วางแผนการเงิน ฉบับมนุษย์เงินเดือน ออมเร็ว หลังเกษียณยิ่งวางใจ

มนุษย์เงินเดือนหลายคน อาจยังไม่ได้มองไปถึงการวางแผนการเงิน เพราะยังกังวลหลายอย่าง ทั้งค่าใช้จ่าย หรือวินัยในการออม แต่ถ้าวางวางแผนการเงินได้เร็วเท่าไร อนาคตจนถึงวัยเกษียณ ก็ยิ่งทำให้เราเบาใจขึ้น ว่ามีเงินเก็บไว้ใช้แน่นอน หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็มีเงินส่วนนี้มาช่วยซัปพอร์ต ซึ่งการวางแผนการเงินอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก และยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร วันนี้แอดมีวิธีการวางแผนการเงินมาฝาก ว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงวิธีบริหารเงินในวันที่เราต้องแบ่งสัดส่วนเงินไว้ออม จะได้ใช้จ่ายอย่างมั่นใจ ไม่เบียดบังเงินเก็บ ตามมาเลย

1. ทำไมต้องวางแผนทางการเงิน?

2. การวางแผนทางการเงิน มีอะไรบ้าง

3. วิธีบริหารเงิน

4. รูปแบบการออมเงิน 5 ประเภท เลือกแบบไหนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คุณ?

1. ทำไมต้องวางแผนทางการเงิน?

การวางแผนทางการเงิน เป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็ตาม การวางแผนที่ดี จะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ และสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างเบาใจ

• เพื่อความมั่นคงในอนาคต การวางแผนจะช่วยให้รู้ว่า เราควรออมเงินเท่าไหร่ และลงทุนอย่างไร เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายในยามเกษียณ หรือในยามฉุกเฉิน
• เพื่อได้ทำตามเป้าหมายชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถ ส่งลูกเรียน หรือการเดินทางรอบโลก การวางแผน จะช่วยให้เราเห็นภาพชัดเจน ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น
• เพื่อลดความเสี่ยง การวางแผนจะช่วยให้เรา รู้วิธีจัดการกับความเสี่ยงทางการเงินต่าง ๆ เช่น การสูญเสียรายได้ การเจ็บป่วย หรือ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

2. การวางแผนทางการเงิน มีอะไรบ้าง

เมื่อเล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการวางแผนทางการเงินแล้ว ตอนนี้เรามาเริ่มวางแผนทางการเงินกันดีกว่า ว่าควรทำอย่างไร เริ่มต้นอย่างไร มีอะไรบ้าง

• กำหนดเป้าหมาย เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายทางการเงินระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เช่น การซื้อบ้านภายใน 5 ปี การเกษียณอายุเมื่ออายุ 60 ปี
• ประเมินสถานการณ์ทางการเงิน เมื่อมีเป้าหมายแล้วว่า เราจะวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายไหนแล้ว ลำดับถัดมา ควรวิเคราะห์รายรับ รายจ่าย และสินทรัพย์ที่มีอยู่ เพื่อทราบภาพรวมทางการเงินของตัวเอง
• แบ่งสัดส่วนรายได้ ควรแบ่งรายได้ออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน เช่น 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 30% สำหรับการออม และ 20% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว
• จัดทำงบประมาณ ลองกำหนดงบประมาณรายเดือน เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และออมเงินให้ได้ตามเป้าหมาย
• ควรมีแหล่งเงินสำรอง ควรสร้างเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น ตกงาน การเจ็บป่วย หากต้องใช้เงินฉุกเฉินอาจทำให้ชีวิตสะดุดได้
• หาแหล่งลงทุน นำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุน เพื่อให้เงินงอกเงย เช่น กองทุนรวม หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์
• มีประกันไว้เป็นตัวช่วย การทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ก็สามารถป้องกันความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นได้
  

3. วิธีบริหารเงิน

เคล็ดลับวิธีบริหารเงิน ให้เราทำสำเร็จตามเป้าหมาย จะช่วยให้เราทำได้ตรงจุด และเห็นผล 
ซึ่งควรเริ่มต้นวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน เพราะยิ่งเริ่มวางแผนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสบรรลุเป้าหมายมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญคือ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากไม่แน่ใจ ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินได้ รวมไปถึงการใช้เครื่องมือช่วยวางแผน เพราะปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์มากมาย ที่ช่วยในการวางแผนทางการเงิน สุดท้ายแล้ว ควรมีความสม่ำเสมอในการวางแผนทางการเงิน มีการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน เช่น

• ระยะสั้น ออมเงินซื้อรถคันใหม่ภายใน 2 ปี
• ระยะกลาง ซื้อบ้านหลังแรกภายใน 5 ปี
• ระยะยาว เกษียณอายุเมื่ออายุ 60 ปี และมีเงินเก็บเพียงพอ สำหรับใช้จ่ายในช่วงเกษียณ

เคล็ดลับวิธีบริหารเงิน 

• ใช้แอปพลิเคชันช่วยในการบริหารเงิน ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมาย ที่สามารถนำมาเป็นตัวช่วยให้เราบันทึกรายรับรายจ่าย และวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น
• ไม่ควรใช้จ่ายเกินตัว ก่อนเราจะซื้ออะไร ควรคิดให้รอบคอบ ว่าจำเป็นต้องใช้หรือไม่ หรือเป็นแค่กิเลสที่เราอยากได้เฉย ๆ
• หาแรงบันดาลใจ หาแรงบันดาลใจในการออมเงิน เช่น การดูรีวิวของที่อยากได้ หรือการตั้งเป้าหมายการเดินทาง
• ทบทวนแผนการเงินเป็นประจำ ซึ่งควรทบทวนแผนการเงินอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เผื่อในอนาคต เราอาจมีเป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม

4. รูปแบบการออมเงิน 5 ประเภท เลือกแบบไหนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คุณ?

การออมเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน เพราะการมีเงินเก็บ จะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 รูปแบบการออมเงินยอดนิยม ที่คุณสามารถเลือกปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้

1. การออมเงินแบบดั้งเดิม

• กระปุกออมสิน วิธีคลาสสิกที่ง่ายที่สุด เพียงแค่หยอดเงินเหรียญ หรือแบงก์ที่เหลือใช้ลงไปทุกวัน ไม่แน่ว่า วันหลังมาเขย่ากระปุกอาจหนักขึ้นกว่าเดิม
• บัญชีออมทรัพย์ ฝากเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ ได้ดอกเบี้ยเล็กน้อย แต่ถอนเงินได้สะดวก
• บัญชีเงินฝากประจำ ฝากเงินก้อนหนึ่ง ในระยะเวลาที่กำหนด จะได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ แต่ถอนเงินก่อนกำหนดอาจเสียดอกเบี้ย

2. การออมเงินแบบอัตโนมัติ

• หักบัญชีอัตโนมัติ ตั้งค่าให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินเดือน ไปฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนโดยอัตโนมัติ
• แอปพลิเคชันออมเงิน ใช้แอปพลิเคชันสำหรับช่วยในการออมเงิน เช่น แอปที่แบ่งเงินอัตโนมัติ หรือแอปที่ท้าทายให้คุณออมเงิน

3. การออมเงินแบบลงทุน

• กองทุนรวม ลงทุนในกองทุนรวมที่หลากหลายประเภท เช่น กองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม เพื่อกระจายความเสี่ยง และได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
• หุ้น ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ เพื่อรับเงินปันผล
• อสังหาริมทรัพย์ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน เพื่อสร้างรายได้จากค่าเช่าหรือกำไรจากการขาย

4. ออมเงินแบบสร้างสรรค์

• ขายของมือสอง ขายของที่ไม่ใช้แล้วผ่านช่องทางออนไลน์หรือตลาดนัด
• ทำอาหารเอง ลดค่าใช้จ่าย ในการซื้ออาหารนอกบ้าน
• ใช้บริการขนส่งสาธารณะ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

5. การออมเงินแบบท้าทาย

การออมเงินแบบท้าทายตัวเอง ว่าเราสามารถทำได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ไหม ก็สามารถกระตุ้นความตื่นเต้นได้ดี เช่น ออมเงินเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 10 - 20 บาท หรือตามจำนวนที่ตั้งไว้ 30 วัน ชาเลนจ์ ท้าทายตัวเองให้ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย เป็นเวลา 30 วัน

เคล็ดลับในการออมเงินให้ประสบความสำเร็จ

• ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดเป้าหมายที่เป็นตัวเลข และมีระยะเวลาที่ชัดเจน
• บันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อติดตามการใช้จ่ายของตัวเอง
• หาเพื่อนร่วมออม การมีเพื่อนร่วมออม จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจมากขึ้น
• ให้รางวัลตัวเอง เมื่อบรรลุเป้าหมาย ให้รางวัลตัวเองบ้าง เพื่อเป็นกำลังใจ
  

การวางแผนการเงิน ถือว่าเป็นการออมเงินในอนาคตของคุณเอง การเลือกวิธีการออมที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างแน่นอน แค่เริ่มออมเงินตั้งแต่วันนี้ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินสำหรับใช้ในอนาคต เปย์เก่งยังไงก็ไหวอยู่ กับประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ได้ทั้งความคุ้มครองชีวิต และโอกาสรับผลตอบแทน เบี้ยที่จ่ายไม่สูญหายเมื่ออยู่ครบสัญญา แถมยังใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท เลือก

✅เมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ โปร 10/1 (Global) จ่ายเบี้ยครั้งเดียวไม่เป็นภาระ

✅เมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ 15/3 (Global) แบ่งจ่ายเบี้ยสบาย ๆ 3 ปี

รายละเอียดเพิ่มเติม

✅ โทร. 1766 ทุกวัน 24 ชั่วโมง

✅ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต หรือ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

• เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• เป็นการออมในรูปแบบการทำประกันชีวิต
• เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด
• โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำประกันภัย