ยื่นภาษีล่าช้า ต้องทำอย่างไรเมื่อเลยกำหนด
หมดเขตยื่นภาษีไปแล้ว... ทำยังไงดี? เสียงเตือนจากกรมสรรพากรดังขึ้นทุกปี แต่บางครั้งชีวิตก็ยุ่งเหยิงจนทำให้เราลืมเรื่องสำคัญอย่าง 'การยื่นภาษี' ไปได้ ซึ่ง กรมสรรพากร เปิดให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปีภาษี 2567 ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย ระบบ D-MyTax ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 8 เมษายน 2568 ส่วนการยื่นภาษีแบบกระดาษ ที่สำนักงานสรรพากร ซึ่งจะสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2568 หากใครกำลังกังวลใจ เพราะเลยกำหนดการยื่นภาษีไปแล้ว และกำลังกังวลว่ายื่นภาษีล่าช้าโดนอะไรบ้าง หรือ ถ้าไม่ยื่นภาษี จะมีผลอย่างไร จะโดนค่าปรับไหม ไม่ต้องตกใจไป วันนี้เราจะแนะนำขั้นตอน รวมถึงสิ่งที่ต้องทำเมื่อยื่นภาษีล่าช้า เพื่อให้ทุกคนจัดการเรื่องยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องและสบายใจ
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
1. ยื่นภาษีล่าช้าต้องทำอย่างไรเมื่อเลยกำหนด
2. กรณีไหนบ้างที่ต้องยื่นภาษีเงินได้ย้อนหลัง
3. หากยื่นภาษีล่าช้าจะโดนอะไรบ้าง
1. ยื่นภาษีล่าช้าต้องทำอย่างไรเมื่อเลยกำหนด
การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งอาจมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้เราไม่สามารถยื่นภาษีได้ทันตามกำหนด ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น มาดูกันว่าหากยื่นภาษีล่าช้าจะต้องทำอย่างไร
ขั้นตอนเมื่อยื่นภาษีล่าช้า
1. เตรียมเอกสารให้พร้อม
- แบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ขึ้นอยู่กับประเภทรายได้ของคุณ
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
- เอกสารแสดงค่าลดหย่อน เช่น หนังสือรับรองการจ่ายเบี้ยประกันชีวิต, หนังสือรับรองการบริจาค
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2. ยื่นแบบภาษีที่สำนักงานสรรพากร
- เนื่องจากเลยกำหนดแล้ว คุณจะไม่สามารถยื่นแบบออนไลน์ได้ จึงต้องยื่นแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่เท่านั้น
- กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มให้ครบถ้วนและถูกต้อง
3. ชำระภาษี (ถ้ามี)
- หากคุณมีภาษีที่ต้องชำระ จะต้องชำระภาษีพร้อมค่าปรับและเงินเพิ่ม (ถ้ามี)
- สามารถชำระภาษีได้ที่สำนักงานสรรพากรหรือผ่านช่องทางที่กำหนด
4. ค่าปรับและเงินเพิ่ม
- ค่าปรับ ผู้ที่ยื่นภาษีล่าช้าจะต้องเสียค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสามารถขอลดหย่อนได้
- เงินเพิ่ม หากมีภาษีที่ต้องชำระ จะต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
5. ขอผ่อนผันค่าปรับ (ถ้ามี)
- ในบางกรณี คุณอาจสามารถขอผ่อนผันค่าปรับได้ โดยยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่สรรพากร
- เหตุผลในการขอผ่อนผันต้องเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถยื่นภาษีได้ทันตามกำหนด
2. กรณีไหนบ้างที่ต้องยื่นภาษีเงินได้ย้อนหลัง
การยื่นภาษีเงินได้ย้อนหลังมักเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้เสียภาษีไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี หรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ซึ่งอาจเกิดจากความไม่รู้ ความเข้าใจผิด หรือเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งกรณีที่อาจต้องยื่นภาษีเงินได้ย้อนหลังมีดังนี้
ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี
- หากผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเลย จะต้องยื่นภาษีย้อนหลังเมื่อถูกตรวจพบ
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีไม่ถูกต้อง
- หากยื่นแบบแสดงรายการภาษีไม่ถูกต้อง เช่น แจ้งรายได้ไม่ครบถ้วน หรือแสดงค่าลดหย่อนไม่ถูกต้อง จะต้องยื่นแบบเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขข้อมูล
ได้รับแจ้งจากกรมสรรพากร
- หากกรมสรรพากรตรวจพบว่ามีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีไม่ถูกต้อง หรือมีรายได้ที่ไม่ได้แจ้งไว้ จะแจ้งให้ผู้เสียภาษียื่นภาษีย้อนหลัง
มีรายได้เพิ่มเติม
- หากมีรายได้เพิ่มเติมที่ไม่ได้แจ้งไว้ในการยื่นภาษีครั้งแรก เช่น ได้รับเงินปันผล หรือมีรายได้จากการขายทรัพย์สิน จะต้องยื่นภาษีย้อนหลังเพื่อแจ้งรายได้เพิ่มเติม
. หากยื่นภาษีล่าช้าจะโดนอะไรบ้าง
การยื่นภาษีล่าช้า ไม่ทันตามกำหนดเป็นเรื่องที่หลายคนอาจเคยประสบ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความยุ่งยากของเอกสาร หรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกำหนดการ แต่การปล่อยปละละเลยไม่ยื่นภาษีหรือยื่นภาษีล่าช้า อาจนำมาซึ่งผลกระทบทางกฎหมายและ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
1. ค่าปรับ
- กรมสรรพากรจะเรียกเก็บค่าปรับกรณีที่ยื่นแบบภาษีล่าช้า โดยค่าปรับนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ล่าช้าและประเภทของภาษี
- ค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร แต่สามารถขอลดค่าปรับได้
2. เงินเพิ่ม
- หากมีภาษีที่ต้องชำระ จะต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
- เงินเพิ่มนี้จะคำนวณตั้งแต่วันที่เลยกำหนดจนถึงวันที่ชำระภาษี
3. ความน่าเชื่อถือ
- การยื่นภาษีล่าช้าอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมทางการเงิน
- อาจมีผลต่อการขอสินเชื่อหรือการทำธุรกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการ
ดังนั้นแล้ว อย่าลืมยื่นภาษีให้ทันตามกำหนด เพื่อลดผลกระทบและความยุ่งยากที่จะตามมา เพราะยิ่งยื่นภาษีและชำระภาษีเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะเสียค่าปรับและเงินเพิ่มน้อยลงเท่านั้น และควรเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการยื่นภาษีไว้เป็นหลักฐาน เตรียมวางแผนการยื่นภาษีกันไปแล้ว อย่าลืมวางแผนลดหย่อนภาษีกันด้วยนะ คุ้มสองต่อได้ทั้งความคุ้มครองสุขภาพและลดหย่อนภาษี ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท และยังสามารถนำค่าเบี้ยไปลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 25,000 บาท อีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 07/03/68
🔖 ThaiPBS
🔖 noon