บอกลาไข้หนาวสั่น ด้วยวิธีรักษาเหล่านี้! พร้อมวิธีดูแลตัวเอง
เคยเป็นไหม เวลาป่วยเป็นไข้แล้วมีอาการหนาวสั่น ซึ่งเป็นอาการที่หลายคนเคยพบเจอ โดยมักจะมาพร้อมกับไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว และอาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย บางคนมีอาการไข้หนาวสั่นตอนกลางคืน ซึ่งอาการหนาวสั่น เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายของเรากำลังมีปัญหา การดูแลตัวเองเบื้องต้นและการไปพบแพทย์เมื่ออาการไม่ดีขึ้น จะช่วยให้หายจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น ที่สำคัญ การที่เรารู้จักสาเหตุ และลักษณะของอาการหนาวสั่นแต่ละประเภท จะช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นมาดูกันว่า เมื่อมีอาการไข้หนาวสั่น มีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้อาการดีขึ้นเร็วที่สุด มาดูกันเลย
3. อาการไข้หนาวสั่นที่ต้องระวัง
4. วิธีลดไข้หนาวสั่น เร็วที่สุด
1. อาการไข้หนาวสั่น คืออะไร
เมื่อเราเป็นไข้ จนมีอาการหนาวสั่น หรือที่คนเรียกกันว่า "ไข้หนาวสั่น" นั้น หากใครที่มีอาการนี้ แสดงว่า ร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อหรือภาวะผิดปกติบางอย่าง โดยอาการนี้เกิดจากการที่ร่างกาย พยายามเพิ่มอุณหภูมิเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ทำให้เกิดอาการหนาวสั่นสลับกับร้อน และมักมีไข้สูงร่วมด้วย ซึ่งการมีไข้สูงและหนาวสั่นร่วมกัน อาจบ่งบอกถึงภาวะที่รุนแรงได้ เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะช็อกได้ ถึงแม้ว่าอาการไข้หนาวสั่นจะเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ แต่ก็ไม่สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคได้โดยตรง
2. สาเหตุของอาการไข้หนาวสั่น
อาการไข้หนาวสั่น และเมื่อยตามตัว เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อหรือภาวะผิดปกติบางอย่าง ซึ่งอาจพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ สาเหตุของอาการเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ ดังนี้
อาการไข้หนาวสั่นในเด็ก
- การติดเชื้อไวรัส เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก เช่น ไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีใส ไข้เลือดออก
- การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ
- การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะในเด็กหญิง
- โรคทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสียรุนแรง
- การแพ้ยา อาจเกิดอาการไข้และหนาวสั่นได้
อาการไข้หนาวสั่นในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
- การติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา ปอดบวม
- การอักเสบ โรคข้ออักเสบ โรคลูปัส
- มะเร็ง บางชนิดของมะเร็งอาจทำให้เกิดอาการไข้หนาวสั่น
- ผลข้างเคียงของยา ยาบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดอาการไข้หนาวสั่นได้
- ภาวะอื่น ๆ เช่น การแพ้รุนแรง ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หรือโรคทางระบบประสาทบางชนิด
- ในผู้สูงอายุ อาจมีปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดอาการไข้หนาวสั่นได้บ่อยขึ้น เช่น ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง โรคประจำตัวเรื้อรัง หรือการใช้ยาหลายชนิด
3. อาการไข้หนาวสั่นที่ต้องระวัง สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
อาการไข้ หนาวสั่น และเมื่อยตามตัว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อหรือภาวะผิดปกติบางอย่าง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคที่ร้ายแรงได้ หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ไข้สูงเกิน 39.4 องศาเซลเซียส ไข้สูงติดต่อกันนาน อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อรุนแรง
- ปวดศีรษะรุนแรง โดยเฉพาะถ้ามีอาการคอแข็งร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- หายใจลำบาก หายใจเร็ว หายใจไม่ทั่วท้อง หรือมีเสียงหวีด อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ปอด
- คอแข็ง ไม่สามารถก้มคางชิดอกได้ อาจเป็นสัญญาณของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- ผื่นขึ้น ผื่นที่เกิดขึ้นพร้อมกับไข้ อาจเป็นสัญญาณของโรคติดเชื้อบางชนิด
- ปวดท้องรุนแรง โดยเฉพาะถ้ามีอาการท้องเสีย อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
- สับสนงงงวย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในกระแสเลือด หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
- ปัสสาวะสีเข้ม หรือปัสสาวะน้อย: อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ไต
- อาเจียนรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด หรืออาเจียนไม่หยุด
อาการไข้หนาวสั่นแบบไหน ควรไปพบแพทย์ด่วนที่สุด
- มีไข้สูงและไม่ตอบสนองต่อยาลดไข้
- มีอาการปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง
- หายใจลำบาก หายใจเร็ว
- มีผื่นขึ้นทั่วตัว
- ปวดท้องรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด
- สับสนงงงวย
- ปัสสาวะสีเข้ม หรือปัสสาวะน้อย
- อาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง
- การไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ จะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
4. วิธีลดไข้หนาวสั่น เร็วที่สุด
หลังจากมีอาการไข้หนาวสั่น การดูแลตัวเองเบื้องต้น ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์
วิธีลดไข้หนาวสั่นที่สามารถทำได้เอง
- พักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายต้องการพักผ่อนเพื่อฟื้นตัว
- ดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยลดไข้และป้องกันการขาดน้ำ
- กินอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ซุป
- เช็ดตัวลดไข้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด เช็ดตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ
- กินยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล (ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนกิน)
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อน
วิธีเช็ดตัวลดไข้หนาวสั่น
สิ่งสำคัญที่หลายคนหรือแทบทุกคนทำเมื่อมีอาการไข้ หนาวสั่น คือการเช็ดตัวเพื่อลดไข้ ซึ่งการเช็ดตัวไม่ใช่แค่ใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดตามตัวแค่นั้น เพราะยังมีทริคในการเช็ดตัวเพื่อลดไข้หนาวสั่นอีกด้วย มาดูวิธีการเช็ดตัวที่ถูกต้องกันเลย
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- น้ำอุ่น ใส่มากพอสำหรับชุบผ้า
- ผ้าเช็ดตัว 2-3 ผืน สำหรับเช็ดตัว
- ผ้าเช็ดตัว 1 ผืน สำหรับซับตัวให้แห้ง
- ที่พักผ้า อาจเป็นอ่างเล็ก ๆ หรือภาชนะอื่น ๆ
ขั้นตอนการเช็ดตัว
- เตรียมตัว ปิดแอร์ ถอดเสื้อผ้าผู้ป่วย
- เริ่มเช็ดตัวจากใบหน้า เช็ดเบา ๆ บริเวณหน้าผาก คอ หลังหู
- ลำตัวเช็ดหน้าอก ท้อง และหลัง
- แขน เช็ดจากปลายมือเข้าหาหัวใจ พักผ้าที่ข้อพับและรักแร้
- ขา เช็ดจากปลายเท้าเข้าหาหัวใจ พักผ้าที่ข้อพับและขาหนีบ
- ซับตัว ใช้ผ้าขนหนูซับตัวให้แห้ง สวมเสื้อผ้าที่สบาย
- วัดอุณหภูมิ วัดอุณหภูมิซ้ำหลังเช็ดตัวประมาณ 30 นาที
เคล็ดลับในการเช็ดตัว
- เปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำให้อุ่นเสมอ
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยลดไข้และป้องกันการขาดน้ำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
- สังเกตอาการ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแปลกๆ ควรปรึกษาแพทย์
ข้อควรระวังในการเช็ดตัวลดไข้
- อย่าใช้ผ้าชุบน้ำเย็นจัด อาจทำให้ร่างกายหนาวสั่นมากขึ้น
- หยุดเช็ดตัวหากมีอาการหนาวสั่น ควรให้ความอบอุ่นก่อนแล้วค่อยเช็ดตัวใหม่
- เปลี่ยนผ้าบ่อย ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำให้คงที่
การเช็ดตัวเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการลดไข้ หากทำถูกวิธี จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้นและหายป่วยเร็วขึ้น แต่หากคุณกังวลเกี่ยวกับอาการไข้และหนาวสั่น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง พร้อมเพิ่มความอุ่นใจ เจ็บป่วยตอนไหนมีตัวช่วยเรื่องค่ารักษา ก็สามารถวางแผนเสริมความมั่นใจด้วย ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล
ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท
✅ Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)
✅ D Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)
✅ เหมาจ่าย Extra แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต
(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง
(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง (แผน Top Up ความคุ้มครอง) และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(5) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(6) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 07/11/67
🔖 POPAD
🔖 HDmall