เป็นฟรีแลนซ์ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะอิสระที่มี อาจต้องแลกมาด้วยความไม่แน่นอนในชีวิต ช่วงงานมีรายได้ก็มา แต่ถ้างานไม่มารายได้ก็ไม่มี การวางแผนจัดการชีวิตฟรีแลนซ์ของตัวเองเอาไว้ให้พร้อมจึงสำคัญ ทั้งเรื่องการงาน การเงิน โดยเฉพาะการทำประกันชีวิตและสุขภาพ ไว้คอยดูแลยามเจ็บป่วย ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ มาดูกันว่า มีอะไรบ้างที่ช่วยเสริมชีวิตดีๆ ของชาวฟรีแลนซ์ให้ลงตัว ต้องเตรียมพร้อมยังไง เมืองไทยประกันชีวิตมีข้อมูลดีๆ มาแบ่งปัน
โดยมากแล้วชาวฟรีแลนซ์มักฟรีแลนซ์ ส่วนใหญ่จะใช้บ้าน หรือห้องนอน เป็นออฟฟิศส่วนตัวในการทำงาน เพราะไม่ต้องจ่ายค่าเช่าออฟฟิศเพิ่มเติม เพื่อให้เรามีเงินที่จะเก็บมากขึ้น ดังนั้นชาวฟรีแลนซ์จึงควรมีมุมสำหรับนั่งทำงาน และโต๊ะทำงานที่ช่วยเอื้อต่อการใช้ความคิด และครีเอทไอเดียที่บรรเจิดได้แบบไร้ขีดจำกัด โดยอาจเลือกพื้นที่ที่ไม่แออัดและมีแสงสว่างเพียงพอ พร้อมดูแลข้าวของบนโต๊ะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อเพิ่มพื้นที่และสเปซในการทำงาน รวมทั้งอาจจะหาไม้กระถางเล็กๆ ที่ช่วยฟอกอากาศมาตั้งไว้ เช่น ลิ้นมังกรแคระที่ช่วยเพิ่มออกซิเจนและดูดสารพิษ ต้นกระบองเพชรที่ช่วยดูดซับรังสีจากคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะเป็นไม้คุ้นเคยอย่างพลูด่าง ที่มีอายุคงทน ช่วยฟอกอากาศและช่วยดูดซับสารพิษในอาคาร เพียงเท่านี้ ก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศโต๊ะทำงานแบบเดิมๆ ของชาวฟรีแลนซ์ ให้สดชื่นสบายตา และทำให้สมองปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น
แม้ชาวฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่จะใช้บ้าน หรือห้องนอนเป็นออฟฟิศส่วนตัวในการทำงาน แต่เมื่อต้องนำเสนองานให้กับลูกค้า ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม และพกพาความเป็นมืออาชีพไปให้เต็มร้อย แต่การจะทำเช่นนั้นได้ นอกจากมีความมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว ไอเทมและเทคโนโลยีต่างๆ ก็มีส่วนช่วยในการเสริมความสะดวกสบาย และทำให้การทำงานของชาวฟรีแลนซ์สะดวกสบายยิ่งขึ้น
เพราะชาวฟรีแลนซ์มีรายได้ไม่แน่นอน จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ชาวฟรีแลนซ์จะต้องวางแผนเรื่องการเงินและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้พร้อมที่สุด โดยเฉพาะเรื่องเงินสำรองที่ควรเตรียมพร้อมไว้เช่นกัน เพราะบางครั้งเงินค่าตอบแทนที่ควรได้รับ ก็กลับถูกเลื่อนออกไป ไม่ได้ตรงเวลาทุกครั้ง ไม่เหมือนกับรายจ่ายที่ยังคงอยู่เป็นประจำทุกๆ เดือน การวางแผนและเตรียมเงินสำรองเอาไว้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยง และทำให้การใช้ชีวิตของชาวฟรีแลนซ์เป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น แนะนำว่าให้คำนวณจากค่าใช้จ่ายประจำเดือน และควรมีเงินสำรอง 3 - 6 เดือน ที่เพียงพอจะสามารถดำรงชีวิตไว้ในช่วงเวลาที่ไม่มีงาน หรือช่วงที่ยังไม่สามารถเบิกเงินจากลูกค้าได้ นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมคำนวณไปถึงค่าใช้จ่ายบางอย่างที่อาจจะทำให้ต้องเสียเงินเยอะ เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อย่างค่าเดินทาง ค่าเครื่องดื่ม หรือค่าใช้จ่ายแอบแฝงอื่น ๆ อย่างค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องเตรียมนำเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งล้วนแล้วแต่มีค่าใช้จ่ายที่อาจจะคาดไม่ถึง เงินสำรองจึงถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากสำหรับชาวฟรีแลนซ์
ปฎิเสธไม่ได้ว่าโทรศัพท์มือถือ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น เพื่อให้ดีกว่าการใช้ โทรเข้า โทรออก หรือ การแชทส่งข้อความหาเพื่อน หรือหาแฟน เรามีแอฟพลิเคชันดีๆ มา แนะนำ เพื่อให้ชาวฟรีแลนซ์สามารถจัดการงานได้อย่างสมาร์ท และไม่พลาดนัดหมาย หรือ งานที่ต้องส่ง
ความเจ็บป่วยถือเป็นคำต้องห้ามของชาวฟรีแลนซ์ แต่ด้วยไลฟ์สไตล์โหมงานหนัก และพักผ่อนไม่เพียงพอจนเสี่ยงโรค รู้ตัวอีกทีก็ล้มป่วยเสียแล้ว กลายเป็นยิ่งป่วยก็ยิ่งต้องทำงานหนัก เพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลวนลูปไปไม่รู้จบ การทำประกันชีวิตและสุขภาพ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชาวฟรีแลนซ์เพื่อเตรียมพร้อมไว้ จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะชาวฟรีแลนซ์ไม่มีสวัสดิการคอยคุ้มครองเหมือนพนักงานประจำ เจ็บป่วยก็ต้องอาศัยเงินเก็บที่หามา แต่การมีประกันชีวิตและสุขภาพเตรียมพร้อมไว้นั้น ก็เท่ากับมีความคุ้มครองไว้คอยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย ไม่เงินเก็บที่ออมไว้ก็ไม่หมดไปกับค่ารักษาที่มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี และนอกจากจะให้ความคุ้มครองเรื่องสุขภาพแล้ว ประกันชีวิตและสุขภาพก็ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 25,000 บาท ตามข้อกำหนดของกรมสรรพากรอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า การเป็นฟรีแลนซ์ให้แฮปปี้นั้น นอกจากจะต้อวางแผนชีวิตให้ดูดีแล้ว การวางแผนรับมือกับความเจ็บป่วยก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจเช่นกัน สำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่อยากเสริมความมั่นใจในยามเจ็บป่วย เมืองไทยประกันชีวิตขอแนะนำ โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า ที่ช่วยคุ้มครองสุขภาพตั้งแต่บาทแรกที่เข้าพักรักษาตัว ด้วยความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริงถึงครึ่งล้าน ด้วยการเข้ารักษาแบบผู้ป่วยในครอบคลุมทั้งกรณีเจ็บป่วยและกรณีผ่าตัดรวมถึงค่าห้อง ทั้งโรคร้ายแรงและโรคทั่วไป ให้ชาวฟรีแลนซ์มั่นใจ คลายกังวลเรื่องค่ารักษายามเจ็บป่วย
หมายเหตุ