ประโยชน์แมกนีเซียม แร่ธาตุเสริมสุขภาพ กินอย่างไรให้ดีกับร่างกาย
ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้กลายเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่เพียงเพื่อรูปร่างที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพจากภายใน เพื่อการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน
นอกจากการเลือกกินอาหารที่ดีต่อร่างกายแล้ว “สารอาหาร” ต่างๆ ก็เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นตามไปด้วย หนึ่งในสารอาหารที่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่รู้จักอย่างลึกซึ้งก็คือ “แมกนีเซียม” แร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทไม่น้อยในการช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับแมกนีเซียมให้มากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีการเลือกทานแมกนีเซียมให้ได้ผลดีต่อสุขภาพ ตามมาอ่านกันเลย
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
2. ประโยชน์ของแมกนีเซียม มีอะไรบ้าง?
4. อาหารและผัก-ผลไม้ที่มีแมกนีเซียมสูง
1. แมกนีเซียมคืออะไร
แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท, กล้ามเนื้อ, ระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
แร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมจะพบได้ในอาหารบางชนิด, อาหารเสริม และยาบางชนิด โดยใน 1 วัน คนเราควรได้รับแมกนีเซียมในปริมาณ 350 มิลลิกรัม หากบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียงเป็นอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร หรือในกรณีรุนแรงอาจเกิดอาการไตวาย ความดันโลหิตต่ำ หัวใจวายเฉียบพลัน เพราะฉะนั้นจึงควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ
ในทางตรงกันข้าม หากปล่อยให้ร่างกายขาดแมกนีเซียมติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดแมกนีเซียม ระบบทางเดินอาหารไม่สามารถดูดซึมแมกนีเซียมเข้าสู่ร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ท้องเสียเรื้อรัง, อ่อนเพลีย, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, เหน็บชา,ไตทำงานได้ไม่ปกติ
อ่านบทความเพิ่มเติม >> บอกต่อ วิธีแก้ตะคริวให้หายภายใน 1 นาที รู้ต้นเหตุ จัดการได้ทัน
2. ประโยชน์ของแมกนีเซียม มีอะไรบ้าง?
หลายคนอาจไม่รู้ว่าร่างกายต้องการแมกนีเซียมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้กระบวนการทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ประโยชน์ของแมกนีเซียม กันดีกว่า ว่าจะมีข้อไหนน่าสนใจบ้าง
เสริมสร้างการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
ทุกเซลล์ในร่างกายต้องการแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมมาช่วยเสริมในกระบวนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานของแมกนีเซียมจะมีความสอดคล้องกับปฏิกิริยาหลาย ๆ อย่างของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพลังงาน, กระบวนการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ, การทำงานของระบบประสาท, กระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ
การที่ร่างกายได้รับแมกนีเซียมในปริมาณที่เหมาะสม จะมีส่วนช่วยจัดการระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรได้รับแมกนีเซียมในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้
มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
ประโยชน์ของแมกนีเซียมที่สำคัญไม่แพ้กันคือการที่มีส่วนช่วยในการดูแลระบบการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติ
ช่วยลดการอักเสบ บรรเทาไมเกรน
นอกจากจะช่วยลดค่าการอักเสบในร่างกาย (ที่วัดจากค่า CRP) ซึ่งมักจะเจอในคนที่มีอาการอักเสบเรื้อรังแล้ว ยังมีส่วนช่วยชะลอความแก่ ช่วยรักษาและบรรเทาอาการปวดไมเกรน และยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้อีกด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นแร่ธาตุที่มีพลังงานที่ดีต่อร่างกาย
ช่วยลดอาการข้างเคียงก่อนมีประจำเดือน
แมกนีเซียมสามารถช่วยลดอาการไม่สบายต่าง ๆ ที่มักเกิดก่อนมีประจำเดือน เช่น อาการปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน หรือความอยากอาหารที่เปลี่ยนไป การเสริมแมกนีเซียมอย่างเหมาะสมอาจช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกเจ็บปวดน้อยลง
ช่วยบำรุงกระดูก
แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทในการเสริมสร้างและดูแลความแข็งแรงของกระดูก โดยช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก และมีส่วนในการทำงานของวิตามินดีอย่างมีประสิทธิภาพ หากร่างกายได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้กระดูกอ่อนแอ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้ในระยะยาว
ช่วยกระตุ้นให้อารมณ์ดี กระปรี้กระเปร่า ลดอาการวิตกกังวล
การเสริมแมกนีเซียมในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้ เนื่องจากแมกนีเซียมมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอารมณ์ดีและมีพลัง กระปรี้กระเปร่า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจิตในระยะยาว
3. แมกนีเซียม ห้ามกินกับอะไร
ถึงแม้ว่าจะเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย แต่ถ้าทานผิดวิธีหรือทานร่วมกับสารบางชนิด อาจทำให้ร่างกายดูดซึมได้ไม่เต็มที่ หรือเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ แอดจะพามาดูกันว่าแมกนีเซียม ห้ามกินกับอะไร เพื่อให้เกิดผลดีต่อร่างกายมากที่สุด
- ห้ามทานแมกนีเซียมกับกลุ่มยา Bisphosphonates ที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับกระดูก
- ห้ามทานแมกนีเซียมกับยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อ กลุ่ม Tetracyclines
- ห้ามทานแมกนีเซียมกับยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อ กลุ่ม Quinolone
- ห้ามทานแมกนีเซียมกับกลุ่มยา Diuretics ที่เป็นยาขับปัสสาวะ
- ห้ามทานแมกนีเซียมกับกลุ่มยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
สำหรับผู้ป่วยที่ต้องทานยาเพื่อรักษาโรคประจำตัว หรือยารักษาอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ แอดขอแนะนำให้สอบถามแพทย์ทุกครั้ง ว่าหากต้องการทานอาหารเสริมกลุ่มแมกนีเซียม จะสามารถทำได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกายนั่นเอง
4. อาหารและผัก-ผลไม้ที่มีแมกนีเซียมสูง
แอดจะขอพาไปดูว่า อาหารและผักผลไม้ที่มีแมกนีเซียม ซึ่งหาทานได้ง่าย ๆ และดีต่อสุขภาพนั้นมีอะไรบ้าง เผื่อจะได้นำไปปรับใช้กับเมนูประจำวันกันได้แบบไม่ต้องยุ่งยาก ตามมาดูกัน
อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง
- โยเกิร์ต
- เต้าหู้
- อัลมอนด์
- ควินัว
- ข้าวกล้อง
- เมล็ดฟักทอง/เมล็ดทานตะวัน
- ปลาแซลมอน
- ปลาทูน่า
- ดาร์กช็อกโกแลต
- ขนมปังโฮลวีท
- ไข่
ผัก - ผลไม้ที่มีแมกนีเซียมสูง
- ผักใบเขียว
- กล้วย
- อะโวคาโด
- ผักโขม
- ผักคะน้า
- บร็อกโคลี
- ผักชีฝรั่ง
- บีทรูท
- มะม่วง
- ฝรั่ง
- แตงโม
สารอาหารแต่ละชนิดมีทั้งประโยชน์และโทษ หากเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมก็จะเกิดผลดีต่อร่างกาย แมกนีเซียมเองก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม อย่าลืมทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและมีพลังงานในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่
เลือกทานอาหารที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดี เลือก ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริมการดูแลสุขภาพ ในวันที่คุณเจ็บป่วย ก็ยังเบาใจเพราะมีแผนความคุ้มครองดี ๆ รองรับ
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต และช่องทางที่ดูแลท่าน
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา สืบค้น ณ วันที่ 16/04/2568