อัปเดตล่าสุด ค่าผ่าตัดปี 2568 โรคยอดฮิตที่คุณต้องรู้
สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นทุกปีก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล โดยเฉพาะค่าผ่าตัดในปี 2568 ที่อาจทำให้คุณต้องตกใจ! ซึ่งค่าผ่าตัดโรคต่าง ๆ มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของการผ่าตัด ความซับซ้อนของโรค เทคนิคที่ใช้ โรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาเตรียมพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ พร้อมอัปเดตข้อมูลล่าสุด เพื่อให้คุณวางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างรอบคอบ เจ็บป่วยขึ้นมาจะได้ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษา
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
1. เตรียมค่ารักษาพยาบาลสำคัญอย่างไร?
2. เช็กค่าผ่าตัด โรคร้ายแรงยอดฮิต ปี 2568
3. ค่าผ่าตัดขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?
4. เคล็ดลับเตรียมค่ารักษาพยาบาล
1. เตรียมค่ารักษาพยาบาลสำคัญอย่างไร?
การเตรียมค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโรคภัยไข้เจ็บก็เกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด การเตรียมความพร้อมด้านค่ารักษาพยาบาล จึงช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย
ความสำคัญของการเตรียมค่ารักษาพยาบาล
- ลดภาระค่าใช้จ่าย เพราะการเจ็บป่วยอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ค่าตรวจวินิจฉัยโรค และค่ายา การเตรียมค่ารักษาพยาบาลจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาเงินมาจ่ายค่ารักษา
- เพิ่มความมั่นใจในการรักษา เมื่อมีค่ารักษาพยาบาลพร้อม คุณจะสามารถเลือกรับการรักษาที่ดีที่สุด จากโรงพยาบาลและแพทย์ที่คุณต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
- รักษาคุณภาพชีวิต การเจ็บป่วยอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณและครอบครัว การเตรียมค่ารักษาพยาบาลจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสมและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทำให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน หากไม่มีการเตรียมค่ารักษาพยาบาล อาจต้องใช้เงินเก็บทั้งหมด หรือกู้ยืมเงินมาจ่ายค่ารักษา ซึ่งอาจส่งผลกระทบ ต่อสถานะทางการเงินในระยะยาว การเตรียมค่ารักษาพยาบาล จะช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินเหล่านี้ได้
2. เช็กค่าผ่าตัด โรคร้ายแรงยอดฮิต ปี 2568
การเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่เราคาดเดาไม่ได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวรับมือ กับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช็กค่าผ่าตัดโรคร้ายแรงยอดฮิตในปี 2568 เพื่อวางแผนการเงินและหาทางเลือกในการลดภาระค่าใช้จ่าย เมื่อต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง มาดูกันว่าค่าผ่าตัดแต่ละโรคต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร
1. ค่าผ่าตัดส่องกล้อง
- ประมาณ 100,000 – 200,000 บาท (โรงพยาบาลกรุงไทย)
2. ค่าผ่าตัดหัวใจและหลอดเลือด
- ประมาณ 54,000 - 990,000 บาท (โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ)
3. ค่ารักษามะเร็งด้วยการผ่าตัด
- เริ่มต้นที่ 120,000 บาท (โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ)
4. ค่าผ่าตัดกระดูกสันหลังและศัลยกรรมกระดูก
- เริ่มต้นที่ 39,500 - 540,000 บาท (โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล)
5. ค่าผ่าต้อกระจก
- เริ่มต้นที่ 58,900 – 124,900 บาท (โรงพยาบาลพระราม 9)
6. ค่าผ่าตัดนิ้วล็อค
- ประมาณ 27,000 บาท (โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล)
- ประมาณ 9,000 – 13,000 บาท (โรงพยาบาลลาดพร้าว)
7. ค่าผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ
- ผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิดแผล (Open Appendectomy) ราคา 54,000 บาท (นอน 3 วัน 2 คืน)
- ผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้อง (Laparoscopic Appendectomy) ราคา 112,000 บาท (นอน 2 วัน 1 คืน) (โรงพยาบาลเพชรเวช)
8. ค่าผ่าตัดข้อเข่า
- แพ็กเกจผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม แบบฉีดยาระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง ราคา 160,000 บาท (1 ข้าง)
- แพ็กเกจผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม แบบการให้ยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย ราคา 180,000 บาท (1 ข้าง) (โรงพยาบาลบางปะกอก3)
หมายเหตุ
- ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นเพียงค่าประมาณการเท่านั้น ค่าใช้จ่ายจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลและปัจจัยอื่น ๆ
- ควรสอบถามค่าใช้จ่ายโดยตรงจากโรงพยาบาลที่สนใจเข้ารับการรักษา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
3. ค่าผ่าตัดขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?
ค่าผ่าตัดมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อราคา ทำให้การผ่าตัดแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป ปัจจัยหลัก ๆ ที่มีผลต่อค่าผ่าตัด ได้แก่
1. ประเภทของการผ่าตัด
- ความซับซ้อน การผ่าตัดที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การผ่าตัดหัวใจ การผ่าตัดสมอง หรือการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดทั่วไป เช่น การผ่าตัดไส้ติ่ง หรือการผ่าตัดนิ่ว
- เทคนิคการผ่าตัด การผ่าตัดโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การผ่าตัดผ่านกล้อง หรือการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
- ระยะเวลาในการผ่าตัด การผ่าตัดที่ใช้เวลานานกว่า จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดที่ใช้เวลาสั้นกว่า
2. โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลรัฐ vs. โรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนโดยทั่วไป จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า
3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ค่าแพทย์ ค่าแพทย์จะแตกต่างกันไปตามความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์
- ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่ายาและเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการผ่าตัดและหลังการผ่าตัด
- ค่าห้องพัก ค่าห้องพักในโรงพยาบาล จะแตกต่างกันไปตามประเภทของห้องพัก
- ค่าตรวจวินิจฉัย ค่าตรวจวินิจฉัยก่อนและหลังการผ่าตัด เช่น ค่าตรวจเลือด ค่าเอกซเรย์ หรือค่า MRI
- ค่าดูแลหลังการผ่าตัด ค่าดูแลหลังการผ่าตัด เช่น ค่ากายภาพบำบัด หรือค่าดูแลที่บ้าน
4. เคล็ดลับเตรียมค่ารักษาพยาบาล
การเตรียมค่ารักษาพยาบาลเป็นเรื่องสำคัญที่ควรวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้คุณและครอบครัวพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเมื่อเจ็บป่วย วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเตรียมค่ารักษาพยาบาลได้อย่างไร้กังวลมาฝากกัน
1. วางแผนการออมเงิน
- ตั้งเป้าหมาย กำหนดเป้าหมายการออมเงินที่ชัดเจน เช่น จำนวนเงินที่ต้องการ และระยะเวลาในการออม
- จัดสรรเงิน แบ่งเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ประจำมาออมอย่างสม่ำเสมอ
- เลือกช่องทางการออม เลือกช่องทางการออมที่เหมาะสมกับความต้องการ เช่น บัญชีเงินฝากประจำ กองทุนรวม หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
2. ทำประกันสุขภาพ
- เลือกแผนประกัน เลือกแผนประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็น เช่น ค่าผ่าตัด ค่ารักษาในโรงพยาบาล และค่ายา
- พิจารณาความคุ้มครอง พิจารณาความคุ้มครองของแผนประกัน ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและงบประมาณ
- เปรียบเทียบเบี้ยประกัน เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันต่าง ๆ เพื่อหาแผนที่คุ้มค่าที่สุด
3. ใช้สิทธิสวัสดิการ
- ตรวจสอบสิทธิ ตรวจสอบสิทธิสวัสดิการที่มี เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสวัสดิการจากที่ทำงาน
- ใช้สิทธิให้เต็มที่ ใช้สิทธิสวัสดิการที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
4. วางแผนการเงินฉุกเฉิน
- สำรองเงินฉุกเฉิน เตรียมเงินสำรองฉุกเฉินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาลเร่งด่วน
- บริหารจัดการหนี้ ลดภาระหนี้สิน เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- วางแผนการเงินระยะยาว วางแผนการเงินระยะยาว เพื่อให้มีเงินเพียงพอสำหรับค่ารักษาพยาบาลในวัยเกษียณ
เริ่มวางแผนการเตรียมค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้มีเวลาในการสะสมเงินและเลือกแผนประกันที่เหมาะสม และอย่าลืมเตรียมความพร้อมเรื่องค่ารักษาไว้ล่วงหน้า เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตโรคร้ายจะมาเยือนตอนไหน สามารถเตรียมความพร้อมเรื่องค่ารักษายามเจ็บป่วย ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต ไว้ช่วยดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต/ ช่องทางที่ดูแลท่าน
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 14/03/68