4 วิธีเตรียมตัวเป็นพ่อแม่มือใหม่ แบบไม่ต้องว้าวุ่น
หนึ่งในเรื่องราวที่น่ายินดีของคู่ชีวิต คือการได้เป็นพ่อแม่มือใหม่ ซึ่งอีกมุมของความน่ายินดี และตื่นเต้นที่จะมีสมาชิกใหม่ คือความกังวลในการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีต้อนรับลูกน้อยที่จะคลอดออกมาสู่โลกกว้าง ดังนั้นก่อนที่ลูกจะคลอด พ่อแม่ควรรู้เรื่องอะไรบ้างจะได้ไม่ต้องว้าวุ่น และสามารถเลี้ยงลูกได้อย่างราบรื่น ลดอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น เพิ่มมวลความสุขให้ครอบครัว และลูกน้อย หากพร้อมแล้วเรามาเตรียมตัวไปด้วยกันเลย
- เคล็ดลับ เริ่มต้นเตรียมตัวเป็นพ่อแม่มือใหม่
- คู่มือเลี้ยงลูกยังไงให้รอด และแฮปปี้
- เทคนิควางแผนการเงินเพื่อลูก
- เตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน เหตุไม่คาดฝันด้วยประกันชีวิต
เคล็ดลับ เริ่มต้นเตรียมตัวเป็นพ่อแม่มือใหม่
การเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดี ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะต้องค่อย ๆ เรียนรู้ ปรับตัว กับการใช้ชีวิตร่วมกันของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ และลูกน้อย เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี และมีความสุข ซึ่งจะมีจุดไหนบ้างที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเรามาเตรียมตัวไปพร้อม ๆ กัน
วางแผนแบ่งเวลาให้ลูก
เพราะเด็กอ่อนเป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กขวบปีแรก ยิ่งพ่อแม่ให้เวลากับลูกมากเท่าไหร่ แนวโน้มที่ลูกจะโตไปเป็นเด็กที่มีคุณภาพยิ่งมากเท่านั้น
ฝึกควบคุมอารมณ์
เด็กมีหลากหลายอารมณ์ และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีเท่าพ่อแม่ ดังนั้นพ่อแม่ต้องฝึกควบคุมอารมณ์ ใช้เหตุ และผล ไม่ควรใช้แต่อารมณ์ เพื่อลูกจะไม่กลายเป็นเด็กเจ้าอารมณ์ และก้าวร้าว แม้จะสร้างความปั่นป่วนชวนปวดหัวให้คุณก็ตาม
เติมความรู้การเลี้ยงดู
การเติบโตของลูกน้อยมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ โดยเฉพาะการเลี้ยงดู ที่พ่อแม่ต้องรับมือตามช่วงวัยที่แตกต่างตั้งแต่ทารก เด็กน้อยช่างสงสัย และสนใจในทุก ๆ เรื่องที่พบเจอ พ่อแม่ต้องหมั่นอัพเดตหาคำตอบมาให้ลูก ๆ คลายข้อสงสัย หรือบางครั้งอาจปล่อยให้ค้นคว้าหาคำตอบด้วยตัวเองก็เป็นเรื่องที่ดี
เตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น
พ่อแม่มือใหม่อาจเป็นกังวลกับการเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับลูก ว่าเพียงพอมั้ย หรือยังขาดอีก แนะนำว่าให้ค่อย ๆ ลิสต์รายการต่าง ๆ มาดูก่อนว่าอะไรที่จำเป็นสำหรับการต้อนรับลูกน้อยที่เตรียมจะมาอยู่ในอ้อมกอดของเรา ไม่ว่าจะเป็น เตียง ฟูก มุ้ง หมอน ผ้าปูที่นอน ขวดนม จุกนม ฝาครอบขวดนม อื่น ๆ เป็นต้น
คู่มือเลี้ยงลูกยังไงให้รอด และแฮปปี้ สำหรับพ่อแม่มือใหม่
อยากให้ลูกมีความสุข พ่อแม่ก็ต้องมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน เพราะนอกจากการเริ่มต้นเตรียมตัวเป็นพ่อแม่มือใหม่แล้ว การดูแลให้ลูกเติบโต มีความสุขก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นเรามาดูกันว่า เลี้ยงลูกยังไงให้รอด และแฮปปี้ ที่พ่อแม่คนไหนก็สามารถทำได้
เล่นกับลูกสร้างความสัมพันธ์
