- สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง ดี แคร์ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่เท่านั้น
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
Q : จุดเด่นของ D care ดีอย่างไร ทำไมต้องซื้อ?
A : เพราะ D care มีจุดเด่นตรงที่สามารถเลือกความคุ้มครองเองได้ ตั้งแต่กลุ่มโรคร้ายแรงที่กังวล ระยะความรุนแรงของโรคร้ายแรง และเงินเอาประกันภัย โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ผู้ขอเอาประกันภัย สามารถซื้อ D Care ได้มากกว่า 1 สัญญา โดย 1 สัญญา สามารถเลือกความคุ้มครองกลุ่มโรคร้ายแรงได้ 1 กลุ่ม และ 1 ระยะ ภายใต้เงื่อนไขห้ามเลือกกลุ่มโรคร้ายแรงร่วมกับกลุ่มโรคยอดฮิต
- สามารถเลือกระยะความรุนแรงของโรคร้ายแรงว่าจะคุ้มครองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นไปจนถึงระยะรุนแรง หรือ คุ้มครองแค่ระยะรุนแรง
- โดยระยะความรุนแรงของโรคร้ายแรงจะให้ความคุ้มครองที่ต่างกัน
คุ้มครองระยะเริ่มต้นและระยะรุนแรง ได้รับความคุ้มครองสูงสุด 200% โดยให้ความคุ้มครอง 2 ระยะ หากตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้นรับความคุ้มครอง 100% และระยะรุนแรงอีก 100% แต่ถ้าหากตรวจพบโรคนั้นๆ ในระยะรุนแรง รับความคุ้มครองทีเดียว 200% โดยจะต้องไม่ได้เรียกร้องผลประโยชน์ระยะเริ่มต้นมาก่อน
คุ้มครองระยะรุนแรงเพียงอย่างเดียว ให้ความคุ้มครองถึง 100%
Q: สนใจ D care อยากรู้ว่าคุ้มครองกลุ่มโรคร้ายแรงอะไรบ้าง?
A: D care แบ่งกลุ่มโรคร้ายแรง ดังนี้
- กลุ่มโรคมะเร็ง
- กลุ่มโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ
- กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอวัยวะสำคัญ
- กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และกล้ามเนื้อ
- กลุ่มโรคอื่นๆ
- กลุ่มโรคยอดฮิต
โดยไม่สามารถซื้อกลุ่มโรคยอดฮิตร่วมกับโรคร้ายแรงอื่นได้
Q: เมื่อซื้อ D care แล้วจะได้รับความคุ้มครองเลยหรือไม่?
A: โดยปกติประกันโรคร้ายแรง จะมีระยะเวลาที่ยังไม่เริ่มคุ้มครอง เพื่อป้องกันผู้ทำประกันที่รู้ว่าตัวเองป่วยหนัก ดังนั้นจึงมีเงื่อนไขที่ประกันจะเริ่มคุ้มครองภายหลังจากวันทำสัญญานับไปอีก 90 วัน
Q: สนใจซื้อ D care อยากรู้ว่าคุ้มครองยาวแค่ไหน?
A: หากคุณกำลังมองหาความคุ้มครองสุขภาพให้ตัวเองหรือคนที่คุณรัก แต่มีความกังวลเรื่องระยะเวลาคุ้มครอง คลายกังวลได้เลย เพราะ D care สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน – 70 ปี (ต่ออายุได้ถึง 80 ปี) และคุ้มครองนานจนถึงอายุ 81 ปี
Q: มีโอกาสที่ค่าเบี้ย D care จะปรับขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นหรือไม่?
A: เบี้ยประกัน D Care จะปรับตามช่วงอายุของผู้เอาประกันภัย
Q: เบี้ย D care สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ ?
A: เบื้ยประกันนี้สามารถใช้ยื่นลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 383
Q: D care จำเป็นต้องซื้อพร้อมประกันชีวิตที่เป็นสัญญาหลักหรือไม่?
A: D care เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องซื้อพร้อมประกันชีวิตที่เป็นสัญญาหลัก
Q: D care สามารถซื้อแนบกรมธรรม์เดิมที่มีผลบังคับได้หรือไม่ หรือต้องซื้อแนบกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่เท่านั้น?
A: สามารถซื้อได้โดยแนบกับกรมธรรมม์เดิม หรือจะเลือกแนบกับกรมธรรม์ใหม่ก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข คือ แบบประกันภัยหลักจะต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำของแต่ละแบบประกันภัย และ ระยะเวลาเอาประกันภัยนับแต่วันที่ขอเอาประกันต้องมากกว่า 1 ปี ขึ้นไป
Q: ผู้เอาประกันภัยสามารถขอยกเลิกความคุ้มครอง D Care เฉพาะบางกลุ่มโรคร้ายแรง ภายใต้กรมธรรม์เดียวกันได้หรือไม่
A: การยกเลิกความคุ้มครอง D Care สามารถยกเลิกเฉพาะบางกลุ่มได้ เนื่องจากสัญญาเพิ่มเติม D Care เป็นแบบ 1 กลุ่มโรคร้ายแรงต่อ 1 สัญญาเพิ่มเติม ไม่มีผลกระทบกับสัญญากลุ่มโรคร้ายแรงอื่นๆ ภายใต้กรมธรรม์เดียวกัน
คุ้มครอง 5 กลุ่มโรคร้ายแรง และ กลุ่มโรคยอดฮิต
กลุ่มที่ 1 กลุ่มโรคมะเร็ง
กลุ่มโรคมะเร็งระยะเริ่มต้น
- โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม
กลุ่มโรคมะเร็งระยะรุนแรง
- โรคมะเร็งระยะลุกลาม
กลุ่มที่ 2 กลุ่มโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง
กลุ่มโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ ระยะเริ่มต้น
- การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
- การตัดเยื่อหุ้มหัวใจ
- การใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติระยะเริ่มต้น
- การซ่อมแซมตกแต่งหรือผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยผ่าตัดผ่านทางเส้นเลือด
- การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจหรือซ่อมแซมเครื่องมือโดยผ่าตัดผ่านทางเส้นเลือด
- โรคหลอดเลือดแดงหัวใจ ที่รักษาโดยการใช้ยา
- โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองแบบไม่แสดงอาการ
- การผ่าตัดหลอดเลือดแดงใหญ่แบบส่องกล้อง
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
กลุ่มโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ ระยะรุนแรง
- การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
- กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ
- โรคแรงดันในหลอดเลือดแดงปอดสูงแบบปฐมภูมิ
- การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า
กลุ่มที่ 3 กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอวัยวะสำคัญ ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง
กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอวัยวะสำคัญ ระยะเริ่มต้น
- โรคหอบหืดระดับรุนแรง
- การผ่าตัดตับ
- การผ่าตัดแก้ไขระบบท่อน้ำดี
- การผ่าตัดไตหนึ่งข้าง
- ภาวะตับอ่อนอักเสบที่กลับเป็นซ้ำและเรื้อรัง
กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอวัยวะสำคัญ ระยะรุนแรง
- โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง / โรคปอดระยะสุดท้าย
- โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง
- ตับวาย
- โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต
- โรคถุงน้ำในไต
- การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก
- โรคตับอักเสบเรื้อรังจากระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง
- ไตวายเรื้อรัง
- ตับแข็ง
กลุ่มที่ 4 กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง
กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ระยะเริ่มต้น
- โรคไข้สมองอักเสบที่สามารถรักษาได้หายขาด
- การผ่าตัดใส่เครื่องมือระบายน้ำโพรงสมอง
- โรคพาร์กินสันระยะแรก
- การสูญเสียแขนหรือขา
- โรคปลายประสาทอักเสบ
- โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากวัณโรค
- โรคโปลิโอ
- การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดที่ไม่ทราบสาเหตุ
กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ระยะรุนแรง
- โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์
- ภาวะอะแพลลิก
- เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง
- สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
- การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง
- โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- โรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม
- โรคกล้ามเนื้อลีบ
- อัมพาตของกล้ามเนื้อแขนหรือขา
- โรคอัมพาตครึ่งซีก
- การผ่าตัดสมอง
- โรคพาร์กินสัน
- โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
- โรคก้านสมองเสื่อม
- โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
- โรคระบบประสาทมัลติเพิล สะเคลอโรสิส
- การฉีกขาดของรากประสาทต้นแขน
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อม
กลุ่มที่ 5 กลุ่มโรคอื่นๆ ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง
กลุ่มโรคอื่นๆ ระยะเริ่มต้น
- ภาวะสูญเสียการได้ยินบางส่วน
- การเจาะคอถาวร (หรือชั่วคราว)
- แผลไหม้เล็กน้อย / ปานกลาง
- การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ (ระยะเบื้องต้น)
- ภาวะต่อมหมวกไตบกพร่องเรื้อรัง(โรคแอดดิสัน)
- การติดเชื้ออีโบล่า
- โรคไข้เลือดออก
กลุ่มโรคอื่นๆ ระยะรุนแรง
- ตาบอด
- การสูญเสียการได้ยิน
- การสูญเสียความสามารถในการพูด
- โรคเอดส์/เอชไอวีจากการถ่ายเลือดหรือจากการทำงาน
- เชื้อเอดส์/เอชไอวี ซึ่งเป็นผลมาจากการทำร้ายร่างกายหรือการกระทำชำเราทางเพศ
- โรคลำไส้อักเสบเป็นแผลรุนแรง
- การถูกตัดขาหรือแขน
- แผลไหม้ฉกรรจ์
- ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง
- โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย
- การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
- โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงรุนแรง
- โรคเท้าช้าง
- เนื้องอกต่อมหมวกไตชนิดฟีโอโครโมไซโตมา
- โรคระยะสุดท้าย
- ไตอักเสบลูปูส จากโรคซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส
- โรคครอยตส์เฟลดต์จาค็อบ
- โรคหนังแข็งชนิดลุกลาม
กลุ่มโรคยอดฮิต ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง
กลุ่มโรคยอดฮิต ระยะเริ่มต้น
- โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
- โรคหลอดเลือดหัวใจ ที่รักษาโดยการใช้ยา
- การผ่าตัดใส่เครื่องมือระบายน้ำโพรงสมอง
- การผ่าตัดไตหนึ่งข้าง
กลุ่มโรคยอดฮิต ระยะรุนแรง
- โรคมะเร็งระยะลุกลาม
- การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
- กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
- โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
- ไตวายเรื้อรัง
- การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
- โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
ความคุ้มครองกลุ่มของโรคร้ายแรง ระยะรุนแรง
หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัย และหรือยืนยันจากแพทย์ว่าเป็นโรคร้ายแรงโรคใดโรคหนึ่งตามคำนิยามที่ระบุไว้ในข้อตกลงคุ้มครองกลุ่มโรคของแต่ละกลุ่ม ทั้งกลุ่มโรคมะเร็ง, กลุ่มโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ, กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอวัยวะสำคัญ, กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และกล้ามเนื้อ, กลุ่มโรคอื่นๆ หรือ กลุ่มโรคยอดฮิต ระยะรุนแรง ในระหว่างที่ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับคำนิยามของโรคร้ายแรงแล้วแต่กรณี บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรง เท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในหน้าตารางความคุ้มครอง และข้อตกลงคุ้มครองแต่ละกลุ่มโรค ระยะรุนแรง จะสิ้นสุดลง โดยที่ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับข้อตกลงคุ้มครองกลุ่มโรคนั้นๆ ระยะรุนแรง อีก
ความคุ้มครองกลุ่มของโรคร้ายแรง ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง
1.ผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงในกลุ่มโรคแต่ละกลุ่ม ระยะเริ่มต้นตามคำนิยามที่ระบุไว้ในข้อตกลงคุ้มครอง
หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัย และหรือยืนยันจากแพทย์ว่าเป็นโรคร้ายแรงโรคใดโรคหนึ่งในกลุ่มโรคนั้นๆ ระยะเริ่มต้นตามคำนิยามที่ระบุไว้ในข้อตกลงคุ้มครองกลุ่มโรคของแต่ละกลุ่ม ทั้งกลุ่มโรคมะเร็ง, กลุ่มโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ, กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอวัยวะสำคัญ, กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และกล้ามเนื้อ, กลุ่มโรคอื่นๆ หรือ กลุ่มโรคยอดฮิต ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง ในระหว่างที่ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับคำนิยามของโรคร้ายแรงแล้วแต่กรณี บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองกลุ่มโรคในแต่ละกลุ่มโรค ระยะเริ่มต้น เท่ากับร้อยละ 100 ของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในหน้าตารางความคุ้มครอง และ ความคุ้มครองสำหรับกลุ่มโรคร้ายแรงนั้นๆ ระยะเริ่มต้นตามข้อตกลงคุ้มครองกลุ่มโรคนั้นๆ ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง จะสิ้นสุดลง
2.ผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงในกลุ่มโรค กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ระยะรุนแรงตามคำนิยามที่ระบุไว้ในข้อตกลงคุ้มครอง
หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัย และหรือยืนยันจากแพทย์ว่าเป็นโรคร้ายแรงโรคใดโรคหนึ่งในกลุ่มโรคนั้นๆ ระยะรุนแรงตามคำนิยามที่ระบุไว้ในข้อตกลงคุ้มครองกลุ่มโรคของแต่ละกลุ่ม ทั้งกลุ่มโรคมะเร็ง, กลุ่มโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ, กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนอวัยวะสำคัญ, กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท และกล้ามเนื้อ, กลุ่มโรคอื่นๆ หรือ กลุ่มโรคยอดฮิต ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง ในระหว่างที่ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับคำนิยามของโรคร้ายแรงแล้วแต่กรณี บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองกลุ่มโรคนั้นๆ ระยะรุนแรง เท่ากับ ร้อยละ 200 ของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในหน้าตารางความคุ้มครอง หัก ผลประโยชน์ที่ผู้เอาประกันภัยได้รับแล้วตามความคุ้มครองข้อ 1 กลุ่มโรคนั้นๆ ระยะเริ่มต้น (ถ้ามี) และข้อตกลงคุ้มครองกลุ่มโรคของแต่ละกลุ่มโรค ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง จะสิ้นสุดลง โดยที่ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับข้อตกลงคุ้มครองกลุ่มโรคนั้นๆ ระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง อีก
1.กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง เว้นแต่การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ซึ่งเกิดขึ้นโดยทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน อันเนื่องมาจากสาเหตุดังตัวอย่าง 2 ข้อจาก ทั้งหมด 6 ข้อ ต่อไปนี้
1.1) ความผิดปกติซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงหรือโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นก่อนวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือก่อนวันที่ให้มีการต่ออายุสัญญาเมื่อสัญญาเพิ่มเติม สิ้นผลบังคับ (Reinstatement) หรือก่อนวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะไม่คุ้มครองเฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เว้นแต่ ผู้เอาประกันภัย ได้แถลงให้บริษัททราบและบริษัทยินยอมรับความเสี่ยงภัย โดยไม่มีเงื่อนไข ยกเว้นความคุ้มครองดังกล่าว
1.2) การฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายร่างกายตนเอง หรือพยายามกระทำเช่นว่านั้น เป็นต้น
2. กรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง อันเนื่องมาจากสาเหตุดังตัวอย่าง 2 ข้อจากทั้งหมด 9 ข้อ ต่อไปนี้
2.1) การบาดเจ็บขณะที่ผู้เอาประกันภัยก่ออาชญากรรมที่มีความผิดสถานหนัก หรือขณะถูกจับกุม หรือหลบหนีการจับกุม
2.2) ความบกพร่องทางร่างกาย การเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ ที่ผู้เอาประกันภัยทราบอยู่แล้วในขณะที่ทำสัญญาประกันภัย แต่มิได้แจ้งให้บริษัททราบ เป็นต้น
สัญญาเพิ่มเติมนี้จะไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงหรือความผิดปกติซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้สัญญาเพิ่มเติมนี้ ที่เกิดขึ้นภายใน 90 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือหากมีการต่ออายุสัญญาเมื่อสัญญาเพิ่มเติมสิ้นผลบังคับ (Reinstatement) ให้นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะไม่คุ้มครองเฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง