิน
- ขมิ้นชันสด โดยทั่วไปแนะนำประมาณ 0.5 - 1 นิ้ว ต่อวัน
- ผงขมิ้นชัน ประมาณ 1 - 3 กรัม ต่อวัน (ประมาณ ½ - 1 ช้อนชา)
- แคปซูลขมิ้นชัน ปริมาณจะแตกต่างกันไปตามความเข้มข้นของสารสกัดเคอร์คูมินในแต่ละผลิตภัณฑ์ ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด หรือปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
- สารสกัดเคอร์คูมิน ปริมาณที่แนะนำมักจะระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 400 - 600 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ก็มีผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณสูงกว่านี้
สิ่งสำคัญ คือควรเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับเพิ่มหากไม่มีผลข้างเคียง และไม่ควรบริโภคในปริมาณที่สูงเกินกว่าคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ หรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
โทษของขมิ้นชัน
แม้ว่าขมิ้นชันจะมีประโยชน์มากมาย แต่การบริโภคที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมก็อาจก่อให้เกิดโทษได้ ดังนี้
- ผลข้างเคียงทางเดินอาหาร ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ โดยเฉพาะเมื่อกินในปริมาณมาก
- อาการแพ้ ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ (พบได้น้อย)
- อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก ในผู้ที่กินยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือมีภาวะเลือดออกผิดปกติ
- อาจมีผลต่อการทำงานของตับ การบริโภคในปริมาณที่สูงมากอาจส่งผลเสียต่อตับได้ (แต่พบได้น้อย)
- ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีภาวะท่อน้ำดีอุดตัน อาจทำให้อาการแย่ลง
การบริโภคขมิ้นชันในปริมาณที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้คำแนะนำ ถือว่าปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป หรือการใช้ร่วมกับยาบางชนิดโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจก่อให้เกิดผลเสียได้ ดังนั้น การรู้จักปริมาณที่เหมาะสมและข้อควรระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สามารถอ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้
อย่างไรก็ตาม การใช้ขมิ้นชันเพื่อให้ได้ผลดีและปลอดภัย ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หากมีข้อสงสัยหรือมีโรคประจำตัว เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรสีทองอย่างขมิ้นชันได้อย่างมั่นใจ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรัก และอย่าลืมเตรียมความพร้อมเรื่องสุขภาพ และค่ารักษาไว้ล่วงหน้า เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตโรคร้ายจะมาเยือนตอนไหน สามารถเตรียมความพร้อมเรื่องค่ารักษายามเจ็บป่วย ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต ไว้ช่วยดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต/ ช่องทางที่ดูแลท่าน
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 09/05/68
🔖 pptvhd36
🔖 HDMALL
🔖 thairath