เริ่มต้น! เลือกประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษี 2567 สำหรับ First Jobber
การเลือกประกันสุขภาพที่ตรงตามความต้องการ นอกจากเพื่อความอุ่นใจเมื่อเจ็บป่วย หรือไม่สบายแล้ว ยังสามารถช่วยให้คุณสามารถนำไปจัดการกับภาษีได้อีกด้วย โดยเฉพาะกับ First Jobber ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน การวางแผนด้านการเงินเป็นเรื่องสำคัญด้วย ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษี จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับรายได้ และลดภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพคือแผนประกันลดหย่อนภาษี ต้องเลือกให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณ และไม่สร้างภาระทางการเงินในอนาคตได้
ก่อนซื้อประกันสุขภาพ และลดหย่อนภาษี 2567 ต้องดูอะไรบ้าง
สำหรับ First Jobber ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน การดูแลสุขภาพถือเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะความเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้ตลอด และสวัสดิการที่มีอาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ดังนั้นประกันสุขภาพ ที่นอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษี 2567 ได้ ก็ยังช่วยให้คุณมั่นใจกับการใช้ชีวิตมากขึ้นเมื่อต้องเจอกับค่ารักษาพยาบาลที่อาจทำให้เงินในกระเป๋าเบาได้ง่าย ๆ แต่การเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และรายได้ของตัวเองก็อาจทำให้หลายคนสับสน ดังนั้นเรามาดูวิธีเลือกประกันสุขภาพให้ได้ความคุ้มครองครบ จ่ายไหว และตอบโจทย์ชีวิตการทำงาน ก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต แบบไหนลดหย่อนภาษีได้ และไม่ได้
เชื่อว่าหลายคนมักนึกถึงการซื้อประกันชีวิต และประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษี 2567 ที่จะนำมาเป็นตัวช่วยใช้ลดหย่อนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่แบบประกันทุกประเภทที่จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นมาความเข้าใจกันก่อนว่า ประกันแบบไหนลดหย่อนภาษีได้ และประกันแบบไหนไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้
ประกันที่ลดหย่อนภาษีได้
- เบี้ยประกันชีวิต และ ประกันออมทรัพย์ หรือชั่วระยะเวลา : สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกินปีละ 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพ : ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท (สามารถลดหย่อนภาษีรวมกับประกันชีวิต และประกันออมทรัพย์ ได้ไม่เกิน 100,000 บาท)
- เบี้ยประกันสุขภาพของพ่อแม่ : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
ประกันแบบไหน? ใช้ลดหย่อนภาษีไม่ได้
- ประกันกลุ่ม : สวัสดิการที่บริษัททำให้แก่พนักงาน บริษัทสามารถนำไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคลของบริษัทได้ แต่พนักงานนำไปลดหย่อนภาษีไม่ได้
- เบี้ยประกันชีวิตของลูก : ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ โดยพ่อแม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้เฉพาะส่วนของค่าใช้จ่ายของบุตรตามที่รัฐบาลกำหนดเท่านั้น ดังนั้น ก่อนซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี ต้องเลือกประเภทประกันก่อนซื้อ
ประกันสุขภาพที่ดูไว้คุ้มครอง และครอบคลุมแค่ไหน
- ค่าเบี้ยประกันภัย : หากคุณมีเงื่อนไขของค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปีจึงไม่ควรมองข้าม เพราะเบี้ยประกันสุขภาพมักจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุ นอกจากนี้การชำระเบี้ยรายปี จะประหยัดกว่าชำระเบี้ยรายเดือน
- คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) ค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) : จะมีการกำหนดวงเงินต่อครั้งต่อโรค วงเงินต่อปี หรือจำนวนครั้งสูงสุดในรอบปีกรมธรรม์
- ครอบคลุมโรคร้าย หรือเสียชีวิต และผลประโยชน์อื่น ๆ : หรือ มีเอกสารแนบท้าย เช่น ทันตกรรม คลอดบุตร เป็นต้น
- วงเงินคุ้มครองที่แนะนำ : ควรดูว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล และสามารถรักษาในโรงพยาบาลตามที่ต้องการได้ หรือเลือกความคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ไม่จำกัดวงเงินค่ารักษาพยาบาล ซึ่งจะครอบคลุมค่ารักษา ทั้งอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ตลอดไปจนถึงโรคร้ายเเรงนั่นเอง
- ค่าชดเชย : รายได้คือสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือน หากเจ็บป่วยไม่สบายอาจส่งผลให้ขาดรายได้ ดังนั้นตัวเลือกการทำประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมการชดเชยรายได้ จะสามารถชดเชยรายได้ที่ขาดหายไประหว่างรักษาตัว รวมถึงชดเชยเพิ่มเติมในกรณี เช่น เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ อื่น ๆ เป็นต้น
เบี้ยประกัน เลือกที่จ่ายไหว
การเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของความคุ้มครองเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงรายได้ และภาระภาษีที่คุณต้องจ่ายด้วย สำหรับ First Jobber การวางแผนเรื่องภาษีเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เพราะประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีนั้น สามารถช่วยลดภาระภาษีได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าคุณสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้อย่างสบายใจโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินของคุณ เพราะหากอยากได้ความคุ้มครองที่สูง ก็จะมาพร้อมกับค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงตามไปด้วย
ประเมินความเสี่ยง
ทุกคนมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เช่น ชอบกินของสุก ๆ ดิบ ๆ ปิ้งย่าง ชาบู สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย หรือทำงานหนัก รวมถึงมีความเสี่ยงจากพันธุกรรม เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งหากรู้ตัวว่าตัวเองมีความเสี่ยงเหล่านี้ ควรนำข้อมูลมาประเมินเพื่อจะได้วางแผนเลือกประกันสุขภาพ ให้ตรงความต้องการได้
ตรวจสอบสวัสดิการที่มีปัจจุบัน
เช่น สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิประกันกลุ่มของบริษัทที่ทำงาน ว่ามีทุนประกันเพียงพอกับความต้องการ และครอบคลุมความเสี่ยงในชีวิตแล้วหรือยัง เช่น ถ้าต้องใช้วิธีการรักษาที่มีเทคโนโลยีที่สูงแต่ไม่สามารถเบิกได้ หรือต้องการคุณภาพห้องพักโรงพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสิทธิประโยชน์ที่มี การซื้อประกันสุขภาพส่วนเพิ่มก็จะช่วยเราให้ได้รับความคุ้มครองที่อุ่นใจ
First Jobber ทำไมต้องยื่นภาษี?
สำหรับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถือเป็นหน้าที่ของผู้มีรายได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน หรือเคยมีประสบการณ์ทำงาน และผ่านการยื่นภาษีมาก่อนแล้ว ก็ต้องมีหน้าที่ยื่นภาษี เพราะการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นข้อกำหนดในกฎหมายสรรพากร ว่าด้วยประชาชนคนไทยจำเป็นมีการยื่นภาษีแสดงรายได้ ซึ่งจะมีใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี และ ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีในปี 2567 ตัวไหนที่น่าสนใจ เดี๋ยวเรามาเล่าให้ฟังกัน
ใครที่ต้องยื่นภาษี
- มนุษย์เงินเดือนที่มีเงินได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปี ต้องทำการยื่นภาษี และเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนด
- มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ก็ต้องมีหน้าที่ที่ต้องยื่นภาษีตามที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน
ถ้าไม่ยื่นภาษีจะโดนอะไรบ้าง
สำหรับใครที่ยื่นภาษีไม่ทันตามกำหนดยื่นของทุกปี อาจต้องระวางโทษค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร แต่สามารถขอลดค่าปรับได้ ในกรณีมีเงินภาษีต้องชำระ ต้องไปยื่นแบบ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา และชำระเงินภาษี พร้อมเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ และค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 35
สำหรับ First Jobber ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน การเลือกประกันสุขภาพลดหย่อนภาษี ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้สองต่อ ทั้งในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และการจัดการกับภาษีในปี 2567 ด้วยแผนประกันลดหย่อนภาษีที่เข้ากับรายได้ และความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ไม่จำเป็นต้องเลือกแผนที่แพงที่สุด แค่สามารถครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลพื้นฐานได้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และความเสี่ยงต่าง ๆ อีกทั้งการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันสุขภาพก็ช่วยลดภาระภาษีได้ดีอีกด้วย แถมยังเป็นการวางแผนทางการเงินที่ฉลาดตั้งแต่เริ่มทำงาน
มือใหม่ First Jobber เริ่มจ่ายภาษี…เริ่มปีนี้ด้วยประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท
เริ่มกับ D Health Plus ถึงเจ็บป่วยก็ไม่กังวลเพราะรับมือโรคของ Gen ใหม่ แอดมิตเหมาจ่ายค่ารักษา 5 ล้านบาท(1) เหมาจ่ายวงเงินเดียว ทั้งค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ค่ารักษา ค่าผ่าตัด แอดมิตได้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซับไว้เล้ย เบี้ยเดือนละไม่ถึง 1,778 บาท(2)
💊 จ่ายค่ายากลับบ้าน สูงสุด 20,000 บาทต่อครั้ง(3)
🛡️ ครอบคลุมตั้งแต่โรคเล็ก ๆ ไปจนถึงโรคแรง ๆ ไม่ว่าจะ โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคหัวใจ โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคหอบหืด หรือจะลำไส้อักเสบ
💪🏻 Fit ดีมีส่วนลดเบี้ยปีต่ออายุ สูงสุด 15%(4) กับโครงการ MTL Fit Rewards
🔥ซื้อวันนี้! ผ่อนเบี้ย 0% สบาย ๆ สำหรับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่แบบรายปีเท่านั้น เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อช่องทางออนไลน์ตัวแทน สาขา และช่องทางอื่น ๆ ของเมืองไทยประกันชีวิต ทั่วประเทศ
(1)กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2)สำหรับเพศชาย อายุ 25 ปี เลือกแบบประกันภัย เมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/99 จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท และสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบดี เฮลท์ พลัส ความคุ้มครอง 5 ล้านบาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง แบบไม่มีความรับผิดส่วนแรก และชำระเบี้ยประกันภัยรายเดือน
(3)ค่ายา และค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง สำหรับกลับบ้าน สูงสุดไม่เกิน 7 วัน
(4) MTL Fit Rewards มอบส่วนลดสูงสุด 15% ของเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ ไม่เกิน 7,500 บาท สำหรับสมาชิกโครงการ ตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด