Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

ขาดส่งประกันกี่เดือนถึงขาด? รู้ไว้ก่อนเสียสิทธิ์ความคุ้มครอง

ขาดส่งประกันกี่เดือนถึงขาด? รู้ไว้ก่อนเสียสิทธิ์ความคุ้มครอง

การจ่ายเบี้ยประกันตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นเงื่อนไขหลักที่ทำให้กรมธรรม์ของคุณยังคงมีผลบังคับใช้ แต่หากวันหนึ่งคุณลืม หรือขาดส่งเบี้ยประกัน จะเกิดอะไรขึ้น? หลายคนสงสัยว่าขาดส่งระยะเวลาเท่าไรถึงจะหมดความคุ้มครอง และจะมีผลกระทบต่อสิทธิ์การเคลมประกัน หรือไม่ บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับระยะเวลาผ่อนผันของประกันแต่ละประเภท รวมถึงแนวทางแก้ไขหากไม่มีเงินจ่ายเบี้ยประกัน ทำยังไงดี เพื่อให้คุณสามารถรักษาสิทธิ์ความคุ้มครองของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ




การขาดส่งเบี้ยประกัน คืออะไร?



การขาดส่งเบี้ยประกัน คืออะไร?


การขาดส่งเบี้ยประกัน คือ การที่ผู้เอาประกันไม่สามารถชำระเบี้ยตามกำหนดเวลา ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ลืมชำระหรือขาดสภาพคล่องทางการเงิน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ บางครั้งกรมธรรม์ยังคงได้รับความคุ้มครองชั่วคราวในระหว่าง ระยะเวลาผ่อนผัน (Grace Period) ที่จะมีระยะเวลาต่างกันตามประเภทของประกัน หากพ้นระยะเวลาผ่อนผันไปแล้วและยังไม่ชำระเบี้ย อาจส่งผลให้กรมธรรม์ หมดอายุ หรือ สิ้นสุดความคุ้มครอง หรือในบางกรณีอาจถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองลดลง ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่ถือครอง



ขาดต่อประกันแบบไหน ถึงไม่ได้รับความคุ้มครอง?



ขาดต่อประกันแบบไหน ถึงไม่ได้รับความคุ้มครอง?


ระยะเวลาผ่อนผันสำหรับการขาดส่งเบี้ยประกันนั้นแตกต่างกันตามประเภทของประกัน ดังนี้:


  • ประกันชีวิต โดยปกติจะมีระยะเวลาผ่อนผันอยู่ที่ 31 วัน หากพ้นช่วงนี้ กรมธรรม์อาจขาดอายุ และสิ้นสุดความคุ้มครอง หรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์แบบที่ใช้ เงินสำรองจ่ายเบี้ย (Non-Forfeiture Option) เช่น แบบที่ลดความคุ้มครอง หรือแบบที่ขยายระยะเวลาความคุ้มครองด้วยการใช้เงินสำรอง
  • ประกันสุขภาพ มักมีระยะเวลาผ่อนผันประมาณ 31 วัน หากเลยระยะเวลานี้ไป ความคุ้มครองจะ สิ้นสุด และหากต้องการกลับมาใช้ประกันใหม่อาจต้องผ่านการ ตรวจสุขภาพ อีกครั้ง
  • ประกันรถยนต์ ไม่มีระยะเวลาผ่อนผัน หากไม่ต่อเบี้ยประกันภายในระยะเวลาที่กำหนด กรมธรรม์จะหมดอายุทันที และหากขับรถโดยไม่มีประกันอาจมีความเสี่ยงตามกฎหมาย
  • ประกันอื่น ๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุหรือประกันการเดินทางจะ หมดอายุทันที หากไม่ได้ชำระเบี้ยตามกำหนด


หากคุณขาดส่งเบี้ยไปนานและกรมธรรม์หมดความคุ้มครอง อาจจำเป็นต้องทำ Reinstatement (การขอกลับคืนสถานะกรมธรรม์) ซึ่งอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น การตรวจสุขภาพใหม่ หรือการจ่ายเบี้ยค้างพร้อมดอกเบี้ย เพื่อให้คุณยังคงได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ของคุณเพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ์ความคุ้มครองที่สำคัญ



หากขาดส่งเบี้ยประกัน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?



หากขาดส่งเบี้ยประกัน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?


การขาดส่งเบี้ยประกันอาจส่งผลกระทบต่อความคุ้มครอง และสถานะของกรมธรรม์ โดยแต่ละประเภทของประกันจะมีผลที่แตกต่างกัน ดังนี้


1. ประกันชีวิต

  • ภายในระยะเวลาผ่อนผัน (31 วัน) กรมธรรม์ยังคงคุ้มครองตามปกติ หากชำระเบี้ยได้ทันเวลา
  • เกินระยะเวลาผ่อนผัน
    • กรมธรรม์อาจถูก ยกเลิก หรือ ลดทุนประกัน
    • หากต้องการกลับมาใช้กรมธรรม์ ต้องทำ Reinstatement (การขอกลับคืนสถานะกรมธรรม์) ซึ่งอาจต้องตรวจสุขภาพใหม่ และชำระเบี้ยค้างพร้อมดอกเบี้ย
    • หรือ เปลี่ยนเป็นกรมธรรม์แบบลดความคุ้มครอง โดยใช้มูลค่ากรมธรรม์สำรองจ่ายเบี้ย


2. ประกันสุขภาพ

  • ภายในระยะเวลาผ่อนผัน (โดยทั่วไป 31 วัน) ความคุ้มครองยังคงมีผล
  • เกินระยะเวลาผ่อนผัน
    • ความคุ้มครองจะสิ้นสุด และหากต้องการกลับมาใช้ใหม่ อาจต้องตรวจสุขภาพใหม่
    • อาจมีค่าใช้จ่ายในการกลับมาดำเนินการต่อหรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการคุ้มครอง


3. ประกันรถยนต์

  • ไม่มีระยะเวลาผ่อนผัน: หากไม่ต่อเบี้ยประกันภายในระยะเวลาที่กำหนด จะหมดอายุทันที
  • ผลกระทบ
    • ไม่มีความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย
    • อาจถูกปรับตามกฎหมายหากขับรถโดยไม่มีประกันภาคบังคับ


4. ประกันอุบัติเหตุ ประกันเดินทาง

  • หมดอายุทันที หากไม่ได้ชำระเบี้ยภายในกำหนด
  • ผลกระทบ
    • ไม่มีความคุ้มครอง และต้องเริ่มต้นใหม่หากต้องการประกันใหม่


การขาดส่งเบี้ยอาจทำให้ความคุ้มครองของคุณสิ้นสุดลง หรือถูกลดทอน ซึ่งจะมีผลกระทบในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ต้องการเคลมประกัน หากรู้ตัวว่าไม่ได้ชำระเบี้ย ควรรีบดำเนินการชำระเบี้ยให้ทันหรือขอปรับปรุงสถานะกรมธรรม์ เพื่อรักษาความคุ้มครองให้คงอยู่



จ่ายเบี้ยประกันไม่ไหวทำยังไงได้บ้าง


จ่ายเบี้ยประกันไม่ไหวทำยังไงได้บ้าง


หากคุณ จ่ายเบี้ยประกันไม่ไหว ยังมีวิธีที่สามารถช่วยได้ดังนี้:

1. ใช้ระยะเวลาผ่อนผัน ในกรณีที่ไม่สามารถชำระเบี้ยได้ทันเวลา คุณสามารถใช้ระยะเวลาผ่อนผัน (กรณีประกันชีวิต 31 วัน) เพื่อชำระภายในช่วงนี้โดยที่กรมธรรม์ยังคงคุ้มครองอยู่ หากพ้นระยะเวลานี้และกรมธรรม์มีมูลค่าเวนคืน ก็สามารถนำมาชำระเบี้ยได้ หรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จ

2. เปลี่ยนงวดการชำระ หากไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันแบบรายปีได้ คุณสามารถเปลี่ยนเป็นการชำระแบบรายเดือนหรือรายไตรมาส แต่จะทำให้ค่าเบี้ยสูงขึ้น


3. ลดจำนวนเงินเอาประกัน หากไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันในปัจจุบันได้ การลดจำนวนเงินเอาประกันลงจะช่วยลดค่าเบี้ยที่ต้องจ่าย โดยไม่ให้ต่ำกว่าขั้นต่ำที่กำหนด


4. เปลี่ยนแบบกรมธรรม์ คุณสามารถขอเปลี่ยนแบบกรมธรรม์ให้เหมาะสมกับความต้องการ และหากมีส่วนต่างเบี้ยประกัน หรือเงินค่าเวนคืนบริษัทจะคืนให้

5. เปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จหรือขยายเวลา หากไม่สามารถจ่ายเบี้ยได้อีก สามารถใช้มูลค่าเวนคืนกรมธรรม์เพื่อเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ที่ไม่ต้องจ่ายเบี้ย แต่ความคุ้มครองอาจลดลง

6. นำมูลค่าเวนคืนมาชำระเบี้ยอัตโนมัติ หากไม่ชำระเบี้ยในระยะเวลาผ่อนผัน มูลค่าเวนคืนสามารถใช้ในการชำระเบี้ยได้โดยอัตโนมัติ แต่จะมีการคิดดอกเบี้ยจนกว่ามูลค่าจะหมด

การวางแผนการชำระเบี้ยประกันในช่วงที่มีปัญหาทางการเงินสามารถช่วยให้คุณรักษาความคุ้มครองได้ในระยะยาวค่ะ


  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย


ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 10/04/68

🔖ธนาคารแห่งประเทศไทย

🔖คปภ

🔖matichon

🔖reviewprakan

สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

บทความน่าสนใจ