ไวรัส HPV ตัวร้าย น่ากลัวกว่าที่คิด ติดได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย
หลายคนคุ้นชินกับชื่อของเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเชื้อ HPV เป็นเชื้อที่พบได้บ่อย ในโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งเชื้อไวรัส HPV ไม่ได้เสี่ยงแค่ผู้หญิง แต่ผู้ชายก็เสี่ยงติดและเป็นอันตรายเหมือนกัน เพราะเชื้อไวรัส HPV เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด ทำให้เป็นโรคบริเวณอวัยวะเพศ และทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย มาดูกันว่า หากติดเชื้อจะอันตรายแค่ไหน และติดเชื้อ HPV แล้วจะหายไหม ถ้าฉีดวัคซีน HPV แล้วจะป้องกันได้มากน้อยแค่ไหน และ HPV ในผู้ชาย กับในผู้หญิง มีความแตกต่างหรือคล้ายกันหรือไม่ วันนี้แอดนำข้อมูลมาฝาก ตามมาดูกันเลย
2. สาเหตุการติดเชื้อ HPV และอาการที่ควรระวัง
3. ผู้ชายเสี่ยงต่อเชื้อไวรัส HPV ยังไง?
1. เชื้อ HPV คืออะไร มาจากไหน
เชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่อันตรายต่อร่างกายมากที่สุดคือ สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเชื้อไวรัส HPV สามารถแพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะผ่านการมีเพศสัมพันธ์ แต่ยังมีหลายคนที่อาจเข้าใจผิดว่าเชื้อ HPV เป็นปัญหาเฉพาะของผู้หญิง เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับมะเร็งปากมดลูก แต่ความจริงแล้ว HPV สามารถติดต่อได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย และเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้อีก ซึ่งในปัจจุบัน ยังไม่มียาที่สามารถรักษาได้หายขาด แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV
2. สาเหตุการเชื้อ HPV และอาการที่ควรระวัง
เพราะ HPV เป็นไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือด้วยการสัมผัสเชื้อโดยตรง ทั้งทางช่องคลอด ทวารหนัก ปาก โดยจะแพร่เชื้อผ่านรอยแผล หรือรอยขีดข่วนตามผิวหนัง หรือสัมผัสผิวหนัง ซึ่งเชื้อ HPV เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง และยังสามารถก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้อีกมาก เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก หูดหงอนไก่ มะเร็งอวัยวะเพศ ที่สำคัญ คนที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตมากถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์ และที่น่าห่วงคือ หญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อ HPV สามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกในระหว่างการคลอดได้
อาการเมื่อติดเชื้อ HPV
โดยทั่วไปแล้ว คนที่ติดเชื้อ HPV มักจะไม่มีอาการแสดงที่สังเกตเห็นได้ชัด เพราะร่างกายสามารถกำจัดเชื้อได้เองก่อนเป็นหูด แต่ถ้าหากเชื้อ HPV ไม่ถูกกำจัดออกไป ซึ่งลักษณะของหูดจะแตกต่างตามสายพันธุ์ไวรัส ดังนี้
- หูดทั่วไป จะเป็นตุ่มเล็ก ๆ เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง เช่น มือ นิ้ว ข้อศอก ซึ่งผิวหนังที่เกิดหูดอาจมีเลือดออกได้ง่าย
- หูดแบนราบ จะมีสีเข้มกว่าปกติและนูนขึ้นมาเล็กน้อย มีลักษณะเรียบ เกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ผู้หญิงมักพบที่ขา ผู้ชายมักพบที่เครา
- หูดหงอนไก่ เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำ มักรู้สึกคัน แต่ไม่รู้สึกเจ็บ
- หูดฝ่าเท้า เกิดขึ้นบริเวณฝ่าเท้า ตรงส้นเท้าหรือเนินปลายเท้า มีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง มักรู้สึกเจ็บเวลาเดิน
นอกจากหูดแล้ว อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้ ได้แก่
- ตกขาวผิดปกติ มีปริมาณมากขึ้น มีกลิ่นเหม็น หรือมีสีผิดปกติ
- เลือดออกผิดปกติ อาจมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกระหว่างมีประจำเดือน
เจ็บปวดหรือรู้สึกไม่สบายบริเวณอวัยวะเพศ
3. ผู้ชายเสี่ยงต่อเชื้อไวรัส HPV ยังไง?
การติดเชื้อไวรัส HPV ไม่ได้ติดเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น เพราะผู้ชายก็สามารถติดได้เช่นกัน
ซึ่งมักเกิดจากการสัมผัสกับเชื้อไวรัสโดยตรงผ่านการมีเพศสัมพันธ์ กับคนที่มีเชื้อไวรัส HPV อยู่ในร่างกาย ทั้งทางทวารหนัก ปากและลำคอ ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคร้ายตามมาได้เช่น
- โรคมะเร็ง มะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาต มะเร็งในช่องปากและลำคอ
- หูดหงอนไก่ เกิดตุ่มเนื้อบริเวณอวัยวะเพศและบริเวณใกล้เคียง
และสำหรับเพศชายจะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น หากเป็นกลุ่มชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพระสายพันธุ์ที่ก่อโรคในผู้ชายส่วนใหญ่ จะเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ก่อมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง
4. ติดเชื้อ HPV หายไหม
อย่างที่บอกไปข้างบนว่า การติดเชื้อ HPV ไม่ได้มีวิธีรักษาให้หายทันที ต้องรอให้ร่างกายกำจัดเชื้อออกไปเองตามเวลา แต่หากคุณติดเชื้อที่มีสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง และตรวจพบช้าไป อาจทำให้เซลล์จะกลายเป็นมะเร็งได้
ติดเชื้อ HPV มีเพศสัมพันได้ไหม
เพราะสาเหตุของการติดเชื้อ HPV มาจากสาเหตุของการมีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน และถึงแม้จะมีเพศสัมพันธ์กับคู่เราคู่เดียว ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HPV ได้ ยิ่งหากคู่ของเรามีเชื้ออยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งเสี่ยง ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้น มาดูวิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV กัน ดังนี้
- มีคู่นอนเพียงคนเดียว เพื่อลดโอกาสในการสัมผัสกับเชื้อจากคนอื่น
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ถึง 90%
- เลื่อนอายุการมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV
- หลีกเลี่ยงเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งทวารหนัก
- หลีกเลี่ยงเพศสัมพันธ์ทางปาก จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งช่องปากและลำคอ
4. ติดเชื้อ HPV ต้องทำอย่างไร
การติดเชื้อ HPV เป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจ เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่โรคมะเร็งปากมดลูก แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะปัจจุบันมีวิธีการจัดการ เมื่อทราบว่าตัวเองติดเชื้อ HPV แล้วควรทำอย่างไรต่อไป
- ปรึกษาแพทย์ สิ่งแรกที่ควรทำคือปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำ หลังจากนั้นแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัย และเราต้องรักษาตัวเองอย่างไร
- ตรวจคัดกรองเป็นประจำหากติดเชื้อ HPV ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ และตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
- รักษาตามอาการ หากมีอาการ เช่น หูดหงอนไก่ แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ เช่น การใช้ยา การผ่าตัด หรือการใช้เลเซอร์
- ดูแลสุขภาพ ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่
- มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น
5. วิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV
เชื้อ HPV เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะสืบพันธุ์ การป้องกันการติดเชื้อ HPV จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ซึ่งวิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่สำคัญ ได้แก่
- ฉีดวัคซีน HPV เป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด และควรฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ซึ่งวัคซีน HPV ช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้หลายชนิด
- มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เช่น สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง จำกัดจำนวนคู่นอน ยิ่งมีคู่นอนน้อย ยิ่งลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV และโรคอื่น ๆ
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ควรตรวจสุขภาพตามกำหนด เพื่อตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ที่ปากมดลูก
- เลิกบุหรี่ การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูก
- รักษาสุขอนามัย ทำความสะอาดอวัยวะเพศให้สะอาดอยู่เสมอ
เชื้อไวรัส HPV เป็นสาเหตุการเกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งหลายชนิด ยิ่งเป็นเชื้อที่สามารถติดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ยิ่งควรระวังและต้องดูแลตัวเองให้ดี และอย่าลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี พร้อมวางแผนเสริมความมั่นใจด้วย ประกันสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล
ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท
✅ Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)
✅ D Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)
✅ เหมาจ่าย Extra แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต
(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง
(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(5) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(6) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 06/09/67