ถ้ามีคุณพ่อคุณแม่ร่วมเล่นด้วย จะช่วยพัฒนาความรักความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว นอกจากนี้การแสดงความรักต่อลูกด้วยการกอด หรือหอมแก้ม ก็จะทำให้ใกล้ชิดกับลูก และเพิ่มความอบอุ่นในครอบครัวยิ่งขึ้น
หาเวลาอ่านหนังสือกับลูก
การอ่านหนังจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูกแล้ว และยังเพิ่มความแน่นแฟ้นในครอบครัวได้ดีอีกด้วย
ให้ลูกสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน และคนรอบข้าง
การสร้างสัมพันธ์ถือเป็นพื้นฐานที่ดีในการดำเนินชีวิตสำหรับอนาคต เพราะช่วยให้ลูกอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้จักระเบียบวินัย รู้จักการแบ่งปัน ควบคุมอารมณ์ได้ดี และมีทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต
เป็นตัวอย่างที่ดี
คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็นอยู่เสมอ ๆ เพราะเด็กจะซึมซับจากพฤติกรรมที่ผู้ใหญ่แสดงออกมาโดยอัตโนมัติมากกว่าการสอนด้วยคำพูดใด ๆ
ชื่นชมเมื่อลูกทำสิ่งที่ดี
เมื่อลูกทำความดี หรือทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ควรให้คำชม และให้การสนับสนุน เพื่อให้เขาได้รู้ว่าคุณชื่นชมยินดีมากขนาดไหน
สังเกตพฤติกรรมลูกทั้งที่บ้าน และโรงเรียน
สังเกตพฤติกรรมของลูกหากวันไหนลูกดูซึม ๆ ไม่ร่าเริงเหมือนก่อน คุณพ่อคุณแม่ควรเข้าไปพูดคุยปรับทุกข์กับลูก ให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกว่าเขายังมีพ่อแม่อยู่ข้าง ๆ เสมอ
เทคนิควางแผนการเงินเพื่อลูก
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น
ในช่วงต้นของการมีลูกสำหรับพ่อแม่มือใหม่จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการฝากท้อง การไปพบหมอเพื่อตรวจครรภ์ ค่าใช้จ่ายในการคลอดลูก โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง 50,000 – 100,000 บาท ในช่วงเวลา 9 เดือน โดยประมาณ หรือมากกว่านั้น
ค่าใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์สำหรับเด็กแรกเกิด
สำหรับเด็กแรกเกิด ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมและเฉพาะสำหรับเด็ก เช่น เสื้อผ้าเด็ก ผ้าอ้อม นม และเครื่องอุ่นนม เปลนอน เครื่องอาบน้ำ อาหารสำหรับเด็ก เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะตกราว ๆ 30,000 – 50,000 บาท โดยประมาณ และจะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือนประมาณ 5,000 – 10,000 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของแต่ละครอบครัว
ค่าอาหารของลูก
อาหารของเด็กจะพิเศษกว่าผู้ใหญ่ พ่อแม่ต้องวางแผนกันเงินส่วนนี้ไว้ประมาณ 3,000 – 5,000 บาทต่อเดือนโโยประมาณ ซึ่งในส่วนนี้ยังไม่รวมค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วย หากไม่มีประกันสุขภาพค่าใช้จ่ายในส่วนของค่ารักษาพยาบาลจะสูงมาก รวมถึงค่าวัคซีนต่าง ๆ ที่ต้องฉีดให้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 ปี อีกด้วย
ค่าพี่เลี้ยงเด็ก
หากประเมินแล้วว่าไม่มีเวลาดูแลลูกในช่วงที่ต้องออกไปทำงาน และต้องการใช้บริการพี่เลี้ยง หรือเนิร์ดเซอรี่เด็ก พ่อแม่ควรกันเงินส่วนนี้ไว้เดือนละ 5,000 – 10,000 บาทต่อเดือนโดยประมาณ เพื่อให้ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีนั่นเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวว่าพอใจกับค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร
ค่าเรียนลูก
