สมรสเท่าเทียม LGBTQIA+: สิทธิที่ "คู่สมรส" ทุกคนควรรู้
การสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality) ไม่ใช่เพียงแค่การอนุญาตให้คนสองคน ที่มีเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ตามกฎหมายเท่านั้น แต่สมรสเท่าเทียม คือการเปิดประตูสู่การรับรองสิทธิ และสถานะทางกฎหมายที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริงสำหรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เมื่อร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านและมีผลบังคับใช้ สิทธิและประโยชน์มากมาย ที่เคยจำกัดเฉพาะคู่สมรสชาย-หญิง จะถูกขยายครอบคลุมถึงคู่รักเพศเดียวกัน หลายคนอาจจะสงสัยว่าสมรสเท่าเทียมอะไร แล้วถ้า LGBTQIA+ ได้สิทธิสมรสเท่าเทียม จะได้รับสิทธิอะไรบ้างที่เหมือนกับคู่รักชายหญิง? วันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจกันแบบง่าย ๆ ไม่มีกั๊ก!
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
1. สมรสเท่าเทียม มากกว่าแค่ "งานแต่งงาน"
2. LGBTQIA+ จดทะเบียนสมรส ได้สิทธิและประโยชน์อะไรบ้าง
1. สมรสเท่าเทียม คืออะไร
สมรสเท่าเทียม คือ แนวคิดและกฎหมายที่ให้สิทธิ์ในการแต่งงานแก่บุคคลทุกคน โดยไม่จำกัดเพศ หรืออัตลักษณ์ทางเพศ พูดง่าย ๆ คือ ไม่ว่าจะเป็นชาย-หญิง, ชาย-ชาย, หญิง-หญิง หรือเพศอื่น ๆ ก็ตาม ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะจดทะเบียนสมรสและมีสถานะทางกฎหมายเป็น "คู่สมรส" ที่เท่าเทียมกัน
บางคนอาจจะมองว่าเรื่องความรักเป็นเรื่องส่วนตัว ทำไมต้องมีกฎหมายมาเกี่ยวข้อง? แต่จริง ๆ แล้ว การมีกฎหมายรองรับการสมรสไม่ได้เป็นแค่เรื่องโรแมนติก แต่มันคือ การให้หลักประกันและสิทธิขั้นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ลองคิดดูว่าถ้าคนสองคนอยู่กินกันมานาน มีความรัก ความผูกพัน มีทรัพย์สินร่วมกัน แต่ไม่มีสถานะทางกฎหมายรองรับ เวลาเกิดเรื่องฉุกเฉิน หรือเกิดความขัดแย้ง จะมีปัญหาตามมามากมาย
- การรับรองสถานะทางกฎหมาย การสมรสเป็นการรับรองสถานะทางกฎหมายของคู่รักอย่างเป็นทางการ ซึ่งส่งผลต่อสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ตามมามากมาย
- ความมั่นคงทางจิตใจและสังคม การได้รับการยอมรับจากรัฐและสังคมว่าความสัมพันธ์ของพวกเขามีคุณค่าเท่าเทียมกับคู่รักเพศตรงข้าม ช่วยสร้างความมั่นคงทางจิตใจ ลดการตีตรา และเสริมสร้างความภาคภูมิใจ
- การเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน สิทธิหลายประการในปัจจุบันถูกผูกโยงกับสถานะ "คู่สมรส" ซึ่งทำให้กลุ่ม LGBTQIA+ ที่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ต้องเสียเปรียบและไม่ได้รับสิทธิเหล่านั้นการลดความเหลื่อมล้ำ การสมรสเท่าเทียมเป็นการขจัดความเหลื่อมล้ำทางกฎหมายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศ
LGBTQIA+ ย่อมาจาก
- Lesbian (เลสเบี้ยน) - ผู้หญิงรักผู้หญิง
- Gay (เกย์) - ผู้ชายรักผู้ชาย
- Bisexual (ไบเซ็กชวล) - ผู้ที่รักได้ทั้งสองเพศ
- Transgender (คนข้ามเพศ) - ผู้ที่อัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด
- Queer (เควียร์) - คำกว้าง ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกรอบเพศหรือวิถีทางเพศแบบดั้งเดิม
- Intersex (อินเตอร์เซ็กซ์) - ผู้ที่มีลักษณะทางกายภาพไม่ตรงกับเพศชายหรือหญิงตามแบบทั่วไป
- Asexual (อเซ็กชวล) - ผู้ที่ไม่รู้สึกดึงดูดทางเพศ
- + (พลัส) - ครอบคลุมความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงโดยตรง
ดังนั้น เมื่อพูดถึงสมรสเท่าเทียมสำหรับ LGBTQIA+ จึงหมายถึงการให้บุคคลในกลุ่มความหลากหลายทางเพศเหล่านี้มีสิทธิในการสร้างครอบครัว และได้รับการยอมรับทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน
2. LGBTQIA+ จดทะเบียนสมรส ได้สิทธิและประโยชน์อะไรบ้าง
เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ คู่รัก LGBTQIA+ จะได้รับสิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ เทียบเท่าคู่สมรสชาย-หญิงในปัจจุบัน และเมื่อคู่รัก LGBTQIA+ จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมกัน ก็จะได้รับสิทธิและประโยชน์ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นได้ดังนี้
1. สิทธิทางด้านครอบครัวและความสัมพันธ์
- สิทธิในการจดทะเบียนสมรส เป็นหัวใจสำคัญของกฎหมายนี้ ทำให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับสถานะ "คู่สมรส" อย่างเป็นทางการ
- สิทธิในการอุปการะเลี้ยงดูบุตร คู่สมรสเพศเดียวกันจะมีสิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน รวมถึงสิทธิในการเป็นบิดามารดาตามกฎหมาย หากมีบุตรโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (เช่น การอุ้มบุญในอนาคต หากกฎหมายอนุญาต)
- สิทธิในการร่วมตัดสินใจทางการแพทย์ ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือการเจ็บป่วยหนัก คู่สมรสจะมีสิทธิในการตัดสินใจแทนอีกฝ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยามวิกฤต
- สิทธิในการเป็นผู้จัดการศพ/ดูแลจัดการงานศพ เมื่อคู่สมรสเสียชีวิต อีกฝ่ายจะมีสิทธิในการจัดการพิธีศพและเรื่องที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยสร้างปัญหาและข้อจำกัดสำหรับคู่รักเพศเดียวกันมาโดยตลอด
- สิทธิในการใช้นามสกุลร่วมกัน คู่สมรสสามารถตกลงที่จะใช้นามสกุลของอีกฝ่าย หรือใช้นามสกุลร่วมกันได้ตามกฎหมาย
2. สิทธิทางด้านทรัพย์สินและมรดก
- สิทธิในการจัดการทรัพย์สินร่วมกัน ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการสมรสจะถือเป็นสินสมรส และคู่สมรสมีสิทธิในการจัดการและแบ่งปันทรัพย์สินร่วมกัน
- สิทธิในการรับมรดก เมื่อคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต อีกฝ่ายจะมีสิทธิในการเป็นทายาทโดยธรรม และได้รับมรดกตามกฎหมาย เช่นเดียวกับคู่สมรสเพศตรงข้าม
- สิทธิในการสืบทอดสิทธิการเช่า/เช่าซื้อ หากมีการทำสัญญาเช่าหรือเช่าซื้อ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่จะสามารถสืบทอดสิทธิเหล่านั้นได้
- สิทธิในการยกเว้นภาษีการรับมรดก/การให้ ในหลายกรณี การรับมรดกหรือการให้ระหว่างคู่สมรสจะได้รับยกเว้นภาษี ซึ่งเป็นประโยชน์ที่สำคัญ
- สิทธิในการเข้าถึงสินเชื่อและธุรกรรมทางการเงินร่วมกัน สถาบันการเงินอาจพิจารณาสินเชื่อหรืออนุมัติธุรกรรมทางการเงินในฐานะ "คู่สมรส" ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน
3. สิทธิทางด้านสวัสดิการและผลประโยชน์ของรัฐ
- สิทธิในการได้รับสวัสดิการจากประกันสังคม คู่สมรสจะมีสิทธิได้รับสวัสดิการต่างๆ จากประกันสังคม เช่น เงินบำนาญชราภาพ เงินสงเคราะห์บุตร เงินค่าทำศพ หรือเงินชดเชยกรณีคู่สมรสเสียชีวิต
- สิทธิในการได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานรัฐ/เอกชน สิทธิประโยชน์บางอย่างที่เคยจำกัดเฉพาะคู่สมรสเพศตรงข้าม เช่น สิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาล (สำหรับข้าราชการ) สวัสดิการการลางานเพื่อดูแลคู่สมรส หรือสิทธิการปรับเงินเดือนในบางองค์กร จะขยายครอบคลุมถึงคู่สมรสเพศเดียวกัน
- สิทธิในการลดหย่อนภาษี คู่สมรสสามารถยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาร่วมกัน หรือใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในฐานะคู่สมรสได้
- สิทธิในการยื่นคำร้องขอสัญชาติให้คู่สมรสชาวต่างชาติ หากคู่สมรสฝ่ายหนึ่งเป็นชาวไทยและอีกฝ่ายเป็นชาวต่างชาติ จะมีสิทธิในการยื่นคำร้องขอสัญชาติให้คู่สมรสได้ง่ายขึ้น
- สิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยของรัฐ โครงการที่อยู่อาศัยของรัฐบางโครงการอาจมีข้อกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอต้องมีสถานะ "คู่สมรส" ซึ่งจะทำให้คู่รัก LGBTQIA+ มีโอกาสเข้าถึงได้
4. สิทธิในการคุ้มครองทางกฎหมาย
- สิทธิในการฟ้องร้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู หากมีการหย่าร้าง คู่สมรสมีสิทธิในการฟ้องร้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากอีกฝ่ายได้
- สิทธิในการขอรับการคุ้มครองจากความรุนแรงในครอบครัว การสมรสเท่าเทียมจะทำให้คู่รักเพศเดียวกันได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
- สิทธิในการเป็นพยานหรือให้การในศาลในฐานะคู่สมรส ในบางกรณี คู่สมรสอาจมีสิทธิพิเศษในการเป็นพยาน หรือได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเมื่อให้การในศาล
- สิทธิในการได้รับเงินทดแทนจากหน่วยงานรัฐหรือเอกชน ในกรณีที่คู่สมรสเสียชีวิตจากการกระทำของบุคคลอื่น หรือจากการทำงาน อีกฝ่ายจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทน
สมรสเท่าเทียมไม่ใช่แค่เรื่องของความรักโรแมนติก แต่มันคือ การให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิขั้นพื้นฐาน และความมั่นคงทางชีวิตแก่คนทุกเพศทุกวัย การที่ LGBTQIA+ ได้รับสิทธิสมรสเท่าเทียม หมายถึงการที่พวกเขาจะสามารถสร้างครอบครัวที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย มีสิทธิทางทรัพย์สิน สวัสดิการ สิทธิในการดูแลซึ่งกันและกัน และสิทธิในการสร้างอนาคตที่มั่นคง
การวางแผนชีวิตด้วยประกันชีวิตและประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะร่างกายคนเราเสื่อมถอยไปตามวัย การทำประกันไว้ล่วงหน้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อคุ้มครองตัวคุณ และให้คนที่คุณรักดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคง หากวันหนึ่งคุณต้องจากไป
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจถึงความสำคัญของทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก หรือคู่ชีวิตในทุกรูปแบบ เราให้ความสำคัญกับการยอมรับความหลากหลายในครอบครัว และเป็นผู้บุกเบิกที่มองเห็นความสำคัญของ กลุ่ม LGBTQIA+ มาโดยตลอด
ShieldLife ประกันชีวิตที่ทำให้คุณชิลได้เต็มที่ หมดห่วงในวันที่คุณจากไป เพราะสามารถระบุชื่อ "คู่ชีวิต" เป็นผู้รับประโยชน์ได้แบบไม่มีข้อจำกัด เป็นการส่งต่อหลักประกันเงินล้านให้คนที่คุณรักและห่วงใย จ่ายเบี้ยเริ่มต้นหลักร้อยต่อเดือน
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต/ ช่องทางที่ดูแลท่าน
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 05/06/68
🔖 ThaiPBS
🔖 BBC
🔖 Thairath