ชาวฟรีแลนซ์ ยื่นภาษียังไง? เคล็ดลับจัดการภาษีสำหรับอาชีพอิสระ
การทำงานในฐานะฟรีแลนซ์นั้นมีข้อดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอิสระในการเลือกงาน หรือการกำหนดเวลาทำงานเอง แต่การทำงานแบบนี้ก็อาจมาพร้อมกับความท้าทาย โดยเฉพาะเรื่องการวางแผนการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับฟรีแลนซ์ในการรักษาความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
การวางแผนการเงินสำหรับฟรีแลนซ์นั้นไม่เพียงแค่การจัดการรายรับ-รายจ่ายทั่วไป แต่ยังรวมถึงการเตรียมตัวการจัดการเรื่องภาษี การทำงานในฐานะฟรีแลนซ์หมายความว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง ซึ่งต้องรับผิดชอบในเรื่องการจ่ายภาษี
ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ
1. ฟรีแลนซ์ อาชีพอิสระ ยื่นภาษียังไง?
2. ภาษีที่เหล่าฟรีแลนซ์ต้องจ่าย
6. เคล็ดลับเพิ่มค่าลดหย่อนภาษี สำหรับฟรีแลนซ์
1. ฟรีแลนซ์ อาชีพอิสระ ยื่นภาษียังไง?
อาชีพฟรีแลนซ์ (Freelance) หรือ อาชีพอิสระ คือการทำงานที่ไม่ได้มีภาระผูกพันกับนายจ้างหรือบริษัทใด ๆ กล่าวคือ ฟรีแลนซ์ทำงานมา ผู้จ้างจ่ายเงินไป เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการ โดยผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์นั้นมีหลากหลายสาขา โดยแต่ละงาน ฟรีแลนซ์จะได้รับค่าจ้างตามข้อตกลงที่ตั้งไว้กับลูกค้า ซึ่งรายได้ของฟรีแลนซ์จะไม่มีจำนวนที่แน่นอน อาจได้รับมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณงานที่รับ รวมทั้งความยาก-ง่าย ของงานนั้น ๆ
ฟรีแลนซ์ยื่นภาษี ไม่มีใบ 50 ทวิ เตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
ผู้ที่เป็นฟรีแลนซ์ ไม่มีใบ 50 ทวิ ยื่นภาษี สามารถจ่ายภาษีได้ โดยเตรียมหลักฐานยื่นภาษีดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี (กรณีมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรับเงินได้)
- หลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆ (ถ้ามี)
โดยสามารถยื่นภาษีได้หลากหลายช่องทางดังต่อไปนี้
- ยื่นภาษีด้วยตนเองที่สำนักสรรพากรพื้นที่
- ยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร
- ยื่นภาษีออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน
2. ภาษีที่เหล่าฟรีแลนซ์ต้องจ่าย
ด้วยความที่ไม่ใช่งานประจำ ไม่ได้มีรายรับคงที่เหมือนกับพนักงานบริษัท การจ่ายภาษีของเหล่าฟรีแลนซ์จึงแตกต่างออกไป แต่หลัก ๆ แล้ว อาชีพฟรีแลนซ์จะต้องจ่ายภาษีดังต่อไปนี้
ภาษีธุรกิจเฉพาะ
เป็นภาษีที่ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจ โดยผู้ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จะประกอบอาชีพอิสระในลักษณะของผู้ประกอบกิจการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
ตัวอย่างการประกอบกิจการที่ต้องจ่ายภาษีธุรกิจ
- ธุรกิจการธนาคาร
- ธุรกิจเงินทุน, ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
- ธุรกิจการรับประกันชีวิต
- ธุรกิจการรับจำนำ
- การประกอบกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ เช่นการให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน, การแลกเปลี่ยนเงินตรา ฯลฯ
- การขายอสังหาริมทรัพย์ในเชิงการค้าหรือหากำไร
อ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร > https://www.rd.go.th/306.html
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
