บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัทในเครือ หมายรวมถึง
บริษัทหรือองค์กรอื่นใดที่ควบคุม ถูกควบคุม หรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ
ซึ่งอาจมีผู้ถือหุ้นหรือกรรมการส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน (ซึ่งต่อไปนี้รวมเรียกว่า “MTL”
“บริษัทฯ” หรือ “เรา”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของบริษัทฯ
เกี่ยวกับเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือการส่ง
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น
บริษัทฯ ยึดค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่ท่านมีให้แก่เรา
เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับเรา บริษัทฯ
จึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้มีการประมวลผลและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ดังนั้น การสร้างความเข้าใจแก่ท่านในเรื่องของวิธีการ
ขั้นตอนในการเก็บรวบรวม การใช้
การประมวลผล และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับบริษัทฯ ทั้งนี้
ท่านจะต้องอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้
นโยบายความเป็นส่วนตัวของ บริษัทฯ ครอบคลุมถึง
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และหรือ/เปิดเผยจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการให้ข้อมูลนั้นของท่าน โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย การเข้าทำสัญญา และ/หรือการรับบริการ หรือบริการเสริมจากบริษัทฯ เท่านั้น ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ การไม่ให้ความยินยอม และ/หรือยกเลิกการให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล อาจส่งผลให้ทางบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเข้าทำธุรกรรมของท่าน หรือท่านอาจจะไม่สามารถใช้บริการของบริษัทฯ ได้อย่างเหมาะสม
เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่บริษัทฯ (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้เอาประกันภัย สมาชิกในครอบครัว ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์) ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้
บริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านสมัครเพื่อเข้าใช้บริการ เมื่อท่านซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ หรือเมื่อท่านได้รับการบริการหรือได้ใช้บริการใดจากบริษัทฯ อันได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้
• ข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับจากท่านเมื่อท่านลงทะเบียนหรือกรอกข้อมูลส่วนบุคคลในใบสมัครหรือแบบฟอร์มอื่นๆ เพื่อรับ หรือขอใช้บริการผลิตภัณฑ์/บริการของบริษัทฯ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นๆ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด เพศ ที่อยู่ไปรษณีย์ อีเมล รูปภาพ ข้อมูลด้านการเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการทำงาน ซึ่งอาจรวมถึงชื่อและที่อยู่ของนายจ้าง ข้อมูลสุขภาพ ลายมือชื่อ เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับใบสมัคร/แบบฟอร์มที่ท่านกรอก
• ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ เลขที่บัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี รายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร รายละเอียดเกี่ยวกับเงินกู้ ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน รายละเอียดเกี่ยวกับบัตรเครดิต และรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินอื่น ๆ
• ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการถูกดำเนินคดีความของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่ง หรือการดำเนินคดีอื่น ๆ รวมไปถึงรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้อง
• รายละเอียดผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ ที่ท่านเคยซื้อจากบริษัทฯ หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่นๆ เช่น เลขที่กรมธรรม์ประกันภัย จำนวนเงินเอาประกันภัย การเปลี่ยนแปลง/การทำธุรกรรมเกี่ยวกับกรมธรรม์ วิธีการชำระเบี้ยประกันภัย ประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย หรือประวัติเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน ผู้รับประโยชน์ การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน รวมถึงการใช้สิทธิต่าง ๆ ภายใต้กรมธรรม์ หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่นๆ ของบริษัทฯ หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่นๆ
• สถานะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนเงินแก่การก่อการร้าย และภาวะล้มละลาย กฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FACTA) กฎหมายว่าด้วย Common Reporting Standard: CRS
• ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมของท่านกับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลการสมัครงาน ข้อมูลการสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต ข้อมูลการเข้าเสนอราคา ข้อมูลกรมธรรม์ ข้อมูลความคุ้มครองของกรมธรรม์ เบี้ยประกันภัย และประวัติการชำระเงินซึ่งรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต หมายเลขบัญชีธนาคารหรือข้อมูลการธนาคารหรือการชำระเงินอื่นๆ รวมทั้งวันที่และเวลาที่ชำระเงิน ข้อมูลการเข้ารักษาพยาบาล ข้อมูลการเข้าใช้บริการศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำธุรกรรมของท่าน
• ข้อมูลจากการเข้าชมเว็บไซต์ www.muangthai.co.th เว็บไซต์อื่นๆ หรือแอปพลิเคชันที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการ ข้อมูลการใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และการโต้ตอบกับโฆษณาออนไลน์ของบริษัทฯ เช่น รุ่นและประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บ (Browser Type and Version) ประเภทของอุปกรณ์ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงการบริการ (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แล็ปท๊อป หรือสมาร์ทโฟน) ข้อมูลประเภทระบบการปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม IP (Internet Protocol) Address ของอุปกรณ์หรือเครื่องมือปลายทาง ข้อมูล Location ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการและผลิตภัณฑ์ที่ท่านเข้าชมหรือค้นหา
• บันทึกการติดต่อของท่านกับบริษัทฯ ซึ่งเก็บในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ หรือ การบันทึกเสียงสนทนา หมายเลขผู้โทรศัพท์เข้า หรือการฝากข้อความเสียง (Voice Mail) หรือการบันทึกภาพ (และการบันทึกเสียงเฉพาะกรณี) ผ่านกล้องรักษาความปลอดภัย (CCTV) เมื่อท่านติดต่อกับศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทฯ หรือการติดต่อเพื่อรับบริการในรูปแบบ Video Call Service (มีการบันทึกภาพและเสียง) รวมไปถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น SMS Social Media แอปพลิเคชัน FAX Chat และ อีเมล เป็นต้น
• ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อท่านมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ หรือเพื่อให้บริษัทฯ ติดต่อท่านกลับไป
• ข้อมูลสำหรับการติดต่อและข้อมูลอื่นๆ เช่น ชื่อ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นๆ หมายเลขโทรศัพท์ รวมทั้งข้อมูลประชากร (Demographic Information) ที่เกี่ยวกับท่านที่ท่านได้แจ้งต่อ MTL เมื่อท่านตกลงเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขัน การจับสลากชิงโชค แคมเปญ หรือการสำรวจการวิจัย
• ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ของท่านเมื่อท่านใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Twitter และ LINE เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้าสู่บริการใด ๆ ของ MTL เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของท่าน ท่านสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน
• ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อสร้างบัญชีออนไลน์ หรือบัญชีของแอปพลิเคชัน โดยทั่วไปบริการเหล่านี้กำหนดไว้สำหรับเจ้าของที่ลงทะเบียนเท่านั้น หากท่านเลือกที่จะให้บุคคลอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือตัวแทนของท่านใช้บัญชีของท่าน ท่านควรให้บุคคลนั้น ๆ ศึกษานโยบายนี้อย่างละเอียด
• ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ตามที่กฎหมายระบุให้ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บข้อมูล หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น ประวัติสุขภาพซึ่งอาจรวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อการซื้อ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา กล่าวคือ ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อการพิจารณารับประกันภัย ตลอดจนการให้บริการและการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หากท่านไม่ยินยอมให้บริการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว บริษัทฯ จะไม่สามารถให้ผลิตภัณฑ์ และให้บริการใดๆ แก่ท่านได้
• บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือจากกระบวนการดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทฯ โดยตรง หรือให้ผ่านบริษัทฯ หรือมีอยู่กับบริษัทฯ ทั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ การบริการ การติดต่อ การเยี่ยมชม เข้าร่วมกิจกรรม ค้นหา ผ่านช่องทางให้บริการ และ / หรือ ช่องทางการติดต่อต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น
(1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเป็นผู้ส่งมอบให้บริษัทฯ เช่น ข้อมูลที่ท่านติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นหนังสือหรือวาจา ข้อมูลที่ท่านใช้ในการสมัครลงทะเบียนหรือสร้างโปรไฟล์กับเราเพื่อเข้าใช้บริการของเรา หรือข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ในใบคำขอเอาประกันชีวิต รวมถึงเอกสารประกอบคำขอเอาประกันชีวิต แบบฟอร์มขอใช้บริการ ขอข้อมูล หรือคำขออื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการจากบริษัทฯ แบบฟอร์มที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัทฯ ตลอดจนข้อมูลที่บริษัทฯ ได้จากท่านเมื่อมีการทำแบบสำรวจลูกค้าโดยความสมัครใจ หรือการให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็น (Feedback) ผ่านทางกระดาษ โทรศัพท์ ข้อความ กระดานข้อความ (Message Board) หรือทางอีเมล หรือข้อมูลที่ท่านเข้าใช้บริการ ณ ศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทฯ และ/หรือ
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติเมื่อท่านเข้าใช้บริการของบริษัทฯ ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่าคุกกี้ หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เช่น ข้อมูลกิจกรรมการใช้แอปพลิเคชันของบริษัทฯ บนมือถือท่าน (Mobile Application Activity) และบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Device Type) ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงบริการของบริษัทฯ กรุณาเยี่ยมชม www.aboutcookies.org เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี เหตุผลและวิธีการที่บริษัทฯ ใช้งานคุกกี้ และ/หรือ
(3) ข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบข้อความ รวมไปถึงภาพและเสียง เมื่อท่านติดต่อกับบุคลากร เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พนักงานขาย ตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต คนกลางประกันภัย ผู้รับจ้าง คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ (เรียกรวมกันว่า “บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทฯ”) ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ Video Call Service หรือโดยวิธีการอื่นใด
(4) เมื่อท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือการแข่งขันต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของเรา และ/ หรือบุคลากร คู่ค้า หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของเรา
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น
(1) เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกำกับดูแล ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่บริษัทฯ ได้รับจากบริษัทในเครือและ/หรือจากบุคคลที่สามที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ เช่น บริษัทประกันภัยอื่น บริษัทประกันภัยต่อ ตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการข้อมูล พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการเชื่อมต่อกับบริการของบริษัทฯ โรงพยาบาล พันธมิตรทางธุรกิจ สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น ราชกิจจานุเบกษา) ผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่บริษัทฯ มีนิติสัมพันธ์ด้วย ตลอดจนผู้ให้บริการอื่นๆ ที่บริษัทฯ เห็นว่าการให้บริการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อท่าน เป็นต้น
(3) เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับตัวท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่ข้อมูลสาธารณะ (Non-public Records)
• สำหรับบริการบางประเภท เช่น
o บริการ MTL Fit Application บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของท่านเพิ่มเติม เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การเผาผลาญพลังงาน ระยะทางการออกกำลังกาย การวิ่ง การปั่นจักรยาน ชั่วโมงการนอน น้ำหนัก ส่วนสูง เพื่อคำนวณเป็นดัชนีมวลกาย (BMI) จำนวนก้าวการเดินเพื่อคำนวณคะแนน และ/หรือ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอื่น เช่น การแลกคะแนน E-sticker เป็นคะแนนสะสม Smile Point รูปถ่ายสำหรับร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการบริการนั้นๆ โดยเฉพาะ
o บริการ MTL Click Application บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลที่ได้รับจากท่านเมื่อลงทะเบียนหรือกรอกข้อมูลในใบสมัครหรือแบบฟอร์มอื่นๆ เพื่อรับหรือขอใช้บริการ ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัย ข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงโดยท่าน เป็นต้น และ/หรือ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอื่น เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการบริการนั้นๆ โดยเฉพาะ
o บริการ Smile Service บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลที่ได้รับจากท่านเมื่อลงทะเบียนหรือกรอกข้อมูลในใบสมัครหรือแบบฟอร์มอื่น ๆ เพื่อรับหรือขอใช้บริการ ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัย ข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงโดยท่าน เป็นต้น และ/หรือ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอื่น เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการบริการนั้น ๆ โดยเฉพาะ
o บริการ Telemedicine, Health at home, MTL Global Doctors และ/หรือ บริการทางสุขภาพอื่น ๆ บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของท่านเพิ่มเติม เช่น ชื่อ-นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขหนังสือเดินทาง เพศ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล ข้อมูลสุขภาพเพื่อดำเนินการตามกระบวนการลงทะเบียนรับการบำบัดรักษาโดยแพทย์ทางโทรเวชกรรม (Telemedicine) และ/หรือ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอื่น เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการบริการนั้น ๆ โดยเฉพาะ