ค่าเทอมลูกเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ในช่วงอนุบาลจนจบชั้นประถมนั้น ลูกของเราต้องเรียนอย่างน้อย 9 ปี ตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดหากเรียนโรงเรียนรัฐบาลก็จะไม่มากเท่าไร แต่ถ้าลูกของเราจำเป็นต้องเรียนโรงเรียนเอกชน คุณพ่อคุณแม่อย่างเราต้องจ่ายเงินมากขึ้น และต้องจ่ายมากขึ้นไปอีกทั้งในชั้นประถม และมัธยม โดยค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปีตลอด 9 ปี ราว ๆ 20,000 – 50,000 บาท รวมตลอด 9 -10 ปี อยู่ราว ๆ 200,000 – 500,000 บาท (ยังไม่รวมอุปกรณ์การเรียน โรงเรียนที่เลือก และค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ)
ค่าประกันสุขภาพ
การทำประกันสุขภาพให้ลูกเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยง แม้ไม่ได้ช่วยเรื่องความเจ็บป่วย แต่ประกันสุขภาพจะสามารถช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาล พร้อมคุ้มครองทุกโรคอย่างครอบคลุม เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มาก เพราะอย่าลืมว่าค่ารักษาเมื่อเด็กเจ็บป่วยในปัจจุบันค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ค่าใช้จ่ายเสริม
สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนเสริมต่าง ๆ อันได้แก่ ค่าเดินทางท่องเที่ยว ของเล่นลูก ค่ายานพาหนะ ฯลฯ ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะขึ้นลงค่อนข้างกว้าง ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว ภายในระยะเวลา 10 ปี ประมาณ 500,000 – 1,000,000 บาท
เตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน เหตุไม่คาดฝันด้วยประกัน
นอกจากการวางแผนซื้อประกันสุขภาพให้กับลูกเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย หรือไม่สบายแล้ว พ่อแม่มือใหม่อย่าลืมว่าเรื่องราวไม่คาดฝัน หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นอาจเกิดขึ้นได้ทุกวินาที ดังนั้นวางแผนทางเลือกด้วยประกันชีวิตตลอดชีพ ส่งต่อความมั่นคงให้ลูกในวันที่เราจากไป มอบเป็นหลักประกันเงินล้านให้ลูกได้เรียนต่อ และมีเงินทุนไว้ต่อยอดความฝันในอนาคต เพื่อดูแลคนข้างหลังในวันที่จากไป…วางแผนชีวิตด้วยประกันชีวิตเพื่ออนาคตมั่นใจซึ่งถือเป็นหนึ่งในการวางแผนการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูก ๆ ที่น่ารัก
ประกันชีวิตเพื่ออนาคตมั่นใจ
✔️ ดูแลอนาคตของคนที่คุณรัก ด้วยหลักประกันที่มั่นคง
✔️ เลือกจ่ายเบี้ยสั้น หรือยาวก็ได้ คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี
✔️ จ่ายเบี้ยเริ่มต้นหลักร้อยต่อเดือน ส่งต่อหลักประกันเงินล้าน
✔️ แทนคำสัญญาจะดูแลกันตลอดไป
สามารถระบุ “คู่ชีวิต” เป็นผู้รับประโยชน์สำหรับประกันชีวิตได้
ประกันชีวิตเพื่ออนาคตมั่นใจ ส่งต่อหลักประกันให้คนที่คุณรักอย่างมั่นคง เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ซื้อวันนี้ ผ่อนเบี้ยสบ๊ายสบายนานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
☑️ โทร 1766 ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต หรือ สาขา ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และธนาคารกำหนด
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 9/10/66
🔖 Thairath ข้อมูล ณ วันที่ 13/010/61
🔖 Sanook ข้อมูล ณ วันที่ 5/05/63
🔖 Kapook ข้อมูล ณ วันที่ 18/09/66