รู้จักนิ่วในถุงน้ำดี เป็นแล้วมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร!
"ปวดท้องจี๊ด ๆ จนแทบทรุด" นี่คืออาการที่คนเป็น นิ่วในถุงน้ำดี ภาวะนี้เกิดจากการตกผลึกของสารต่าง ๆ ในน้ำดี จนกลายเป็นก้อนนิ่ว ซึ่งอาจมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทราย ไปจนถึงขนาดใหญ่เท่าลูกกอล์ฟเลยทีเดียว แม้ว่านิ่วในถุงน้ำดีอาจสร้างความเจ็บปวด และความไม่สบายตัว แต่เราก็สามารถดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ วันนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึง "วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี" แบบง่าย ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงเรื่องอาหารการกิน หรือวิธีบรรเทาอาการปวดเบื้องต้น ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันเลย!
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
2. วิธีบรรเทาอาการปวดท้องนิ่วในถุงน้ำดี
3. วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
4. เมนูอาหาร สำหรับคนเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
1. อาการนิ่วในถุงน้ำดี
อาการของนิ่วในถุงน้ำดีนั้นมีความหลากหลาย และในบางครั้งผู้ที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีก็อาจไม่มีอาการใด ๆ เลยก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนิ่วมีขนาดเล็กและไม่ไปอุดตันทางเดินน้ำดี แต่หากนิ่วเริ่มเคลื่อนตัวหรืออุดตัน จะทำให้เกิดอาการที่สังเกตได้ ดังนี้
อาการนิ่วในถุงน้ำดีที่พบบ่อย
- ปวดท้องอย่างรุนแรง มักปวดบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือบริเวณลิ้นปี่ (ท้องส่วนบน) ลักษณะการปวดอาจเป็นแบบจุกเสียด บีบ หรือแน่นท้อง บางครั้งอาจปวดร้าวไปยังหลัง ช่วงไหล่ขวา หรือบริเวณสะบักขวาได้ อาการปวดมักเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารมื้อหนัก หรืออาหารที่มีไขมันสูง และอาจเป็นอยู่ประมาณ 30 นาทีถึงหลายชั่วโมง
- คลื่นไส้และอาเจียน มักเกิดร่วมกับอาการปวดท้อง โดยเฉพาะหลังทานอาหารมัน ๆ
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ รู้สึกไม่สบายท้อง แน่นท้อง มีลมในกระเพาะอาหาร
อาการนิ่วในถุงน้ำดีอื่น ๆ ที่อาจพบได้
- อาหารไม่ย่อย รู้สึกอึดอัดหลังรับประทานอาหาร
- แสบร้อนบริเวณอก คล้ายอาการของกรดไหลย้อน
- มีไข้ หนาวสั่น หากมีการอักเสบของถุงน้ำดี
- ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน) หากนิ่วไปอุดตันท่อน้ำดี ทำให้น้ำดีไม่สามารถระบายได้ตามปกติ
- ปัสสาวะสีเข้ม ร่วมกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
- อุจจาระสีซีด ร่วมกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
2. วิธีบรรเทาอาการปวดท้องนิ่วในถุงน้ำดี
เมื่อเกิดอาการปวดท้องจากนิ่วในถุงน้ำดี สิ่งสำคัญคือการบรรเทาอาการเบื้องต้นเพื่อช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้นระหว่างรอพบแพทย์ หรือในกรณีที่อาการไม่รุนแรงมากนัก มาดู วิธีบรรเทาอาการปวดท้องนิ่วในถุงน้ำดี ที่เราสามารถลองทำเองได้
1. ประคบร้อน ใช้กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าชุบน้ำอุ่น หรือแผ่นประคบร้อน วางบริเวณท้องด้านขวาบน หรือบริเวณที่ปวด ความร้อนจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัวและลดอาการปวดได้
2. พักผ่อน หยุดกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวมาก และหาท่าที่รู้สึกสบายที่สุด เช่น นอนตะแคงขวา หรือนอนหงายชันเข่าขึ้น การพักผ่อนจะช่วยลดการทำงานของถุงน้ำดี
3. ดื่มน้ำ จิบน้ำเปล่าบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และอาจช่วยให้การไหลเวียนของน้ำดีดีขึ้น
4. หลีกเลี่ยงอาหาร /งดอาหารบางประเภท โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะกระตุ้นให้ถุงน้ำดีบีบตัวมากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงขึ้น การงดอาหารประเภทนี้ จะช่วยลดภาระการทำงานของถุงน้ำดี
5. รับประทานยาแก้ปวด (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์) ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน อาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา และใช้ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
6. หลีกเลี่ยงการนวดคลึงบริเวณที่ปวด การนวดคลึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอาการปวดมากขึ้นได้
ลองเปลี่ยนท่าทาง บางครั้งการเปลี่ยนท่าทางเล็กน้อยอาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้บ้าง เช่น การงอตัวเล็กน้อย
7. ลองเปลี่ยนท่าทาง บางครั้งการเปลี่ยนท่าทางเล็กน้อยอาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้บ้าง เช่น การงอตัวเล็กน้อย
8. หายใจลึก ๆ การฝึกหายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ อาจช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความตึงเครียด ซึ่งอาจช่วยลดความรู้สึกปวดได้
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด เราควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากอาการปวดไม่ดีขึ้น รุนแรงขึ้น มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งการบรรเทาอาการปวดด้วยตัวเองเป็นเพียงการช่วยเหลือเบื้องต้น ไม่สามารถทดแทนการรักษาทางการแพทย์ได้ หากสงสัยว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
3. วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
เมื่อทราบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยบรรเทาอาการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ค่ะ นี่คือ วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ที่คุณสามารถนำไปปฏิบัติได้
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เป็นหัวใจสำคัญของการดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
- ลดอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัด ที่มีน้ำมันเยอะ เนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ เครื่องในสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันสูง เช่น เนย ชีส ครีม
- เพิ่มใยอาหาร เน้นการรับประทานผัก ผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เพราะใยอาหารช่วยในการขับถ่ายและลดการดูดซึมไขมัน
- รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยขึ้น การรับประทานอาหารปริมาณน้อย ๆ หลายมื้อ จะช่วยลดภาระการทำงานของถุงน้ำดีในการผลิตน้ำดีเพื่อย่อยอาหาร
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารเหล่านี้มักมีไขมันแฝงและโซเดียมสูง
- จำกัดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด
- สังเกตอาหารที่กระตุ้นอาการ บางคนอาจมีอาการปวดท้องหลังรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารรสจัด หรืออาหารที่ทำให้เกิดแก๊สมาก ควรสังเกตและหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี และช่วยในการขับถ่าย
2. ควบคุมน้ำหนัก หากมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายเบา ๆ ถึงปานกลางอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ควบคุมน้ำหนัก และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้
4. หลีกเลี่ยงการอดอาหารมื้อนาน ๆ การอดอาหารจะทำให้ถุงน้ำดีกักเก็บน้ำดีไว้นานขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วได้
5. สังเกตอาการตนเอง หมั่นสังเกตอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ หากมีอาการรุนแรงขึ้น หรือมีอาการใหม่ ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์
6. ปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำ การไปพบแพทย์ตามนัดหมาย และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญ แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยยา การสลายนิ่ว หรือการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับขนาด จำนวน และอาการของนิ่ว
7. บรรเทาอาการปวดเบื้องต้น (เมื่อมีอาการ) ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว เช่น การประคบร้อน การพักผ่อน และการใช้ยาแก้ปวดภายใต้คำแนะนำของแพทย์
8. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับนิ่วในถุงน้ำดี การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะนี้ จะช่วยให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องและลดความกังวล
4. เมนูอาหาร สำหรับคนเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
สำหรับผู้ที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดี อาจสงสัยว่า กินอะไร ละลายนิ่วในถุงน้ำดี ได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือยืนยันว่าอาหารชนิดใดสามารถละลายนิ่วในถุงน้ำดีได้โดยตรง ซึ่งนิ่วในถุงน้ำดีส่วนใหญ่เกิดจากการตกผลึกของคอเลสเตอรอลหรือบิลิรูบิน ซึ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นภายในถุงน้ำดี และอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้นไม่ได้มีกลไกที่จะไปสลายผลึกเหล่านี้ได้ และแม้ว่าจะไม่มีอาหารที่สามารถละลายนิ่วได้ แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี โดยเน้นไปที่การป้องกันการเกิดนิ่วใหม่ ลดความเสี่ยงของอาการปวด และช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น
อาหารที่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดี
- อาหารที่มีไขมันต่ำ ช่วยลดภาระการทำงานของถุงน้ำดีในการผลิตน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน ซึ่งอาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดได้
- อาหารที่มีใยอาหารสูง ผัก ผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยในการขับถ่ายและอาจช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล
- น้ำ ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีและป้องกันภาวะขาดน้ำ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด
- อาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน เนื้อติดมัน หนังสัตว์ เครื่องในสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันสูง
- อาหารแปรรูป มักมีไขมันแฝงและโซเดียมสูง
- ขนมหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด
เมนูอาหาร สำหรับคนเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
สำหรับผู้ที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดี การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบรรเทาอาการ ป้องกันการกำเริบ และลดภาระการทำงานของถุงน้ำดี โดยเน้นอาหารที่มีไขมันต่ำ ย่อยง่าย และมีใยอาหารสูงค่ะ นี่คือตัวอย่าง เมนูอาหาร สำหรับคนเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้
เน้นโปรตีนไม่ติดมัน
- ปลา ปลานึ่ง, ปลาต้ม, ปลาย่าง เช่น ปลาเนื้อขาว (ปลาช่อน, ปลากะพง, ปลานิล)
- ไก่ เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ต้ม, ตุ๋น, อบ
- เต้าหู้ เต้าหู้นึ่ง, เต้าหู้ขาวผัดผัก (ใช้น้ำมันน้อย)
- ไข่ขาว ไข่ต้ม, ไข่ตุ๋น (จำกัดปริมาณไข่แดง)
เน้นผักและผลไม้
- ผักใบเขียว คะน้า, ผักบุ้ง, ตำลึง, ผักกาดขาว นำมาต้ม, ลวก, ผัดน้ำมันน้อย
- ผักสีต่าง ๆ แครอท, บรอกโคลี, ฟักทอง (ต้ม, นึ่ง, ผัดน้ำมันน้อย)
- ผลไม้สด กล้วย, มะละกอ, แอปเปิล, ส้ม, แตงโม (หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีไขมันสูง เช่น อะโวคาโด ในปริมาณมาก)
เน้นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
- ข้าวกล้อง ให้ใยอาหารสูง
- ขนมปังโฮลวีท เลือกชนิดที่ไม่เติมน้ำตาลและไขมันสูง
- ข้าวโอ๊ต เป็นแหล่งใยอาหารที่ดี
- มันเทศ, มันแกว ต้ม, นึ่ง
ตัวอย่างเมนูอาหารตลอดวัน
- เช้า โจ๊กข้าวกล้องใส่เนื้อปลาและผัก, ไข่ขาวต้ม 2 ฟอง กับขนมปังโฮลวีท 1 แผ่น, กล้วยน้ำว้า 1 ลูก
- กลางวัน ข้าวกล้องราดแกงจืดเต้าหู้หมูสับและผัก, ปลานึ่งมะนาวกับผักลวก, สลัดผักรวมกับน้ำสลัดไขมันต่ำ (ทำเอง)
- เย็น ข้าวสวย (ปริมาณน้อย) กับไก่ต้มฟัก, ผัดผักรวมมิตรน้ำมันหอยน้อย, แกงเลียงผักรวม
- ของว่าง ผลไม้สด เช่น แอปเปิล, ส้ม, มะละกอ, โยเกิร์ตไขมันต่ำ, ถั่วอบ (ไม่ใส่เกลือและน้ำมัน) ในปริมาณน้อย
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดีนั้น เน้นไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง และเน้นอาหารที่มีใยอาหารสูง การสังเกตอาการตัวเอง และปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าอาหารบางชนิดอาจช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ไม่มีอาหารใดที่สามารถละลายนิ่วได้โดยตรง หากมีอาการปวดรุนแรง หรือมีภาวะแทรกซ้อน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
และ เรื่องสำคัญที่ไม่ควรลืม คือการเริ่มเตรียมความพร้อมเรื่องสุขภาพ และค่ารักษาไว้ล่วงหน้า เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตโรคร้ายจะมาเยือนตอนไหน สามารถเตรียมความพร้อมเรื่องค่ารักษายามเจ็บป่วย ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต ไว้ช่วยดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต/ ช่องทางที่ดูแลท่าน
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 6/05/68