ประกันชีวิตแบบไหนดี 2567 เลือกแบบไหนตอบโจทย์และคุ้มสุด

อยากมีประกันชีวิตสักฉบับปี 2567 นี้ ต้องเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ถึงจะตอบโจทย์ และตรงกับไลฟ์สไตล์ที่สุด? นี่อาจเป็นสิ่งที่หลายคนคิดหนัก เวลาอยากทำประกันชีวิต เช่น อยากซื้อให้ตัวเอง ให้ลูก สามี หรืออยากทําประกันชีวิตให้พ่อแม่ ควรเลือกแบบไหนดี หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แตกต่างกันยังไง ซึ่งการจะซื้อประกันชีวิตให้ตรงกับความต้องการตัวเองมากที่สุด ต้องดูหลาย ๆ ด้าน เพราะประกันชีวิต เป็นตัวช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงในอนาคตได้อย่างดี วันนี้แอดมีเทคนิคดี ๆ ในการเลือกซื้อประกันชีวิตที่ตรงกับความต้องการของทุกคนมาแนะนำ มาดูพร้อมกันเลย

1. เลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี ให้ตอบโจทย์ 

2. ทำไมต้องมีแผนประกันชีวิต?

3. ประกันชีวิตมีแบบไหนบ้าง

1. เลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี ให้ตอบโจทย์

การจะเลือกซื้อประกันชีวิตสักฉบับให้คุ้มค่าและตอบโจทย์ที่สุด เราต้องดูหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเรื่องวงเงินความคุ้มครอง ค่าเบี้ยที่ต้องจ่าย รวมถึงความคุ้มครองว่าครอบคลุมอย่างที่เราต้องการหรือไม่ ดังนั้นมาดูกันว่าการเลือกทำประกันชีวิตเราต้องดูอะไรบ้าง 

1. ช่วงอายุที่จะซื้อ

อันดับแรกในการเลือกซื้อประกันชีวิต สิ่งที่เราต้องคำนึงถึง คือช่วงอายุที่จะซื้อ ทั้งซื้อให้ตัวเอง ให้ครอบครัว หรือซื้อให้พ่อแม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเงื่อนไขเป็นอย่างไร ได้วางแผนค่าเบี้ยในช่วงอายุที่ซื้อ เพื่อที่จะได้ทำประกันชีวิตให้คุ้มค่า และได้ผลประโยชน์ได้ตรงตามความต้องการ เช่น วัยเริ่มทำงาน หรือ first jobber เป็นวัยที่เพิ่งได้สวัสดิการ เช่น ประกันกลุ่มของบริษัท ประกันสังคม ฯลฯ ช่วงวัยนี้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องการสะสมทรัพย์ และการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก ต่อมาคือ วัยสร้างครอบครัว ในวัยนี้เป็นวัยที่ต้องวางแผนอนาคตเมื่อมีครอบครัว ต้องการให้คนข้างหลังอยู่สบายในวันที่ตัวเองไม่อยู่ จึงต้องการประกันที่เน้นความคุ้มครองตลอดชีวิต อีกวัยคือ วัยเกษียณ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่วางแผนส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน ส่วนมากจึงสนใจทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ที่จะมอบผลประโยชน์การคุ้มครองตัวคุณให้กับลูกหลานต่อไป

2. ค่าเบี้ยประกัน

ลำดับถัดมาที่ต้องพิจารณา เพื่อเลือกซื้อประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ที่สุด คือเบี้ยประกันชีวิตซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าถ้าต้องจ่ายเบี้ยไปในระยะยาว เราจะจ่ายไหวหรือไม่ ซึ่งเบี้ยประกันต้องคำนึงถึงอายุและเพศเป็นสิ่งสำคัญ เพราะยิ่งอายุมากขึ้น เบี้ยประกันชีวิตก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การซื้อประกันชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะเป็นตัวช่วยในการจ่ายค่าเบี้ยที่ถูกกว่า ที่สำคัญควรเลือกซื้อประกันชีวิตหรือกรมธรรม์ ที่เราสามารถส่งจ่ายค่าเบี้ยไปได้ตลอดอายุสัญญา เพื่อผลตอบแทนที่ความคุ้มค่าจนถึงวัยเกษียณ

2. ทำไมต้องมีแผนประกันชีวิต

การมีประกันชีวิต นอกจากจะช่วยคุ้มครองชีวิตเราแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งแอดเชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้เหมือนแอดในตอนแรก ๆ ว่าจะซื้อประกันชีวิตแบบไหนดี ดังนั้น มาดูกันดีกว่าว่าทำไมเราต้องมีแผนประกันชีวิต

ส่งต่อให้คนข้างหลังในวันที่เราไม่อยู่

ในวันที่เราไม่อยู่ คนข้างหลังก็ไม่ลำบาก เพราะการทำประกันชีวิต จะช่วยสร้างหลักประกันเงินก้อนให้คนข้างหลังได้ไปต่อ เช่น ให้คู่ชีวิต ให้ลูก ให้พ่อ แม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการวางแผนอนาคตให้คนข้างหลังไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้เราหมดห่วงในวันที่ไม่มีเราแล้ว

ตัวช่วยออมเงิน

ประกันชีวิตแบบไหนดี ที่จะเป็นตัวช่วยในการออมเงิน เพราะหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า การทำประกันชีวิตก็เปรียบเสมือนกับการลงทุน สามารถเป็นตัวช่วยในการออมเงินได้ในอนาคต ด้วยการจ่ายเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งประกันชีวิตแต่ละรูปแบบ ก็จะให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันไป ซึ่งเงินออมก้อนนี้สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต

ลดหย่อนภาษี

การทำประกันชีวิต จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วย เพราะตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร เบี้ยประกันชีวิตสำหรับประกันแบบทั่วไปสามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้สุงสูดถึง 100,000 บาท และประกันแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000บาท/ปี

3. ประกันชีวิตมีแบบไหนบ้าง แต่ละแบบเหมาะกับใคร

ประกันชีวิตมีหลากหลายรูปแบบ และแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งหากจะเลือกซื้อประกันชีวิตสักฉบับ ก็ต้องเลือกตามความต้องการของตัวเองให้ตอบโจทย์ที่สุด ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองจากการเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว  โดยบริษัทจะจ่ายให้กับผู้รับผลประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น 1 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี แต่เมื่อครบสัญญาผู้ทำประกันยังไม่เสียชีวิต ก็จะไม่ได้เงินคืนเหมือนกับแบบประกันอื่น เพราะถือว่าครบเวลาตามกรมธรรม์แล้ว แต่ข้อดีของประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา คือ เบี้ยประกันภัยจะต่ำกว่าแบบอื่น ๆ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเน้นสร้างความคุ้มครองชีวิตชั่วระยะเวลาใด เวลาหนึ่ง งบไม่มาก เพราะจ่ายเบี้ยไม่แพง

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นแบบประกันที่หลายคนอาจรู้จักกันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนผสมของการคุ้มครองชีวิตและการออมทรัพย์ และยังให้ผลตอบแทนคุ้มค่า โดยในส่วนของการออมทรัพย์ คือส่วนที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินคืนเมื่อสัญญาครบกำหนด และส่วนของความคุ้มครองชีวิตนั้น จะมีระยะเวลาความคุ้มครอง 5 ปี 10 ปี 20 ปี หรืออาจถึงอายุ 60 ปีก็มี โดยผลตอบแทนที่จ่ายคืนผู้เอาประกันภัยในกรณีมีชีวิตอยู่ ก็จะมีกำหนดช่วงเวลาไว้ชัดเจนตอนเราซื้อกรมธรรม์ 

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเก็บเงิน ควบคู่กับการมีความคุ้มครอง และต้องการได้รับผลตอบแทน ที่สามารถนำไปใช้ได้ในอนาคต หรือเป็นเงินเกษียณอายุได้ 

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เป็นประกันที่คุ้มครองชีวิต หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน คนที่อยู่ข้างหลังจะได้เงินก้อนไว้ใช้  และเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตระยะยาว ซึ่งจะมีการจ่ายเบี้ยเป็นช่วงระยะเวลา เช่น 5, 10, 15 หรือ 20 ปี แต่ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 90 - 99 ปี (แล้วแต่แบบประกัน) จะได้รับผลประโยชน์ เมื่อเสียชีวิตระหว่างสัญญา หรือมีชีวิตอยู่ครบสัญญา ผู้รับผลประโยชน์จะได้เงินทุนประกันแทน เช่น บุตร คู่สมรส หรือบิดามารดา เป็นต้น
 
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ จึงเหมาะสำหรับหัวหน้าครอบครัว ที่อยากทำประกันไว้ เพื่อให้คนข้างหลังได้ไปต่อในวันที่ตัวเองจากไป ที่ต้องการความคุ้มครองระยะยาว และเพราะความคุ้มครองระยะยาวของประกันชีวิตแบบตลอดชีพ จึงยังเหมาะสำหรับการซื้อสัญญาเพิ่มเติมแนบไว้ เช่น คุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง อุบัติเหตุ เป็นต้น

ประกันชีวิตแบบบำนาญ

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มตั้งเป้าเกษียณกันเร็วขึ้น การวางแผนชีวิตหลังเกษียณจึงเป็นเรื่องสำคัญ ประกันชีวิตแบบบำนาญจึงตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เพราะเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองรายได้หลังเกษียณเป็นหลัก การันตีว่าเรามีเงินใช้แน่นอน โดยประกันชีวิตแบบบำนาญจะเป็นการออมเงินระยะยาวพร้อมความคุ้มครองชีวิต โดยจะเริ่มจ่ายเงินคืนนับตั้งแต่เราเกษียณอายุ และจะมีการจ่ายต่อเนื่องเป็นรายงวดเท่า ๆ กัน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่กำหนดไว้) จนกว่าจะครบกำหนด

ประกันชีวิตแบบบำนาญ จึงเป็นประกันที่เหมาะสำหรับคนวางแผนการเงินหลังเกษียณ ที่อยากได้รายได้สม่ำเสมอ

ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked Insurance)

ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน หรือที่ชอบเรียกสั้น ๆ ว่า Unit Linked เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน โดยการนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปลงทุนในกองทุนรวมที่บริหารโดยมืออาชีพ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยเบี้ยประกันที่จ่ายไปจะถูกแบ่งเป็น ส่วนของการคุ้มครองชีวิตหรือทุพพลภาพ ตามความคุ้มครองที่ระบุในกรมธรรม์ และส่วนของการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนที่เลือกลงทุน 

ที่สำคัญ Unit Linked เป็นแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถกำหนดระยะเวลาชำระเบี้ย ระยะเวลาความคุ้มครอง และปรับเพิ่มหรือลดทุนประกันชีวิตได้ตามความจำเป็น และความเหมาะสมในแต่ละช่วงชีวิต และสามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ 

ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน Unit Linked จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นทั้งในเรื่องทุนประกันชีวิตและเบี้ยประกัน และรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ และมีความเข้าใจในการลงทุนในกองทุนรวมพอสมควร

ประกันชีวิตมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก แล้วแต่ว่าแบบไหนจะสามารถตอบโจทย์เราได้ ซึ่งการวางแผนอนาคตด้วยประกันชีวิตจะช่วยให้เราเบาใจได้มากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือใครยังไม่รู้ว่าจะซื้อประกันชีวิตแบบไหนดี เมืองไทยประกันชีวิตก็มี ShieldLife ตัวช่วยให้คุณเบาใจ ในวันที่คุณจากไป จากเมืองไทยประกันชีวิต

- วงเงินความคุ้มครองที่เลือกได้ตามความต้องการ

- เลือกจ่ายเบี้ยแบบชิล ๆ จะแบบสั้นหรือแบบยาว ๆ

- ซื้อได้สูงสุดถึงอายุ 90 ปี

รายละเอียดเพิ่มเติม  

☑️ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ สนใจติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา

• กรณีที่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ไว้ในกรมธรรม์ หรือระบุไว้แต่ผู้รับประโยชน์เสียชีวิตก่อน หรือเสียชีวิตพร้อมกับผู้เอาประกันภัย ผลประโยชน์ตามกรมธรรม์จะตกแก่กองมรดกของผู้เอาประกันภัย
• ShieldLife เป็นชื่อทางการตลาดของประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบภายในระยะเวลาและประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์
• เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
• เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
• โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 17/04/67

🔖SET