ทำประกันสุขภาพที่ไหนดี ปี 2568 ? เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์

เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนตาม โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจว่าจะทำ ประกันสุขภาพที่ไหนดี โดยเฉพาะปี 2568 นี้ เพราะทุกการใช้ชีวิตล้วนมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจ็บป่วยได้ตลอด ประกันสุขภาพจึงเป็นทางเลือกที่จำเป็น เพราะเป็นตัวช่วยในการรองรับความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ และช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาล ซึ่งประกันสุขภาพนี้ไม่เพียงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย วันนี้ถ้าใครกำลังคิดว่าจะทำประกันสุขภาพที่ไหนดีตามแอดไปดูกันว่า ถ้าเราอยากเริ่มซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ประกันสุขภาพ OPD คืออะไร มีข้อดียังไง ไปดูกัน!

1. ประกันสุขภาพมีแบบไหนบ้าง?

2. ตัวตึงเรื่องดูแลกับประกันสุขภาพเหมาจ่าย

3. ประกันสุขภาพที่ไหนดี? พร้อมปัจจัยสำคัญก่อนเลือกซื้อประกันสุขภาพ

4. แผนประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยม เลือกแผนไหนดีให้คุ้มค่า

5. ทำไมต้องมีประกันสุขภาพ

6. เลือกประกันสุขภาพแผนไหนดี? ให้ไร้กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล

1. ประกันสุขภาพมีแบบไหนบ้าง? 

ซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี เพราะในยุคนี้สุขภาพของเรามีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นควันรถ ฝุ่น pm 2.5 การแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ รวมทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่น การกิน โหมงานหนัก ไม่มีเวลาพัก นอนไม่พอ ทำให้เรามีโอกาสเจ็บป่วยได้ตลอดเวลา ทำให้หลายคนเริ่มคิดว่า จะซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี เพราะซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ ความเจ็บป่วยและโรคที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งโรคทั่วไปและโรคร้าย ซึ่งเราไม่สามารถเลี่ยงได้เลยกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันทั้งค่ายา ค่าหมอ ค่าห้อง จ่ายแต่ละครั้งก็แทบจะขาดใจ การมีประกันสุขภาพจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญและจำเป็นมากที่อยากให้ทุกคนมี เพราะจะช่วยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโรคทั่วไปโรคร้าย ก็สบายกระเป๋า วันนี้ลองมาเริ่มดูกันเลยว่า ถ้าอยากเริ่มต้นมีประกันสุขภาพจะต้องรู้อะไรบ้างและเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองที่สุด

ประกันสุขภาพ คือ เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นให้แก่คนที่ซื้อประกันสุขภาพไป ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยเล็กน้อยหือเกิดจากการเจ็บป่วยหนักจนต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุด้วย ซึ่งหากเรามีประกันสุขภาพ วันนึงที่เจ็บป่วยกระทันกัน การมีประกันสุขภาพนี้จะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นให้

ประกันสุขภาพแบ่งออกเป็นหลัก ๆ 2 แบบคือ

ประกันสุขภาพกลุ่ม (Group Health Insurance)

ประกันสุขภาพกลุ่ม คือ ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองบุคคลจำนวนมากภายใต้กรมธรรม์ฉบับเดียวกัน เป็นประกันสุขภาพที่บริษัทหรือองค์กรนิยมทำให้พนักงานเพื่อเป็นสวัสดิการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จุดเด่นของประกันสุขภาพกลุ่ม คือ ค่าเบี้ยประกันต่อคนต่ำกว่าประกันสุขภาพส่วนบุคคล

ประกันสุขภาพส่วนบุคคล (Individual Health Insurance)

ประกันสุขภาพส่วนบุคคล คือ ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันรายบุคคล จุดเด่นคือผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนความคุ้มครองให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง โดยค่าเบี้ยประกันจะคำนวณตามเพศและอายุของผู้เอาประกัน ซึ่งประกันสุขภาพยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่ซื้อกรมธรรม์ไว้ก็คือประกันสุขภาพเหมาจ่าย 

ซึ่งประกันสุขภาพประกันสุขภาพจะคุ้มครองทั้งผู้ป่วยใน IPD ผู้ป่วยนอก OPD แต่ก็จะขึ้นอยู่แต่ละแบบประกันที่เราเลือกด้วยนะ ว่ามีข้อแตกต่างกันยังไงบ้าง ขึ้นอยู่กับตัวกรมธรรม์ที่เราเลือก ซึ่งนอกจากนี้บางแบบประกันยังได้ผลประโยชน์สัญญาเพิ่มเติม เช่น การคลอดบุตร ทันตกรรม รวมทั้งสัญญาประกันเพิ่มเติ ที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมนอกเหนือจากกรมธรรม์หลักได้ เช่น ประกันชดเชยรายได้ ประกันโรคร้ายแรง เป็นต้น

ประกันสุขภาพคุ้มครองอะไรบ้าง

คุ้มครองผู้ป่วยใน หรือ In-Patient Department (IPD)

โดยส่วนใหญ่ประกันประเภทนี้ จะเป็นแบบเหมาจ่าย ซึ่งจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริงโดยมีวงเงินคุ้มครองค่อนข้างสูงตั้งแต่ 1 ล้านบาท  2 แสน– 100 ล้านบาท ทำให้ค่าเบี้ยแพง เหมาะกับคนที่มีโอกาสป่วยหรือเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ เช่น เด็กเล็ก คนสูงวัย หรือผู้ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเบิกเงินประกันสุขภาพได้ต่อเมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มากกว่า 6 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการปรึกษาแพทย์ ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่ารถพยาบาล ค่าบริการ หรือค่าผ่าตัดฉุกเฉิน (กรณีที่มีค่าผ่าตัดจากการเกิดอุบัติเหตุ จำเป็นต้องทำเรื่องภายใน 24 ชั่วโมง)

ผลประโยชน์คุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยนอก หรือ Out-Patient Department (OPD)

เป็นประกันสุขภาพที่คุ้มครองการรักษาอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ไข้หวัด แผลที่ไม่ต้องเข้าพักที่โรงพยาบาล ตอบโจทย์ทุกคน เพราะสามรถใช้เบิกค่ารักษาพยาบาลได้โดยไม่ต้องสำรองจ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าปรึกษาแพทย์ ค่ายา หรือค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ

ประกันโรคร้ายแรง หรือ Critical illness (CI)

เป็นประกันสุขภาพที่จะคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันสุขภาพแบบทั่วไป โดยจะดูแลเกี่ยวกับโรคร้ายแรงโดยเฉพาะ เช่น โรคมะเร็ง โรคไต โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับสมอง ซึ่งเป็นโรคที่มีค่ารักษาราคาสูง ใช้เวลาในการรักษายาวนานและต่อเนื่องทำให้มีค่ารักษาที่มากกว่าปกติที่ประกันสุขภาพทั่ว ๆ ไปจะสามารถคุ้มครองได้ครอบคลุม รวมถึงโรคร้ายแรงที่เกิดจากพันธุกรรมประกันสุขภาพโรคร้ายแรงก็คุ้มครองด้วย แต่ผู้เอาประกันควรศึกษาเงื่อนไขรายละเอียดในการคุ้มครองให้ดีก่อนทำประกันสุขภาพนี้

ประกันสุขภาพชดเชยรายได้ หรือ Hospital Income Protection (HIP)

เป็นอีกหนึ่งประกันสุขภาพ ที่จะดูแลเพิ่มเติมจากประกันสุขภาพทั่วไป โดยจะคุ้มครองเรื่องของรายได้ หากคุณต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน ไม่สามารถไปทำงานหรือออกไปค้าขายได้ ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยเป็นรายวัน ตามเงื่อนไขของประกันที่ระบุไว้

ดังนั้นการทำประกันสุขภาพประเภทนี้ เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องมีรายได้ประจำ คนวัยทำงานควรมีประกันสุขภาพทั่วไปควบคู่ไปด้วย เพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้ครบ

2. ตัวตึงเรื่องดูแลกับประกันสุขภาพเหมาจ่าย

พูดถึงประกันสุขภาพเหมาจ่ายไปแล้วในครั้งก่อน มาดูกันต่อเลยว่าถ้าเราซื้อประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะตอบโจทย์ปัง ๆ ยังไงบ้าง ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เป็นประกันสุขภาพที่กำหนดวงเงินรักษาแบบเหมาทุกอย่างรวมต่อปี เช่น คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยในเหมาจ่ายต่อปี 5 ล้านบาท โดยวงเงินค่ารักษาจะคิดแบบเหมารวม ไม่แยกเป็นรายการ ไม่สนใจว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายอะไร เช่น ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ตรวจรักษา ซึ่งประกันสุขภาพเหมาจ่ายจะมีข้อกำหนดในส่วนของค่าห้องพักรักษาพยาบาล ดังนั้นก่อนจะทำประกันเหมาจ่าย ควรดูแต่ละแบบประกัน ในส่วนของค่าห้องพักที่คาดว่าจะเข้ารับการรักษาด้วยว่ เพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือไม่ เพราะหากค่าห้องสูงเกินวงเงินที่ประกันคุ้มครอง ผู้เอาประกันต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มเติมเอง

ข้อดีประกันสุขภาพเหมาจ่าย

• เคลมประกันได้ง่าย เพียงอยู่ในวงเงินที่กำหนด
• ด้วยความที่เป็นวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาต่อปี ทำให้คุ้มครองได้หลายรายการ ขอเพียงรวมแล้วไม่เกินวงเงินรวมที่กำหนด
• จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่เกิดขึ้นจริง ไม่กำหนดวงเงินค่ารักษาแต่ละรายการ
• ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 25,000 บาทต่อปี โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่สรรพากรกำหนด

3. ประกันสุขภาพที่ไหนดี? พร้อมปัจจัยสำคัญก่อนเลือกซื้อประกันสุขภาพ

มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า ถ้าอยากซื้อประกันสุขภาพซื้อที่ไหนดี เนื่องจากการเลือกซื้อประกันเป็นเรื่องที่สำคัญและควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจากที่จะต้องเลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือและได้รับความนิยม ยังควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดและเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างละเอียด และสามารถปรับแผนได้ตามต้องการ

ซึ่งสิ่งสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันก็คือ การรวบรวมข้อมูลที่ตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงความคุ้มครองอื่น ๆ ที่ตัวเองมี เพื่อไม่ให้ไปทับซ้อนกับความคุ้มครองที่มีจนอาจเกินความจำเป็น เพราะโดยทั่วไปแล้วมนุษย์เงินเดือน มักมีสวัสดิการประกันกลุ่มจากบริษัทนายจ้าง ซึ่งอาจคุ้มครองทั้งด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ โดยครอบคลุมทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ซึ่งเราอาจจะท็อปอัพจากตรงนั้นได้

การซื้อประกันสุขภาพกับเมืองไทยประกันชีวิต จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้ความคุ้มครองได้ตอบโจทย์ เลือกแผนจ่ายเบี้ยได้ตามที่ไหว และสามารถเข้ามาดูข้อมูลและซื้อประกันออนไลน์ได้ สนใจรายละเอียดกดคลิกได้เลย

ปัจจัยสำคัญก่อนเลือกซื้อประกันสุขภาพ

ก่อนจะรู้ว่า ประกันสุขภาพที่ไหนดี ต้องบอกเลยว่า ทั้งประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย และ ประกันสุขภาพแบบทั่วไป นั้นก็เหมาะกับความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เราจึงต้องพิจารณาหลายๆ ปัจจัยก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อประกันสุขภาพให้กับตัวเอง และคนในครอบครัว ซึ่งมีดังต่อไปนี้

•  ประเมินความเสี่ยงของตัวเอง

ในการทำประกันสุขภาพ ผู้ซื้อประกันควรประเมินความเสี่ยงของตัวเองจะได้รู้ว่าควรเลือกซื้อประกันสุขภาพแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด โดยให้ดูจาก เพศ อายุ โรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ประวัติสุขภาพ พฤติกรรมการใช้ชีวิต ผลตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่บริษัทประกันสามารถใช้ในการคำนวณเบี้ยประกัน และผลประโยชน์ความคุ้มครองของประกันสุขภาพได้

• ตรวจสอบว่ามีสิทธิการรักษาอื่นๆ หรือไม่

หากพูดถึงสิทธิการรักษาพยาบาลตามกฎหมายแล้ว คนไทยทุกคนจะได้รับสิทธิประกันสวัสดิการสุขภาพถ้วนหน้า หรือ สิทธิบัตรทอง และเมื่อได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐ ก็จะได้รับสิทธิการรักษาจากประกันสังคม หรือบางที่อาจมีการทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพิ่มเติมให้กับพนักงาน หากเป็นข้าราชการ ก็จะได้รับสิทธิเบิกตรง เป็นต้น แต่หากใครที่ประเมินดูแล้วว่าสิทธิที่ได้รับนั้นยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เช่น อาจต้องรอคิวนาน คุณภาพยา การบริการ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการรักษา ห้องพักฟื้น ซึ่งการทำประกันสุขภาพก็เหมือนเป็นการป้องกันขั้นที่สอง ที่ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงทางการเงิน ลดภาระค่าใช้จ่าย  ในกรณีที่เจ็บป่วยและต้องใช้เงินมากมาย เพื่อมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล

• ประเมินจากสิ่งที่ต้องการ

ในการเลือกแผนประกันสุขภาพให้คุ้มค่า ก็ควรเลือกประเมินจากสิ่งที่เราต้องการความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็น วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง ค่าห้องพักฟื้นต่อคืนเท่าไร มีเงินชดเชยขาดรายได้หรือไม่ วงเงินความคุ้มครองที่ได้รับในการรักษานั้นเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ เป็นต้น

• ประเมินความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน

สิ่งที่สำคัญในการซื้อประกันสุขภาพ นั่นก็คือความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันภัยนั่นเอง จึงควรสำรวจตัวเองก่อนว่าจ่ายไหวแค่ไหน จะเลือกจ่ายรายเดือนหรือรายปี เบี้ยประกันทั้งหมดราคาเท่าไร ซึ่งในบริษัทประกันต่าง ๆ จะมีให้เราเลือกชำระเบี้ยงได้ทั้งรายเดือนและรายปี 

4. แผนประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยม เลือกแผนไหนดีให้คุ้มค่า

การเลือกแผนประกันสุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นการวางแผนเพื่อความมั่นคงในอนาคต โดยเฉพาะในยามเจ็บป่วย ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพนั้นค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยหลายแห่งที่นำเสนอแผนประกันสุขภาพที่หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคสับสนในการเลือกซื้อ ดังนั้น มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยม และปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อกัน

แผนประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยม

• ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เป็นแผนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีความคุ้มครองที่ครอบคลุม ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในโรงพยาบาลจะถูกเบิกจ่ายตามวงเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันจึงไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกินความคาดหมาย
  
• ประกันสุขภาพแบบรายการ  เป็นแผนที่ระบุรายการค่าใช้จ่ายที่คุ้มครองไว้ชัดเจน เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์ เป็นต้น ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองตามรายการที่ระบุไว้เท่านั้น
• ประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ เน้นความคุ้มครองโรคเรื้อรัง โรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ
• ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก เน้นความคุ้มครองโรคติดเชื้อ โรคที่พบได้บ่อยในเด็ก และอุบัติเหตุ
  

5. ทำไมต้องมีประกันสุขภาพ

ซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี ทำไมต้องมีประกันสุขภาพ เป็นคำถามที่ค้างคาใจใครหลายคน เพราะบางคนยังคิดว่าเป็นการเสียเงินทิ้งไปแต่ละปี แต่รู้มัยว่า การซื้อประกันสุขภาพเป็นการลงทุนที่ไม่เสียเงินเปล่าแน่นอน เพราะหากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น เจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงหลังจากที่ทำประกัน เราก็จะมีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ระหว่างที่มีประกันสุขภาพกับไม่มี อย่างน้อยเราก็ยังสบายใจว่า มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล และไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเอาเงินเก็บของตัวเองหรือครอบครัวมาจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล แต่ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกว่าการมีประกันสุขภาพดียังไงทำไมต้องมี วันนี้แอดจะพาไปดูถึงข้อดีของการมีประกันสุขภาพกันเลย

• เพราะอายุที่มากขึ้นก็ยิ่งเสี่ยงเป็นโรคมากขึ้น จึงควรมีประกันสุขภาพไว้รองรับความเสี่ยงค่ารักษา อย่ารอจนป่วย แล้วจึงคิดจะทำประกันสุขภาพ เพราะถึงตอนนั้นประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

• ค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นทุกวัน จนแค่สวัสดิการและประกันกลุ่มของออฟฟิศอาจไม่เพียงพอ

• การทำประกันสุขภาพรายบุคคลจะทำให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ติดตัวคุณไปทุกสถานการณ์แม้ไม่ได้ทำงานประจำ

• เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดถึง 25,000 บาท/ปี

• ไม่เป็นภาระของครอบครัว เนื่องจากประกันสุขภาพช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าห้อง ฯลฯ ทำให้ไม่ต้องรบกวนเงินเก็บของครอบครัวหรือของตัวเราเอง หมดกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่ายหรือเป็นภาระต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับเรา

• สามารถเลือกรับการรักษาได้ หรือเลือกโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบครันเพื่อได้รับการรักษาที่ตอบโจทย์กับโรคนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว  หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่อยู่ในความคุ้มครองของประกันที่เราทำไว้
  

6. เลือกประกันสุขภาพแผนไหนดี? ให้ไร้กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล

การเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นการวางแผนเรื่องค่ารักษายามเจ็บป่วย ปัจจุบันมีแผนประกันสุขภาพให้เลือกมากมาย จนอาจทำให้สับสนได้ วันนี้เราจะมาช่วยคุณวิเคราะห์และเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

• งบประมาณ กำหนดงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ต่อเดือนหรือต่อปี
• ความคุ้มครอง เลือกแผนที่ให้ความคุ้มครองตรงตามความต้องการของคุณ เช่น
• โรคทั่วไป คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์
• โรคร้ายแรง คุ้มครองกรณีเป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจ
• อุบัติเหตุ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ
• การคลอดบุตร คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร
• โรงพยาบาลเครือข่าย ตรวจสอบว่าโรงพยาบาลที่คุณต้องการใช้บริการอยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกันหรือไม่
• วงเงินความคุ้มครอง เลือกวงเงินความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยง
• ระยะเวลารอคอย คือระยะเวลาที่ต้องรอหลังจากทำประกันก่อนจะได้รับความคุ้มครองโรคบางชนิด
• เงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การคุ้มครองค่าทันตกรรม
  

เมื่อรู้แล้วว่าทำไมถึงควรมีประกันสุขภาพ และทำประกันสุขภาพที่ไหนดี แต่คิดว่าก็ยังมีคนที่อาจจะยังคงสงสัยอยู่อีกนิดว่า ใครบ้างที่ควรทำประกันสุขภาพ คำตอบคือ “ทุกคน” เพราะไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่หรือเป็นเพศอะไร ก็มีความเสี่ยงด้านสุขภาพไม่แพ้กัน ซึ่งปัจจุบันแผนประกันสุขภาพมีให้เลือกมากมาย ทั้งประกันสุขภาพเด็ก ประกันสุขภาพสำหรับบุคคลทั่วไป และประกันสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพให้กับทุกคน ดังนั้นอย่าลังเลที่จะทำประกันฯ ให้กับทั้งตัวเองและครอบครัวตั้งแต่วันนี้

การทำประกันสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพเหมาจ่าย ประกันสุขภาพทั่วไป ประกันโรคร้ายแรง ก็ถือเป็นการคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของเราได้ในอนาคต เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ เราจะได้ไม่ต้องเอาเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตเพื่อจ่ายค่ารักษา

•  โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
  

ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 27/02/67 

🔖 set (ข้อมูล ณ วันที่ 01/03/65)

🔖 itax (ข้อมูล ณ วันที่ 08/03/62)