เป็นภาษีที่เรียกเก็บตามมูลค่าของการซื้อ-ขายสินค้า หรือการให้บริการต่าง ๆ ในประเทศ รวมทั้งการนำเข้าสินค้า โดยปกติจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้บริโภคในจำนวนที่คิดเป็น 7% ของค่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ซึ่งฟรีแลนซ์ที่ต้องจ่ายภาษีนี้ คือผู้ที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี หรือเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือผู้ที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพ ซึ่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมจะถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภทเงินได้ โดยในกลุ่มของผู้ประกอบอาชีพเป็นฟรีแลนซ์จะจัดอยู่ในหมวดภาษีเงินได้ 40(2), 40(6) และ 40 (8) ที่จะอธิบายในลำดับถัดไป
3. การจ่ายภาษีเงินได้ 40(2) ของฟรีแลนซ์
เงินได้ประเภทที่ 2 หรือ 40(2) คือ เงินที่ได้รับจากตำแหน่งงานที่ทำ หรือการรับทำงานให้ตามคำสั่งว่าจ้าง โดยที่ผู้ว่าจ้าง (ผู้จ่ายเงิน) และผู้รับจ้างงาน (ผู้รับเงิน) ไม่ได้อยู่ในสถานะเจ้านาย-ลูกน้อง
ตัวอย่างอาชีพที่มีเงินได้ 40(2)
- รายได้จากค่านายหน้า ค่าคอมมิชชั่น
- อาชีพพิธีกร, Model, MC, พริตตี้ ตามงานจัดแสดงต่าง ๆ
- รายได้จากการรับรีวิวสินค้าตามโซเชียลมีเดีย
- อาชีพผู้ประกาศข่าว, นักจัดรายการวิทยุ, ผู้กำกับการแสดง
- อาชีพผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดง, ผู้จัดการทีมกีฬาและผู้ฝึกสอน
- อาชีพที่ปรึกษาด้านกฎหมาย, วิศวกร, สถาปนิก, บัญชี หรืออาชีพอื่นที่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพแพทย์/พยาบาล
- ผู้ว่าจ้างออกเงินค่าเช่าบ้านให้ หรือหาที่อยู่ให้โดยไม่เรียกเก็บค่าเช่า (ผู้ว่าจ้างที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ)
อ่านเพิ่มเติมที่เว็บไซต์กรมสรรพากร > https://www.rd.go.th/553.html
การหักภาษีเงินได้ 40(2) สำหรับฟรีแลนซ์
สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีเงินได้ประเภทที่ 2 จะสามารถหักภาษีได้โดยวิธีการ หักแบบเหมา 50% สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
วิธีคำนวณ
เงินได้ประเภทที่ 2 x 50% = ภาษีที่ต้องจ่าย (ไม่เกิน 100,000 บาท)
กรณีที่มีรายได้จากงานประจำด้วย (เงินได้ประเภทที่ 1) ก็สามารถนำมาคำนวณรวมกันแล้วหักจ่ายภาษีแบบเหมาได้ในคราวเดียว โดยจะหักได้สูงสุดที่ไม่เกิน 100,000 บาท
วิธีคำนวณ
(เงินได้ประเภทที่ 1 + เงินได้ประเภทที่ 2) x 50% = ภาษีที่ต้องจ่าย (ไม่เกิน 100,000 บาท)
4. การจ่ายภาษีเงินได้ 40(6) ของฟรีแลนซ์
เงินได้ประเภทที่ 6 หรือ 40(6) คือ เงินได้จากอาชีพที่จัดอยู่ในกลุ่มวิชาชีพอิสระ ซึ่งมีทั้งหมด 6 กลุ่มอาชีพด้วยกัน ดังนี้
อาชีพที่อยู่ในกลุ่มเงินได้ประเภทที่ 6
- อาชีพเกี่ยวกับวิชากฎหมาย
- อาชีพวิศวกรรม
- อาชีพสถาปัตยกรรม
- อาชีพการบัญชี
- อาชีพเกี่ยวกับงานประณีตศิลปกรรม
- อาชีพกลุ่มการประกอบโรคศิลปะ
การหักภาษีเงินได้ 40(6) ของฟรีแลนซ์วิชาชีพอิสระในกลุ่มประกอบโรคศิลปะ
ผู้ที่ประกอบอาชีพกลุ่มโรคศิลปะ หมายถึง อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการตรวจ, วินิจฉัยโรค, บำบัดโรค หรือการส่งเสริมและช่วยฟื้นฟูสุขภาพของคนป่วย เป็นวิชาชีพที่ต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงสามารถจะประกอบอาชีพได้ โดยการหักภาษีของผู้ที่ประกอบอาชีพกลุ่มโรคศิลปะ คือการหักแบบตามจริง โดยมีหลักฐานค่าใช้จ่ายยื่นประกอบการจ่ายภาษี และการหักแบบเหมา 60% ของค่าตอบแทนที่เรียกจากผู้ว่าจ้าง
วิธีคำนวณ
เงินได้ประเภทที่ 6 x 60% = ภาษีที่ต้องจ่าย
การหักภาษีเงินได้ 40(6) ของวิชาชีพที่ไม่ใช่การประกอบโรคศิลปะ
ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระในอีก 5 กลุ่ม ตามที่ระบุมาในข้างต้น ก็สามารถหักภาษีได้ 2 วิธีเช่นกัน คือการหักในจำนวนตามจริง และการหักแบบเหมา 30% ของค่าตอบแทนที่เรียกจากผู้ว่าจ้าง
วิธีคำนวณ
เงินได้ประเภทที่ 6 x 30% = ภาษีที่ต้องจ่าย
5. การจ่ายภาษีเงินได้ 40 (8) ของฟรีแลนซ์
เงินได้ประเภทที่ 8 หรือ 40(8) คือ รายได้จากการประกอบธุรกิจ, การพาณิชย์, การเกษตร, การขนส่ง, อุตสาหกรรม, การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการประกอบอาชีพอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในประเภทที่ 1 - 7
อาชีพที่อยู่ในกลุ่มเงินได้ประเภทที่ 8
- อาชีพนักแสดงสาธารณะ
- มีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
- มีเงินได้จากการเปิดร้านอาหารและเครื่องดื่ม
- มีเงินได้จากการเปิดให้บริการที่พักและโรงแรม
- เงินได้จากช่องทางอื่น ๆ
การหักภาษีเงินได้ 40(8) สำหรับฟรีแลนซ์
ฟรีแลนซ์ที่ยื่นภาษีในส่วนของภาษีเงินได้ประเภทที่ 8 จะหักจ่ายภาษีแบบเหมา เริ่มตั้งแต่ 40% - 60% ตามข้อกำหนดกำหนดของแต่ละอาชีพ หรือเลือกแบบหักตามจริง (ต้องมีหลักฐานการใช้จ่าย) โดยแต่ละอาชีพก็จะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการอนุญาตให้หักภาษีแบบเหมาจ่ายที่แตกต่างกันไป แอดขอแนะนำให้ลองตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
6. เคล็ดลับเพิ่มค่าลดหย่อนภาษี สำหรับฟรีแลนซ์
สำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่กำลังมองหาช่องทางการลดหย่อนภาษี เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แอดขอแนะนำเคล็ดลับในการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับฟรีแลนซ์ ผ่านวิธีต่าง ๆ ให้ลองนำไปเลือกใช้กันได้เลย ดังนี้
- เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่เข้าร่วมมาตรการ Easy E-Receipt จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ สูงสุด 15,000 บาท
- ฟรีแลนซ์ท่านใดที่ร่วมลงทุนกับกองทุนหรือการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ อย่าง RMF, SSF, TESG และประกันบำนาญ สามารถนำมาใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 150,000 บาท
- ฟรีแลนซ์ที่ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต สามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตมาใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม
- รู้ก่อนยื่น! e-tax invoice ลดหย่อนภาษี 2568 ใช้ยังไง ลดเท่าไหร่ มาดูกัน!
- รวม รายการลดหย่อนภาษี 2567 มีอะไรบ้าง เตรียมตัวก่อนเสียภาษี
การวางแผนการเงินที่ดีสำหรับฟรีแลนซ์จะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปี โดยการแยกเก็บเงินส่วนที่ต้องจ่ายภาษีไว้ในบัญชีต่างหาก เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ การศึกษากฎเกณฑ์ภาษีและการหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีก่อนที่ฟรีแลนซ์ยื่นภาษี ก็จะช่วยให้สามารถลดความเสี่ยงจากการโดนปรับหรือเสียภาษีเกินความจำเป็น การทำเช่นนี้จะช่วยให้การเงินของฟรีแลนซ์มีความยั่งยืนและไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 13/02/68