o บริการ LINE BCRM บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของท่านเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลกรมธรรม์ เบอร์โทรศัพท์มือถือ และ/หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ ของผู้ขอใช้บริการ ที่มีการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม LINE Application สำหรับใช้บัญชี LINE และ/หรือ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอื่น เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการบริการนั้น ๆ โดยเฉพาะ
ในกรณีดังกล่าว เงื่อนไขการให้บริการของบริษัทฯ จะระบุถึงกิจกรรมที่ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะสำหรับการรับบริการนั้นๆ ทั้งนี้ เมื่อท่านสมัครเข้าใช้บริการใดบริการหนึ่งของบริษัทฯ แล้ว ท่านจะมีโอกาสในการตรวจสอบเงื่อนไขของการให้บริการก่อน และบริษัทฯ จะถามความสมัครใจของท่านในการยินยอมตกลงเงื่อนไขดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ การเข้าเยี่ยมชมหรือใช้บริการของบริษัทฯ เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ท่านให้ข้อมูลและเพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีระหว่างบริษัทฯ และท่าน บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1. วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอม
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานความยินยอม สำหรับวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
1.1 การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่บริษัทฯ ไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น นอกเหนือจากการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งได้ ได้แก่
• ข้อมูลประวัติสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ประวัติอาชญากรรม พฤติกรรมทางเพศ ซึ่งบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา (เช่น สัญญาประกันภัย) กับบริษัทฯ และ/หรือ บริการบางประเภทของบริษัทฯ เท่านั้น และสำหรับประวัติอาชญากรรมเพื่อการตรวจสอบและ/หรือการดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง
• ข้อมูลชีวภาพ เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคล การให้บริการยืนยันตัวตนด้วยเสียง (voice biometric) ของบริษัทฯ
• ข้อมูลศาสนา และเชื้อชาติ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการเก็บสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทางของบางประเทศที่บริษัทฯ จำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลเท่านั้น
1.2 การวิเคราะห์ วิจัย และ/หรือ จัดทำข้อมูลทางสถิติ รวมถึง เพื่อการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ ของบริษัทฯ บริษัทอื่นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือนิติบุคคลอื่น ที่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย
1.3 การดำเนินการกิจกรรมทางการตลาด เพื่อการตลาดแบบตรง (direct marketing) การสื่อสารด้านการตลาด ข้อมูลข่าวสาร ข้อเสนอพิเศษ ข้อมูลส่งเสริมการขาย และสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งอาจเป็นผลิตภัณฑ์และบริการอื่นของบริษัทฯ บริษัทในเครือ หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีลักษณะที่เกินความคาดหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การส่งข้อความการสื่อสารด้านการตลาดให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทฯ มาก่อนและไม่อาจคาดหมายว่าจะได้รับข้อมูลข่าวสารการตลาดจากบริษัทฯ “การตลาดแบบตรง (direct marketing) ” หมายความว่า การติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าโดยวิธีการใดๆ เพื่อการโฆษณาหรือการทำการตลาด โดยส่งตรงถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจขอความยินยอมโดยตรงจากท่านหรือผ่านบริษัทอื่นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ นิติบุคคลอื่น เป็นคราวๆ ไป
2. วัตถุประสงค์ที่อาศัยฐานการประมวลผลตามกฎหมายอื่น นอกเหนือจากความยินยอม
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นๆ เท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เช่น เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือตามที่ท่านร้องขอ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และ/หรือ เพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ สำหรับวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
2.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ เช่น
• การให้คำปรึกษา คำแนะนำ และ/หรือข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ การวิเคราะห์และประเมินความต้องการของลูกค้า การวิเคราะห์ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง
• เพื่อพิจารณาการรับประกันตามคำขอเอาประกันชีวิตของท่าน เพื่อพิจารณาการรับประกันตามคำขอเอาประกันภัยกลุ่มของท่าน หรือเพื่อดำเนินการทำประกันภัยต่อสำหรับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ ให้แก่ท่าน
• เพื่อติดต่อกับท่าน นำส่งเอกสารเพื่อการดำเนินการของผลิตภัณฑ์และบริการ และ/หรือเพื่อจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับท่าน
• เพื่อการทำธุรกรรมของท่าน เช่น การชำระเบี้ยประกันภัย การให้บริการเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันชีวิต การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือการใช้สิทธิใดๆ ภายใต้กรมธรรม์ของท่าน ซึ่งรวมถึงสิทธิในการรับช่วงสิทธิ และสิทธิที่ได้รับช่วงมาด้วย หากมี
• เพื่อพิจารณาจ่ายเงินผลประโยชน์ตามสัญญาประกันชีวิต สัญญาเพิ่มเติม (ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันโรคร้ายแรง และอื่น ๆ เป็นต้น)
• เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านที่ส่งผ่านแบบฟอร์มของบริษัทฯ ผ่านทางตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต คนกลางประกันภัย ศูนย์บริการลูกค้า สำนักงานสาขา เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ เช่น การให้ใบเสนอราคาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
• เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ตรงตามความต้องการของท่าน
• การให้บริการด้านการแนะนำการลงทุน การให้สินเชื่อ การแต่งตั้งตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิต การจ้างงาน การจ้างทำของ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น
2.2 เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
• เพื่อดำเนินให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจประกันภัย หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น กฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการสังคม กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมาย FATCA/CRS กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายอื่นๆ ที่บริษัทฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งที่ใช้บังคับอยู่แล้วในขณะนี้ ที่จะแก้ไขเพิ่มเติม หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคต
• การปฏิบัติตามคำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลบริษัทฯ เจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย
2.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
• เพื่อการบริหารจัดการบริการของบริษัทฯ สำหรับงานการดำเนินงานภายใน รวมถึงการวินิจฉัยปัญหาและการแก้ไขปัญหา การตรวจสอบภายใน การตรวจสอบบัญชี การบริหารความเสี่ยง การป้องกันและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการให้บริการของบริษัทฯ การทำฐานข้อมูลด้านความเสี่ยงทางธุรกิจต่อบริษัทฯ
• การดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบสื่อสาร และการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและภัยคุกคามทางไซเบอร์
• เพื่อการติดต่อในกรณีที่ท่านยังสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการไม่สำเร็จ (drop - off) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในกรณีที่ท่านต้องการสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการประเภทเดียวกันกับบริษัทฯ อีกครั้ง หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการอื่นที่น่าจะอยู่ในความสนใจของท่าน
• เพื่อให้บริการ และปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัทฯ รวมไปถึงถึงการดูแล บำรุงรักษา การจัดการ และการดำเนินการของผลิตภัณฑ์และบริการดังกล่าว
• เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การออกแบบ/พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนบริการของบริษัทฯ การดูแนวโน้มการใช้งานด้านบริการของบริษัทฯ การดูประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริมการขายของบริษัทฯ การปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัทฯ การขยายธุรกิจและการทำธุรกรรมของบริษัทฯ
• เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับท่าน เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมของเมืองไทยสไมล์คลับ
• เพื่อตรวจสอบหรือยืนยันตัวตนของท่าน หรือเมื่อท่านเข้าสู่บัญชี MTL ออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน เพื่อให้มั่นใจว่าการสื่อสารทั้งหมดของบริษัทฯ กับท่านมีความปลอดภัยและเป็นความลับ
• บริษัทฯ อาจประมวลผลพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน และการทำความเข้าใจลักษณะการใช้งานที่ท่านชอบ เพื่อจัดทำให้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้นตอบสนองอย่างเหมาะสมกับท่านโดยเฉพาะ เพื่อการประเมิน หรือดำเนินการ และการปรับปรุงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้น หรือผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการของเรา การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ การแนะนำผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการที่เกี่ยวข้อง และการจัดโฆษณาบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และช่องทางอื่น ๆ ตามกลุ่มเป้าหมาย
• เพื่อการส่งข้อมูลทางด้านการบริหารธุรกิจให้กับท่าน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการ การเปลี่ยนแปลงของข้อกำหนด เงื่อนไขและนโยบายของบริษัทฯ
• เพื่อการทำวิจัยทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และการทำวิจัยเชิงสถิติหรือคณิตศาสตร์ประกันภัย การรายงานหรือการประเมินผลทางการเงินที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทฯ กลุ่มบริษัทฯ บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทฯ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
• การวิเคราะห์ วิจัย และ/หรือ จัดทำข้อมูลทางสถิติเพื่อใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการภายในบริษัทฯ เอง เช่น การวิเคราะห์ วิจัย วิจัยการตลาด จัดทำข้อมูลทางสถิติ การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ของท่าน และ/หรือ การจัดทำรายงานสำหรับการใช้ภายในบริษัทฯ
• เพื่อเชิญท่านเข้าร่วมการสำรวจของบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ ปรับปรุงและให้บริการแก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการจัดกิจกรรม และสัมมนากับท่าน
• การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด ดังต่อไปนี้ เช่น
o การพิจารณากลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ เพื่อการนำส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม หรือการส่งเสริมการขายตามความเหมาะสม
o การนำส่งข้อเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ สิทธิพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรม งานอีเว้นท์ หรือการประชุมที่บริษัทฯ จัดขึ้น รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น การลงทะเบียนเข้างาน
o การนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และ/หรือ สิทธิพิเศษที่ท่านร้องขอ หรือการแจ้งสิทธิประโยชน์ของท่าน
o การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการประเภทเดียวกัน/ใกล้เคียงกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทฯ หรือบริษัทอื่นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ
o การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การให้สิทธิประโยชน์และของรางวัล
o เพื่อปรับเปลี่ยนการให้บริการให้สอดคล้องกับโปรไฟล์ของท่าน
o เพื่อให้คำแนะนำและข้อเสนอแก่ท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือ บริการของบริษัทฯ ที่ท่านอาจสนใจ
o เพื่อการส่งข้อมูลทางการตลาด (Marketing Information) ให้กับท่านและการแจ้งให้ท่านทราบถึงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ หรือข้อเสนอเกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย (Promotional Offers) ตามที่กล่าวต่อไปในหัวข้อ “การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด”
• การรักษาประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น การติดตามทวงถามหนี้ การดำเนินคดีหรือกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
• การสำรวจและประเมินความพึงพอใจภายหลังใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ
• การตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับความเห็น และ/หรือเพื่อทำตามคำขอของท่าน
• การจัดการเรื่องร้องเรียน หรือการจัดการเหตุการณ์กระทำผิดต่อกฎหมาย หรือเหตุการณ์ต้องสงสัย เช่น การทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง การก่ออาชญากรรม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งรวมถึง การวางแผนการจัดการ การตรวจสอบ การเฝ้าระวัง การเก็บหลักฐาน การรายงาน และ/หรือ การดำเนินการตรวจจับ
• ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน และเพื่อติดต่อกับผู้สมัครงานกับบริษัทฯ
• การใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) การควบคุมการเข้า – ออกสถานที่ทำการของบริษัทฯ เพื่อรักษาความปลอดภัย
• เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการ จัดเก็บ บันทึก สำรอง การจัดทำฐานข้อมูลลูกค้า หรือ การเก็บบันทึกข้อมูลลงระบบหรือฐานข้อมูล หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
• การร่วมงาน การประสานงาน และ/หรือ การมอบหมายงานให้ผู้อื่นดำเนินการแทนหรือร่วมกับบริษัทฯ เช่น เพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ ออกแบบประสบการณ์การให้บริการลูกค้า ออกแบบกระบวนการ หรือการสนับสนุนการส่งมอบผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ
• เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทฯ ที่ยึดถือปฏิบัติ
• การดำเนินการใดๆ ที่บริษัทฯ เชื่อว่าจำเป็นหรือเหมาะสม: (ก) เพื่อตรวจสอบ ป้องกันและตรวจจับการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายหรือสงสัยว่าจะผิดกฎหมาย (ข) อยู่ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ (ค) เพื่อปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงการพิจารณาคดีความ (ง) เพื่อตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานรัฐบาล รัฐ รวมถึงหน่วยงานของรัฐและรัฐบาลต่างประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ (จ) เพื่อบังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการและประกาศเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ (ฉ) เพื่อปกป้องการดำเนินงานของบริษัทฯ (ช) เพื่อปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ท่าน หรือบุคคลอื่น และ (ซ) เพื่อให้บริษัทฯ สามารถหาวิธีการเยียวยา หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
2.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัทฯ
2.5 เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
2.6 การจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
2.7 เป็นการจำเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวข้างต้น จะถูกระบุไว้เป็นการเฉพาะเมื่อบริษัทฯ มีการขอข้อมูลของท่าน หรือเป็นการเก็บรวบรวมและใช้ตามข้อยกเว้นตามกฎหมาย
ท่านอาจเลือกที่จะไม่ให้บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลบางประการที่บริษัทฯ ร้องขอ อย่างไรก็ดีการที่ท่านเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลบางประการดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการทำธุรกรรม หรือต่อการให้บริการระหว่างบริษัทฯ กับท่าน หรือต่อการตอบสนองต่อข้อร้องขออื่นๆ ของท่านได้ เช่น บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาประกันภัยกับท่านได้ หรือบริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือ บริการของบริษัทฯ รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับสัญญาประกันภัย หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้แก่ท่านได้
เว้นแต่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น บริษัทฯ จะแจ้งและขอความยินยอมจากท่าน หากเราประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบริษัทฯ บริษัทฯ มีนโยบายและกระบวนการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลของท่านในการจัดหาผลิตภัณฑ์และเพื่อการให้บริการของบริษัทฯ เท่านั้น เช่น พนักงาน หรือตัวแทนของบริษัทฯ ซึ่งบุคคลที่บริษัทฯ อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น จะต้องยึดมั่นและทำการปกป้องข้อมูลตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัทฯ มีมาตรการการป้องกันทั้งทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในกรณีที่บริษัทฯ มีการเข้าทำสัญญากับบุคคลที่สาม บริษัทฯ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความปลอดภัยอย่างสูงที่สุด
เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยออนไลน์และเครือข่าย
บริษัทฯ นำมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในระบบของบริษัทฯ นั้น จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในระบบเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงได้เฉพาะพนักงานที่มีสิทธิเข้าถึงเท่านั้น ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่บริษัทนำมาใช้เป็นมาตรฐานเดียวกับธนาคารที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งเทคโนโลยีและกระบวนการป้องกันการการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งบริษัทยังมีกระบวนการทดสอบและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการดูแลและป้องกัน มาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงที่สุด
• บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลของท่านนานตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ จะต้องรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ
• บริษัทฯ จะยังเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบตามกฎหมาย หรือทำการเก็บในรูปแบบที่ทำให้ระบุตัวตนตัวบุคคลไม่ได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น เทคนิคการทำ “แอนโนนีมัส” (Anonymous)
• ในส่วนของสัญญาประกันภัย บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น โดยบริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 12 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือ การติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต
• เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาและอายุความตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้ว เช่น กรณีที่มีการส่งเงินครบกำหนดเข้ากองทุนประกันชีวิต หรือกรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น
• บริษัทฯ จะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น
บริษัทฯ จะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ แต่ทั้งนี้ ในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ หรือกรณีที่การเปิดเผยดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุข้างต้น บริษัทฯ อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลต่าง ๆ ดังกรณีต่อไปนี้
1. หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานอื่นตามภารกิจหรืออำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ การปฏิบัติตามคำร้องขอจากหน่วยงานรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย การตอบสนองต่อความปลอดภัยของบุคคลหรือสาธารณะ การพิจารณาคดี การดำเนินคดี การสืบสวน สอบสวน และเรื่องทางกฎหมายอื่นๆ ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง การตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย การบังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการของบริษัทฯ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต โดยท่านสามารถศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน คปภ. ได้ที่ https://www.oic.or.th สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน กลต.) กรมสรรพากร ศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น
2. สมาคม หน่วยงาน หรือบุคคลอื่นใดตามความจำเป็นในการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย หรือภาระหน้าที่ตามข้อบังคับ หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลภายนอก ซึ่งอาจรวมถึงการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมประกันชีวิตไทย
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างบริษัทในเครือ บริษัทหนึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับอีกบริษัทหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้บริการของท่านจะเป็นประโยชน์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในการให้บริการแก่ท่านและเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ได้อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทในเครือดังกล่าวจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเป็นอิสระ หรือในนามของบริษัทฯ ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างบริษัทฯ กับพันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลที่สาม ได้แก่
• บริษัทฯ อาจใช้บริการบริษัทอื่น คู่ค้า ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ หรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อดำเนินการแทนบริษัทฯ หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการส่งมอบผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการแก่ท่าน ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การให้บริการบัตรเครดิต การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล/SMS การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ การสำรวจความพึงพอใจ และการทำวิจัย และการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือบุคคลที่สามเพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถช่วยบริษัทฯ ให้บริการ/ส่งมอบการบริการของบริษัทฯ ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในส่วน "วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล" ข้างต้น เช่น ผู้ให้บริการยืนยันตัวตนบนโลกดิจิทัล (National Digital ID) ผู้ให้บริการ Cloud Computing ผู้ให้บริการประเมินราคาทรัพย์สิน ผู้ให้บริการเพื่อการทำการตลาด ผู้ให้บริการคลังเก็บเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการทำลายเอกสาร ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการช่องทางการรับชำระเงิน โรงพิมพ์หรือผู้ให้บริการสิ่งพิมพ์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสารหรือพัสดุ ผู้ให้บริการสำหรับการให้บริการอำนวยความสะดวก (Concierge Services) ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์และบริการนำส่งข้อความ (SMS) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยี
• บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น ผู้ถือกรมธรรม์ ในกรณีของผลิตภัณฑ์ประกันแบบกลุ่ม บริษัทประกันภัยต่อ บริษัทนายหน้าประกันภัยต่อ บริษัทประกันภัยอื่น คนกลางประกันภัย ตัวแทนประกันภัย นายหน้าประกันภัย สถาบันการเงิน ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้วางแผนการลงทุน และ/หรือผู้แนะนำการลงทุน (ซึ่งหมายความรวมถึงบุคคลที่ได้รับการว่าจ้าง หรือ เข้าทำสัญญาเพื่อปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทฯ ดังกล่าว) บริษัทจัดการการลงทุน เพื่อทำการเชิญชวน ชักชวน ชี้ช่อง จัดการให้ทำ เสนอขาย ขาย จัดจำหน่าย การพิจารณารับประกัน การจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ การจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการที่เสนอโดยบริษัทฯ หรือบริษัทในเครือ ให้แก่ท่าน รวมถึง ส่งมอบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของเรา ที่มีการเสนอ/ขายให้แก่ท่าน
• ผู้เชี่ยวชาญ/ที่ปรึกษา เช่น ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านภาษี บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ตามแต่กรณี เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นต้น
• บุคคลที่สามอื่นใด บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สามอื่นใด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ เช่น บุคคลที่ท่านมีสัญญาหรือความสัมพันธ์ทางธุรกรรมร่วม (เช่น บุคคลอ้างอิง ผู้ค้ำประกัน ผู้จำนอง ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ หรือสถานทูตเพื่อการรับรองเอกสาร) ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ท่านมีธุรกรรมร่วม ผู้ออกหลักทรัพย์ นายทะเบียนหลักทรัพย์ ผู้จัดการกองทุน ผู้รับฝากหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมของท่าน สมาชิกของผู้ให้บริการยืนยันตัวตนบนโลกดิจิทัล (National Digital ID) ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตร (เช่น VISA, Mastercard, JCB, UPI) มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษา ผู้ใช้บริการ e - KYC ของบริษัทฯ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ สาธารณะหรือบุคคลทั่วไป
ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและพันธมิตรทางธุรกิจหรือบุคคลที่สามที่บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลจะดำเนินการตามที่บริษัทฯ กำหนด และจะไม่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์หรือผลประโยชน์ของบุคคลที่สามนั้นเอง มาตรการดังกล่าวอาจรวมถึงการทำสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจและบุคคลที่สามตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร
ในกรณีที่ท่านให้ความยินยอม บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลของท่านกับบริษัทที่เป็นพันธมิตร (Partners) หรือบุคคลอื่น เพื่อที่บริษัทฯ จะได้เสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการไปยังท่าน บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลของท่านไปยังบริษัทที่เป็นพันธมิตรของบริษัทฯ หรือบุคคลอื่น ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อได้จาก www.muangthai.co.th ทั้งนี้ บุคคลอื่น หรือบริษัทฯ ที่เป็นพันธมิตรของบริษัทฯ นั้น อาจมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ซึ่งบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอน ถ่าย ถูกจัดเก็บไว้ หรือถูกประมวลผลโดยบริษัทฯ หรืออาจถูกส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ตามรายละเอียดข้างต้น ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรืออาจให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทฯ จะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ในมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย
กรณีที่บริษัทฯจะโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ เช่น
• การทำประกันภัยต่อ/รับประกันภัยต่อกับบริษัทรับประกันภัยต่อ/บริษัทนายหน้าประกันภัยต่อ/บริษัทประกันภัยอื่นในต่างประเทศ
• กรณีที่บริษัทฯ มีจัดเก็บ และ/หรือ โอน ถ่าย ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการจัดเก็บในต่างประเทศ
• การให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกรมธรรม์ประกันภัย เช่น บริการ MTL Global Connect เป็นต้น บริษัทฯ จะโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศต่อเมื่อปรากฏว่าผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ เช่น
• การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) โดยองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคง
• จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ และรูปแบบนั้นมีความปลอดภัยระดับสากล
ในบางกรณี การเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ตลอดจนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งในกรณีเช่นว่าบริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหวนั้น บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบโดยชัดแจ้งเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการนั้นต่อไป เว้นแต่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมตามกฎหมาย
นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นและภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทฯ อาจจะใช้ชื่อ-นามสกุล และข้อมูลการติดต่อของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การส่งเนื้อหา (ทางไปรษณีย์ อีเมล โทรศัพท์ และ/หรือด้วยวิธีการอื่น ๆ) เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ผ่านการแนะนำของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขายและการสื่อสารการตลาดทางตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของเรา ข้อมูลทางการตลาด คำแนะนำและข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการประกันภัย และ เงินบำนาญ ตลอดจนการบริหารความมั่งคั่ง การลงทุน การธนาคาร บริการทางการเงิน การรักษาทางการแพทย์/การรักษาเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การจ้างงาน การฝึกอบรม โปรแกรมให้รางวัล/ให้ผลประโยชน์สำหรับการเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์/ให้สิทธิพิเศษ กิจกรรมการกุศล การจัดกิจกรรมทางการตลาด การประกวด จับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์และการแข่งขันต่าง ๆ ซึ่งท่านเลือกที่จะเข้าร่วม โดยในการดำเนินการดังกล่าวนี้ บริษัทฯ อาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคลากรและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้บริษัทฯ บรรลุวัตถุประสงค์นี้ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้
ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารการตลาดจากบริษัทฯ ได้ อนึ่ง การได้รับการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเกี่ยวกับกรมธรรม์ ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการเสริมที่บริษัทฯ มีให้แก่ท่าน เช่น การนำส่งกรมธรรม์ การแจ้งเตือนการชำระเบี้ยประกันภัย การนำส่งใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันภัย ไม่ใช่การสื่อสารการตลาด
หากท่านประสงค์ที่จะไม่รับการสื่อสารการตลาดจากบริษัทฯ
• ท่านสามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ โทร. 1766 ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ E-mail: [email protected]; หรือ
• หากท่านไม่ต้องการรับ “เฉพาะการสื่อสารอีเมลที่เกี่ยวข้องกับการตลาด” จากบริษัทฯ อีก ท่านสามารถเลือกการเลิกรับอีเมลที่เกี่ยวกับการตลาดเหล่านี้ได้โดยคลิกที่ลิงก์ยกเลิกการรับข้อมูล (Unsubscribe) ที่ด้านล่างของอีเมลแต่ละฉบับ
บริษัทฯ จะดำเนินการตามคำขอของท่านโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนด และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและ/หรือมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์
1. สิทธิขอถอนความยินยอม
หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการขอรับบริการ อาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือให้บริการแก่ท่านได้ หรืออาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว เช่น อาจมีผลกระทบต่อการพิจารณารับประกันภัย รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับกรมธรรม์ หรือการจ่ายเงินผลประโยชน์ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หรือการให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย อันจะส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยได้ ซึ่งจะมีผลให้ท่านไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรืออาจส่งผลกระทบต่อท่านในการรับทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับข้อเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ สิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ถูกใจมากยิ่งขึ้นและสอดคล้องหรือตรงตามความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม
2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัทฯ ได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัทฯ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัทฯ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
4. สิทธิขอคัดค้าน
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง (direct marketing) หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอใช้สิทธิคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
8. สิทธิร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
บริษัทฯ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 (สามสิบ) วัน หลังจากที่ท่านมีคำขอดังกล่าวมาถึงบริษัทฯ หากท่านต้องการที่จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น กรุณาติดต่อมายังบริษัทฯ ที่
• E-mail: [email protected]
• เบอร์โทรศัพท์: ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ โทร. 1766 หรือ
• ส่งจดหมายติดต่อมายัง: บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 250 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ประเทศไทย 10310 ระบุผู้รับเป็น “สำนักคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
เท่าที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอนุญาต บริษัทฯ อาจมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำขอใช้สิทธิข้างต้น
คุกกี้ (Cookies) คือ ข้อมูล Text Files บนคอมพิวเตอร์ที่เก็บรวบรวม Standard Internet Log Information และข้อมูลพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน
คุกกี้ (Cookies) เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่เว็บไซต์หรือผู้ให้บริการมีการส่งไปจัดเก็บในคอมพิวเตอร์ของท่านผ่านทางเว็บบราวเซอร์ (ถ้าท่านอนุญาต) ซึ่งช่วยให้ระบบของเว็บไซต์หรือผู้ให้บริการรู้จักบราวเซอร์ของท่าน และสามารถจับและจดจำข้อมูลบางอย่าง รวมถึงข้อมูลพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน อย่างไรก็ตามรหัสในไฟล์คุกกี้จะทำให้เว็บไซต์รู้เพียงว่าว่าท่านเป็นผู้ใช้โดยเฉพาะ แต่จะไม่สามารถระบุชื่อหรือที่อยู่หรือข้อมูลอื่นของท่านได้ เว้นแต่ท่านจะได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแก่เว็บไซต์หรือตั้งค่ากำหนดในบราวเซอร์โดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลของท่านผ่านทางคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกันโดยอัตโนมัติ
ท่านสามารถเลือกที่จะไม่ยอมรับคุกกี้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบราวเซอร์ของท่าน ท่านสามารถเลือกให้คอมพิวเตอร์แจ้งเตือนท่านในแต่ละครั้งที่มีการส่งคุกกี้หรือท่านสามารถเลือกตั้งค่าที่จะปิดคุกกี้ทั้งหมดได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูใน www.aboutcookies.org
บริษัทฯ ใช้คุกกี้อย่างไร
บริษัทฯ ใช้คุกกี้ในหลากหลายแง่เพื่อใช้พัฒนาการให้บริการบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ รวมทั้งทำความเข้าใจว่าท่านใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯ อย่างไร
บริษัทฯ ใช้คุกกี้เพื่ออะไรบ้าง
มีคุกกี้อยู่หลายประเภท อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของบริษัทฯ ใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
• ตามวัตถุประสงค์ – บริษัทฯ ใช้คุกกี้เพื่อจะได้จดจำท่านบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ และจดจำสิ่งที่ท่านตั้งค่าไว้ก่อนหน้า รวมถึงภาษาที่ท่านใช้และพื้นที่ที่ท่านอยู่ และมีการใช้คุกกี้ของบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สามร่วมกัน
• เพื่อการโฆษณา – บริษัทฯ ใช้คุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บไซต์ของเราที่ท่านเยี่ยมชม เนื้อหาที่ท่านดู ลิงก์ที่กด และข้อมูลบราวเซอร์ อุปกรณ์ และ IP (Internet Protocol) Address ของท่าน บางครั้งบริษัทฯ ก็แบ่งปันข้อมูลแก่บุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ทางการโฆษณา บริษัทฯ อาจจะแบ่งปันข้อมูลออนไลน์ที่รวบรวมผ่านคุกกี้กับพันธมิตรด้านการโฆษณาของบริษัทฯ ซึ่งหมายความว่าเมื่อท่านเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์อื่น ท่านอาจเห็นโฆษณาตามรูปแบบการเรียกดูของท่านบนหน้าเว็บไซด์ของบริษัทฯ ทั้งนี้บริษัทฯ จะเปิดเผยตามสิทธิในสัญญาหรือตามกฎหมายเท่านั้น
• ช่วยให้บริษัทฯ จดจำความต้องการของท่านตามกิจกรรมในเว็บไซต์ก่อนหน้าหรือปัจจุบันซึ่งช่วยให้บริษัทฯ สามารถจัดหาบริการที่ดีขึ้นและเหมาะสำหรับการเข้าชมของท่านในอนาคต
• ช่วยให้บริษัทฯ สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณา และวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ได้
• รวบรวมข้อมูลโดยรวมเกี่ยวกับการเข้าชมเว็บไซต์และการโต้ตอบในเว็บไซต์เพื่อมอบประสบการณ์และเครื่องมือในเว็บไซต์ที่ดีขึ้นในอนาคต
• เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเข้าใช้บัญชีของท่านจากผู้ไม่ได้รับอนุญาต
การตั้งค่าคุกกี้
ท่านสามารถตั้งค่าบราวเซอร์ของท่านไม่ให้ยอมรับการใช้คุกกี้ได้ นอกจากนั้นเว็บไซต์ที่ระบุไปในข้างต้นยังบอกถึงวิธีนำคุกกี้ออกจากบราวเซอร์ของท่าน อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การตั้งค่าดังกล่าวอาจทำให้ไม่สามารถใช้บางฟีเจอร์บนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้
หากท่านเลือกปฏิเสธที่จะใช้คุกกี้ที่บริษัทฯ ใช้สำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการโฆษณา บริษัทฯ จะหยุดการใช้คุกกี้นั้น แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่เห็นโฆษณาเมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ แต่หมายความเพียงว่าโฆษณาที่ท่านเห็นอาจจะไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
เว็บบีคอน (Web Beacons) หรือรู้จักในชื่อ Pixel Tags หรือ Clear Gif หรือ Transparent Gif เป็นกราฟิกขนาด 1x1 พิกเซลที่มองไม่เห็นซึ่งอาจถูกวางอยู่บนหน้าเว็บไซต์สักหน้าของ MTL เว็บบีคอนมีการใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ แต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อการนับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อติดตามรูปแบบการเข้าชมของผู้เข้าชมขณะที่พวกเขาสำรวจเว็บไซต์ และเพื่อติดตามว่ามีการเปิดอีเมลที่ส่งหรือดูเนื้อหาหรือไม่ โดยทั่วไปเว็บบีคอนจะถูกใช้งานร่วมกับคุกกี้เพื่อติดตามกิจกรรมการเข้าเยี่ยมชมในหน้าของอุปกรณ์นั้น ๆ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ เว็บบีคอนจะยังคงตรวจจับการเข้าถึงเว็บไซต์แบบไม่ระบุตัวตนได้
บริษัทฯ อาจใช้บริการวิเคราะห์ข้อมูลของบุคคลที่สาม ได้แก่
• Google Analytics บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะเพียงเว็บไซต์บริษัทฯ และหน้า Facebook ของบริษัทฯ Google Analytics ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คุกกี้เพื่อช่วยวิเคราะห์และพัฒนาประสบการณ์การเยี่ยมชมเว็บไซต์ ข้อมูลที่สร้างโดยคุกกี้เกี่ยวกับการใช้งานบนเว็บไซต์ MTL ของท่าน (เช่นที่อยู่ IP, URL ที่เข้าชม, วันที่และเวลาที่มีการดูเพจ) จะถูกส่งและจัดเก็บโดย Google บนเซิร์ฟเวอร์ของทาง Google ซึ่ง Google จะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการติดตามและจัดทำรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมของเว็บไซต์และให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเว็บไซต์และการใช้อินเทอร์เน็ต Google สามารถถ่ายโอนข้อมูลนี้ไปยังบุคคลที่สามตามที่กฎหมายกำหนดหรือเมื่อบุคคลที่สามดังกล่าวประมวลผลข้อมูลในนามของ Google สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายส่วนบุคคลของ Google เกี่ยวกับ Google Analytics โปรดดูที่ http://www.google.com/analytics/learn/privacy.html ท่านสามารถเลือกไม่ใช้ Google Analytics ได้โดยใช้โปรแกรมเสริมของทาง Google ที่ https://tools.google.com/dlpage/gaoptout?hl+en=GB
• SDK บริษัทฯ มีการติดตั้งอุปกรณ์พัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) บนแอปพลิเคชัน MTL Fit ซึ่งใช้เพื่อเชื่อมต่อ MTL Fit กับ Facebook ในการทำงานร่วมกัน โดย SDK สามารถระบุผู้ใช้งาน MTL Fit ในการประชาสัมพันธ์สื่อโฆษณาผ่าน Facebook Ads ได้จากพฤติกรรมการใช้งานผ่าน MTL Fit บริษัทฯ ใช้ SDK เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์สถานะการใช้บริการและประเมินประสิทธิภาพการประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook Ads สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายส่วนบุคคลของ Facebook โปรดดูที่ https://www.facebook.com/policy.php
นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ ใช้แค่กับเว็บไซต์ของบริษัทฯ เท่านั้น บางส่วนของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯ อาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม เช่น เครือข่ายสังคม ซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจไม่ได้ดำเนินการตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทฯ ไม่มีความรับผิดชอบต่อเว็บไซต์และบริการของบุคคลที่สาม หรือแนวทางปฏิบัติด้านข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม ท่านควรตรวจสอบประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์หรือบริการเหล่านั้นเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายในการรวบรวม การใช้ การโอนย้าย และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างละเอียด
บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้ตลอดเวลา หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ เท่าที่กฎหมายอนุญาต และท่านสามารถดูแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ที่ www.muangthai.co.th/th/privacy-policy หากมีการเปลี่ยนแปลงในนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ บริษัทฯ จะประกาศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมลที่ระบุไว้ในบัญชีของท่าน เพื่อให้ท่านรับรู้ถึงข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และภายใต้สถานการณ์ใดที่บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ท่านสามารถตรวจสอบเวลาที่บริษัทฯ แก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้โดยการอ้างจากวันที่แก้ไขล่าสุดซึ่งได้ระบุที่ด้านล่างของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ การเปลี่ยนแปลงในประกาศเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีผลผูกพันกับท่านเมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือบริการของบริษัทฯ หลังจากที่มีการประกาศเรื่องการเปลี่ยนแปลงแล้ว บริษัทฯ ขอให้ท่านตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ เป็นระยะ ๆ เพื่อทราบถึงกับหลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ
บริษัทฯ มีการทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวอยู่ประจำและจะนำข้อมูลใหม่มาปรับปรุงบนหน้าเว็บไซต์ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
บริษัทฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อตรวจสอบการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และนโยบาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของบริษัทฯ รวมทั้งประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามข้อมูลการติดต่อด้านล่างนี้
ที่อยู่สำนักงาน: บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 250 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ประเทศไทย 10310 ระบุผู้รับเป็น “สำนักคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
E-mail: [email protected]
โทร. 02-275-4385 ต่อ 5376
ช่องทางติดต่อบริษัทฯ
หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัย เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือการจัดการดูแลข้อมูลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายัง
• ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ โทร. 1766
• ทางไปรษณีย์ที่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 250 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ประเทศไทย 10310 ระบุผู้รับเป็น “สำนักคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
• เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล E-mail: [email protected] หรือ โทร. 02-275-4385 ต่อ 5376
ช่องทางติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ
หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัทฯ ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านมีสิทธิที่จะเสนอข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562