Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

รวม รายการลดหย่อนภาษี 2567 มีอะไรบ้าง เตรียมตัวก่อนเสียภาษี

รวม รายการลดหย่อนภาษี 2567 มีอะไรบ้าง เตรียมตัวก่อนเสียภาษี

การวางแผนจากรายการลดหย่อนภาษี 2567 เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมตัวจ่ายภาษีประจำปี ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยเมื่อกล่าวถึง การจ่ายภาษี ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้มีรายได้ที่มีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ


ซึ่งเงินจากการจ่ายภาษีของเราทุกคนนั้นก็เป็นรายได้หลักที่รัฐบาลนำไปใช้ในการพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และการให้บริการสาธารณะอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ และยกระดับคุณภาพชีวิตแก่คนในสังคมต่อไป


สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวเสียภาษี และกำลังหาแนวทางคำนวณภาษี เพื่อวางแผนการเงินในช่วงที่ต้องจ่ายภาษี บทความนี้ได้รวบรวมเอารายการลดหย่อนภาษี 2567 มาบอกต่อเพื่อให้ผู้เสียภาษีทุกท่านไม่พลาดโอกาสในการใช้สิทธิลดหย่อน เป็นอีกตัวช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ จะมีรายการไหนที่คุณสามารถใช้สิทธิได้ ลองมาดูกันเลย



1. คำนวณภาษี 2567 ทำอย่างไร?

2. รายการลดหย่อนภาษี 2567 มีอะไรบ้าง?

3. ยื่นภาษี 2567 ที่ไหนได้บ้าง?

4. เตรียมเอกสารยื่นภาษี ต้องใช้อะไรบ้าง?


คำนวณภาษี 2567


1. คำนวณภาษี 2567 ทำอย่างไร?


การเตรียมตัวเสียภาษีนั้น ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวมเอกสารรายได้, การใช้สิทธิลดหย่อนภาษี หรือการตรวจสอบเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษีประจำปีอย่างถูกต้อง


สำหรับผู้มีเงินได้ ที่ต้องเตรียมเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ต้องการคำนวณเงินภาษีที่ต้องจ่าย สามารถคำนวณเงินเพื่อวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้าได้ โดยคำนวณยอดเงินได้สุทธิ เพื่อคำนวณภาษีต่อ ตามวิธีดังต่อไปนี้


ยอดเงินได้สุทธิ  = (รายได้รวม 12 เดือน - ค่าใช้จ่าย) - ค่าลดหย่อนภาษี


โดยการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถลดภาระในการจ่ายภาษีลงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีรายการลดหย่อนภาษีหลายประเภท ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต และมีสิทธลดหย่อนที่ช่วยให้ผู้เสียภาษีได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งสิทธิลดหย่อนภาษี ถูกแบ่งไว้ดังต่อไปนี้


  • สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนตัว และครอบครัว
  • สิทธิลดหย่อนภาษีจากการออม การลงทุน และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต
  • สิทธิลดหย่อนภาษีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐ
  • สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาค


โดยรายละเอียดการใช้สิทธิลดหย่อนของแต่ละประเภทนั้น จะอธิบายเพิ่มเติมต่อไป


รายการลดหย่อนภาษี 2567 มีอะไรบ้าง?


2. รายการลดหย่อนภาษี 2567 มีอะไรบ้าง?


  • สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนตัว และครอบครัว


    • ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว สำหรับผู้มีเงินได้

ผู้มีเงินได้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนส่วนตัวได้ จำนวน 60,000 บาท เป็นสิทธิพื้นฐานที่สามารถลดหย่อนได้ทุกคน


    • ค่าลดหย่อนภาษีคู่สมรส

ผู้ที่มีคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคู่สมรส (ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง) เป็นผู้ที่ไม่มีรายได้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ จำนวน 60,000 บาท โดยฝ่ายที่มีเงินได้จะเป็นผู้ยื่นภาษี แต่ในกรณีที่เป็นผู้มีเงินได้ทั้งคู่ ก็สามารถเลือกยื่นภาษีรวมกัน หรือแยกกันก็ได้


    • ค่าลดหย่อนสำหรับบุตรตามกฎหมาย และบุตรบุญธรรม

บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย คือ บุตรที่ให้กำเนิดตามกฎหมาย ทั้งของตนเอง และของคู่สมรส โดยจะได้รับสิทธิลดหย่อนคนละ 30,000 บาท และในกรณีบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนเพิ่มได้อีกคนละจำนวน 30,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าบุตรแต่ละคนจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ณ ปีภาษีนั้น ๆ และเป็นบุคคลที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี


รวมทั้งบุตรที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไป, ศึกษาหลักสูตรเนติบัณฑิต ที่อายุไม่เกิน 25 ปี  หรือเป็นผู้ที่ศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ-เสมือนไร้ความสามารถ ก็นำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้


บุตรบุญธรรม คือ บุตรที่ไม่ได้ให้กำเนิดตามกฎหมาย หรือเป็นบุตรที่รับอุปการะมาจากบุคคลอื่น แต่ได้รับการจดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมาย และเลี้ยงดูเสมือนเป็นบุตรของตนเอง สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้จำนวน 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 คน* โดยมีเงื่อนไขว่าบุตรบุญธรรมจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ณ ปีภาษีนั้น ๆ


*หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนของบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกับสิทธิของบุตรบุญธรรม จะต้องใช้สิทธิของบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายก่อน หากครบ 3 คนแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิได้


    • ค่าลดหย่อนจากการฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร

สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรได้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท/การตั้งครรภ์ (หากเป็นครรภ์แฝด จะนับเป็น 1 ครรภ์) โดยแสดงใบรับรองแพทย์ที่มีข้อมูลการตั้งครรภ์ และใบเสร็จรับเงิน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ที่ชำระให้กับทางสถานพยาบาล สามารถใช้สิทธิได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน


    • ค่าลดหย่อนอุปการะบิดามารดา

ผู้ที่มีบิดา-มารดา อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าบิดา-มารดา จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ณ ปีภาษีนั้น ๆ  และสามารถยื่นรวมกับบิดา-มารดา ของคู่สมรสได้อีกด้วย ในกรณีที่ยื่นร่วม


และเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับบิดา-มารดา ที่มีบุตรเป็นผู้มีเงินได้หลายคน บุตรจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนบิดา-มารดาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถใช้สิทธิซ้ำกันหลายคนได้ ส่วนบุตรบุญธรรม ไม่มีสิทธิหักลดหย่อนในกรณีนี้


    • ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพบิดา-มารดา

ได้สิทธิลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดา-มารดา ของตนเองตามที่จ่ายจริง และยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ทั้งบิดา-มารดา ของตนเองและคู่สมรส โดยที่เมื่อนำค่าเบี้ยประกันสุขภาพมารวมกันแล้ว จะต้องไม่เกิน 15,000 บาท  มีเงื่อนไขว่าบิดา-มารดา จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ณ ปีภาษีนั้น ๆ ส่วนบุตรบุญธรรม ไม่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนในกรณีนี้


    • ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันประชีวิตและประกันบำนาญของคู่สมรส

ผู้มีเงินได้สามารถนำเบี้ยประกันของคู่สมรสมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 10,000 บาท กรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ ณ ปีภาษีนั้น ๆ


    • ค่าลดหย่อนสำหรับผู้อุปการะคนพิการ/ทุพพลภาพ

สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ จำนวน 60,000 บาท ในกรณีที่ผู้มีเงินได้ ทำการอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ/ทุพพลภาพ* มาไม่ต่ำกว่า 180 วัน โดยบุคคลนั้น ๆ จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ณ ปีภาษีนั้น ๆ และมีบัตรประจำตัวผู้พิการ และผู้มีเงินได้ มีหนังสือรับรองว่าเป็นผู้อุปการะบุคคลนั้น


*ในกรณีที่ผู้พิการ/ทุพพลภาพ มีสถานะเป็นบิดา-มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้มีเงินได้ จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ทั้ง 2 ส่วน โดยจะได้รับทุกคน ไม่จำกัดสิทธิ แต่สำหรับผู้ที่มีความสัมพันธ์ในสถานะอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมา จะได้รับสิทธิลดหย่อนเพียง 1 คน เท่านั้น


สิทธิลดหย่อนภาษีจากการออม การลงทุน และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต


  • สิทธิลดหย่อนภาษีจากการออม การลงทุน และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต


    • กองทุนประกันสังคม

การใช้สิทธิลดหย่อนจากการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม สามารถแบ่งตามมาตราได้ดังนี้


  • มาตรา 33 - กลุ่มพนักงานที่มีรายได้ประจำ > หักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 9,000 บาท
  • มาตรา 39 - อดีตผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ยังต้องการคงสถานะ > หักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5,184 บาท
  • มาตรา 40 - กลุ่มที่ประกอบอาชีพอิสระ > หักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง มี 3 รูปแบบ คือ  840 บาท, 1,200 บาท และ 3,600 บาท


    • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์โรงเรียนเอกชน

สำหรับกองทุน กบข. สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ ส่วนกองทุนอื่น ๆ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และเมื่อรวมกับรายการการออม-กองทุนอื่น ๆ แล้วต้องมีจำนวนไม่เกิน 500,000 บาท


    • กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ และได้มีการเข้าร่วมกองทุนการออมแห่งชาติ สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท  และเมื่อรวมกับรายการการออม-กองทุนอื่น ๆ แล้วต้องมีจำนวนไม่เกิน 500,000 บาท


    • ลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิต, ประกันชีวิตแบบบำนาญ และประกันสุขภาพ


สำหรับผู้ที่ถือกรมธรรม์ประกัน 3 รูปแบบ นี้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ดังนี้


  • ประกันชีวิต - ลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยต้องเป็นกรมธรรม์ที่ทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น เป็นกรมธรรม์ที่มีกำหนดเวลา 10 ปีขึ้นไป หากมีการจ่ายผลประโยชน์คืนทุกปี ต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของค่าเบี้ยประกันชีวิตต่อปี

  • ประกันบำนาญ - เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับรายการการออม-กองทุนอื่น ๆ แล้วต้องมีจำนวนไม่เกิน 500,000 บาท โดยต้องเป็นกรมธรรม์ที่ทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น เป็นกรมธรรม์ที่มีกำหนดเวลา 10 ปีขึ้นไป

  • ประกันสุขภาพ - สามารถใช้เบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตและประกันสะสมทรัพย์แล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท


    • หน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

สำหรับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนกับกองทุน RMF สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ ไม่เกิน 30% ของรายได้ และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตและประกันสะสมทรัพย์แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท


สิทธิลดหย่อนภาษีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐ


  • สิทธิลดหย่อนภาษีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐ


    • ค่าลดหย่อนจากดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย

ผู้มีเงินได้ ที่ทำการกู้ยืมสินเชื่อบ้าน เพื่อการเช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยต้องมีหนังสือรับรองตามที่กำหนด


    • ค่าลดหย่อนจากการใช้จ่ายในโครงการ e-Receipt

ผู้ที่ซื้อสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 - 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถนำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) มาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แล้วสูงสุดไม่เกินจำนวน 50,000 บาท โดยมีเงื่อนไขคือจะต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบกำกับภาษี หรือ e-Receipt ตามระบบของสรรพากรเท่านั้น จึงจะสามารถยื่นขอลดหย่อนส่วนนี้ได้


    • โครงการเที่ยวเมืองรอง

เป็นมาตรการลดหย่อนภาษีในปี 2567 โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ตามที่กำหนด สามารถใช้สิทธิลดหย่อนด้วยการนำค่าที่พักตามที่จ่ายจริง มาใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ไม่เกิน 15,000 บาท โดยต้องมีหลักฐานการชำระเงินเป็นใบกำกับภาษี หรือ e-Receipt หรือ e-Tax Invoice มาแสดงเพื่อใช้สิทธิ


สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาค


  • สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาค


    • เงินบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะ

การบริจาคเงินเพื่อประโยชน์สาธารณะ เช่น สถานศึกษาของรัฐ-เอกชน, การกีฬา, สถานพยาบาลของรัฐ รวมทั้งเงินบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษี ในระบบ e-Donation สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เป็นจำนวน 2 เท่า ของจำนวนเงินตามที่บริจาค แต่จะไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ


    • เงินบริจาคทั่วไป

การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือส่วนรวมโดยทั่วไป สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามจำนวนเงินจริงที่บริจาค แต่จะไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ


    • เงินบริจาคพรรคการเมือง

เงินที่บริจาคเพื่อสมทบช่วยเหลือพรรคการเมือง สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามจำนวนเงินที่บริจาคไป แต่ไม่เกิน 10,000 บาท โดยจะต้องแสดงหลักฐานการบริจาคเงินที่สามารถตรวจสอบได้


ยื่นภาษี 2567 ที่ไหนได้บ้าง?


3. ยื่นภาษี 2567 ที่ไหนได้บ้าง?


สามารถยื่นภาษีตามช่วงเวลาที่กำหนด พร้อมใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ได้ตามช่องทางต่อไปนี้


  • สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา รวมทั้งสาขาย่อยในห้างสรรพสินค้า, สรรพากรเขต-อำเภอ
  • ยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร  https://efiling.rd.go.th


4. เตรียมเอกสารยื่นภาษี ต้องใช้อะไรบ้าง?


  • ใบทวิ 50 สำหรับผู้มีเงินได้
  • ใบเสร็จรับเงินในการซื้อหน่วยลงทุนกับทุน, ประกันชีวิต, ประกันสะสมทรัพย์, ประกันบำนาญ หรือประกันสุขภาพ
  • หลักฐานการมอบเงินบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษี
  • หนังสือรับรองดอกเบี้ยกู้ยืมจากธนาคาร
  • ใบกำกับภาษีจากร้านค้า


การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นการวางแผนทางการเงินที่ชาญฉลาดและช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถบริหารจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเตรียมตัวจากรายการลดหย่อนภาษี 2567 ก่อนถึงช่วงเสียภาษีนั้นไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระภาษีที่ต้องชำระ แต่ยังเป็นการสร้างสภาพคล่องทางการเงินให้กับตัวผู้มีเงินได้เองด้วย


ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้แล้วนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิลดหย่อนและการเตรียมเอกสารที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่ผู้เสียภาษีทุกคนควรใส่ใจ เพื่อให้สามารถใช้สิทธิได้เต็มที่และได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างครบถ้วนและถูกต้องยังช่วยให้การจ่ายภาษีเป็นไปอย่างราบรื่น


ดูแลสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ให้แต่ละวันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความสุข พร้อมใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ด้วย ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล

ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท


Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)
D Health Plus
คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)
เหมาจ่าย Extra
แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)


รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต


(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง

(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง (แผน Top Up ความคุ้มครอง) และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(5) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง


  • เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย



ที่มา สืบค้น ณ วันที่  29/10/67

🔖กรมสรรพากร
🔖ธนาคารกรุงศรี
🔖Finnomena

สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว