Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

มัดรวม! กองทุนลดหย่อนภาษี 2568 วางแผนครบจบที่นี่

มัดรวม! กองทุนลดหย่อนภาษี 2568 วางแผนครบจบที่นี่

ต้นปีแบบนี้หลายคนกำลังเตรียมตัวยื่นภาษีประจำปี 2567 กันแล้ว ซึ่งเป็นความคุ้นเคยของมนุษย์เงินเดือน หรือผู้ที่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษี โดยทุกคนจะได้รับสิทธิในการหักค่าใช้จ่ายและลดหย่อนภาษีต่าง ๆ จากค่าลดหย่อนทั่วไป เช่น ลดหย่อนส่วนตัว บุตร ค่าเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและคู่สมรส ฯลฯ นอกจากนั้นสำหรับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนต่าง ๆ ก็สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยหรือเรียกว่า กองทุนลดหย่อนภาษี เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือ กองทุน Thai ESG ซึ่งแต่ละกองทุนก็ได้สิทธิลดหย่อนแตกต่างกัน รู้แบบนี้แล้วมาดูกันดีกว่าว่ากองทุนไหนลดหย่อนภาษีได้ตรงใจ เหมาะกับตัวเอง


ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ


1. กองทุนลดหย่อนภาษี คืออะไร 

2. ควรซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีตอนไหน

3. เลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี 2568 แบบไหนดี

4. ข้อควรระวังในการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี



กองทุนลดหย่อนภาษี คืออะไร


1. กองทุนลดหย่อนภาษี คืออะไร


กองทุนลดหย่อนภาษี คือ กองทุนที่รัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนได้นำเงินไปลงทุน เพื่อเป็นการออมเงินสำหรับอนาคตและยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย


ทำไมต้องซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี


สาเหตุที่กองทุนลดหย่อนภาษี เป็นตัวช่วยสำคัญในการลดหย่อนภาษี เพราะเป็นเหมือนเครื่องมือทางการเงิน ที่รัฐบาลออกแบบมา เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินและลงทุนไปพร้อม ๆ กัน โดยให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ทำให้คุณจ่ายภาษีน้อยลง และยังมีข้อดีในการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี ดังนี้


  • ประหยัดภาษี นี่คือเหตุผลหลักที่หลายคนหันมาลงทุน ในกองทุนลดหย่อนภาษี การนำเงินไปลงทุนในกองทุนเหล่านี้ จะช่วยให้คุณจ่ายภาษีน้อยลง เพราะสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ ตามที่กฎหมายกำหนด ยิ่งลงทุนมาก ก็ยิ่งประหยัดภาษีได้มากขึ้น
  • ออมเงินเพื่ออนาคต การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี เป็นเหมือนการบังคับตัวเอง ให้ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ เงินที่ลงทุนไปจะถูกนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ซึ่งมีโอกาสเติบโต ทำให้เงินของคุณงอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ เหมาะสำหรับคนที่มองหาการออมเงินระยะยาว เช่น เพื่อการเกษียณอายุ
  • กระจายความเสี่ยง การลงทุนในกองทุน จะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน ในสินทรัพย์เพียงชนิดเดียว เพราะกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ทำให้ผลตอบแทนมีความเสี่ยงน้อยลง



ควรซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีตอนไหน


2. ควรซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีตอนไหน


สำหรับการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี ควรซื้อก่อนสิ้นปีภาษี เพื่อให้ทันใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปีนั้น ๆ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อประโยชน์ที่คุณจะได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งเหตุผลที่ควรซื้อก่อนสิ้นปีภาษี คือ


  • เพื่อให้ทันใช้สิทธิลดหย่อนภาษี กฎหมายกำหนดให้การซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ต้องเกิดขึ้นภายในปีปฏิทินที่ต้องการนำไปลดหย่อนภาษี ดังนั้น หากต้องการนำไปลดหย่อนภาษีในปี 2568 คุณต้องซื้อหน่วยลงทุนก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2568
  • เพื่อให้มีเวลาลงทุน การซื้อล่วงหน้าจะทำให้คุณมีเวลาศึกษาข้อมูลกองทุนต่าง ๆ เลือกกองทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ และกระจายความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
  • เพื่อให้เงินลงทุนทำงานได้นานขึ้น การลงทุนตั้งแต่ต้นปีจะทำให้เงินของคุณมีเวลาเติบโตมากขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นมักจะมีความผันผวนตลอดทั้งปี



เลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี 2568 แบบไหนดี


3. เลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี 2568 แบบไหนดี


การเลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีในแต่ละปี เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราประหยัดภาษีได้แล้ว ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตอีกด้วย แต่ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย ทำให้หลายคนสับสนว่าจะเลือกกองทุนแบบไหนดี ซึ่งวันนี้เราได้มีตัวอย่างกองทุนลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจมาแนะนำ


กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนภาษี


มากันที่กองทุนลดหย่อนภาษี ที่หลายคนคุ้นเคยกัน คือ RMF “Retirement Mutual Fund” หรือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมเงินไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ ซึ่งกองทุน RMF สามารถเลือกลงทุนได้หลากหลาย ทั้ง หุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ ทั้งในหรือต่างประเทศก็ได้ โดยไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากขึ้น มีอะไรบ้างไปดูกัน


  • ซื้อหน่วยลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • ลงทุนอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่อง และขายได้ตอนอายุครบ 55 ปี
  • ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยที่สุดคือปีเว้นปี ถ้าเว้นมากกว่าหนึ่งปีจะถือว่าทำผิดเงื่อนไข
  • ไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อยซื้อปีเว้นปี)


    กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ (PVD) ลดหย่อนภาษี


    อีกกองทุนลดหย่อนภาษีที่มนุษย์เงินเดือนรู้จักกันเป็นอย่างดี คือ กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ (PVD) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลูกจ้างและนายจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมระยะยาว ให้ลูกจ้างมีเงินออมไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณ และยังเป็นหลักประกันของครอบครัว หากเกิดเหตุทางสุขภาพหรือบาดเจ็บในระหว่างทำงาน เกษียณอายุ ออกจากกองทุนหรือ เสียชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนที่เป็นตัวช่วยออมเงิน และมีความคุ้มค่าในระยะยาวเป็นอย่างมาก มาดูกันว่าหลักเกณฑ์และผลประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีดังนี้


    • โดยเงินของกองทุนมาจากเงินที่ลูกจ้างนำส่งส่วนหนึ่ง เรียกว่า "เงินสะสม" ซึ่งกฎหมายกำหนดให้สะสมได้ต้องแต่ละบริษัทมีอัตราเงินสะสมให้เลือกออมได้ตั้งแต่ 2-15% ของเงินเดือน
    • และนายจ้างนำส่งอีกส่วนหนึ่ง เรียกว่า "เงินสมทบ" เป็นประจำทุกเดือน โดยนายจ้างจะจ่าย “เงินสมทบ” ตั้งแต่ 2 -15% เท่ากับลูกจ้าง
    • สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง และไม่เกิน 500,000 บาท


    กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษี


    กองทุน Thai ESG หรือ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน คือ กองทุนรวม ที่เน้นการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีการดำเนินธุรกิจ ที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance: ESG) ซึ่งเป็นแนวคิดการลงทุนที่ได้รับความนิยมทั่วโลกในปัจจุบัน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุน ที่ต้องการทั้งลดหย่อนภาษี ซึ่งเป็นกองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ล่าสุดที่เริ่มให้นักลงทุน ได้ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีตั้งแต่ปี 2566 โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษี ให้กับนักลงทุนสูงสุดถึง 300,000 บาท แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า เงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีของกองทุน Thai ESG เป็นอย่างไรบ้าง มาดูกัน


    • สามารถนำเงินที่ลงทุนในกองทุน Thai ESG ไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี และ ไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี
    • ต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESG ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน


    4. ข้อควรระวังในการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี


    แม้ว่าการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีจะเป็นทางเลือกที่ดีในการออมเงินและประหยัดภาษี แต่ก็มีข้อควรระวังที่คุณควรทราบก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนี้


    1. เข้าใจเงื่อนไขการลดหย่อนภาษี


    • วงเงินลดหย่อน มีวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดที่กำหนด หากลงทุนเกินวงเงินที่กำหนด ส่วนเกินจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
    • ระยะเวลาถือครอง ต้องถือหน่วยลงทุนครบตามที่กฎหมายกำหนด หากขายก่อนกำหนด อาจเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษี
    • ประเภทของกองทุน ต้องเป็นกองทุนที่ได้รับการอนุมัติให้ลดหย่อนภาษีเท่านั้น


    2. ความเสี่ยงในการลงทุน


    • ความผันผวนของตลาด มูลค่าของหน่วยลงทุนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามภาวะตลาด
    • ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของกองทุน
    • ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง หากต้องการขายหน่วยลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน อาจขายไม่ได้ในราคาที่ต้องการ


    3. ค่าธรรมเนียม


    • ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อซื้อหรือขายหน่วยลงทุน
    • ค่าธรรมเนียมการจัดการ เป็นค่าที่จ่ายให้กับบริษัทจัดการกองทุน เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการบริหารจัดการกองทุน


    4. เลือกกองทุนให้เหมาะสม


    • ศึกษาข้อมูลกองทุน ศึกษาข้อมูลกองทุน เช่น นโยบายการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต ค่าธรรมเนียม ก่อนตัดสินใจลงทุน
    • เปรียบเทียบกองทุน เปรียบเทียบกองทุนจากหลาย ๆ บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
    • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เพื่อวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวคุณ


    5. อย่าลงทุนเกินกำลัง


    • ลงทุนตามความสามารถทางการเงิน ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
    • มีเงินสำรองฉุกเฉิน ควรมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินก่อนที่จะนำเงินไปลงทุน


    6. ติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ


    • ตรวจสอบพอร์ตการลงทุน ตรวจสอบพอร์ตการลงทุนของคุณเป็นประจำ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของกองทุน
    • ปรับพอร์ตการลงทุน ปรับพอร์ตการลงทุนเมื่อมีความจำเป็น เช่น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของเป้าหมายการลงทุน หรือเมื่อสภาพตลาดเปลี่ยนแปลงไป


    การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจในตลาดทุน การศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน จะช่วยให้คุณสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับตัวคุณ และนอกจากกองทุนลดหย่อนภาษีแล้ว อีกช่องทางที่หลายคนนิยมนำมาลดหย่อนภาษีได้คุ้ม ๆ คือการซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท ดูแลและคุ้มครองให้คุณเบาใจกับค่ารักษา และสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย


    • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

    ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 14/01/68

    🔖 kasikornbank

    🔖 finnomena

    🔖 setinvestnow

    🔖 finnomena

    สนใจแบบประกัน

    ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

    บทความน่าสนใจ