Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

รู้ก่อนสาย! 10 สัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดสมอง ที่ไม่ควรมองข้าม

รู้ก่อนสาย! 10 สัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดสมอง ที่ไม่ควรมองข้าม

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke คือภาวะฉุกเฉินที่สามารถคร่าชีวิต หรือทำให้พิการถาวรได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แม้จะดูเหมือนเป็นโรคของผู้สูงวัย แต่ความจริงแล้วสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยหากมีปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง วันนี้จะพาคุณไปรู้จักโรคหลอดเลือดสมองให้มากขึ้น ตั้งแต่สาเหตุ สัญญาณเตือน วิธีประเมินอาการเบื้องต้น ไปจนถึงแนวทางป้องกัน และดูแลตัวเอง เพื่อให้คุณ และคนที่คุณรักห่างไกลจากโรคหลอดเลือดสมอง



 ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ




 โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร?


โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร? 


โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คือภาวะที่การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองหยุดชะงัก หรือลดลงอย่างกะทันหัน ทำให้สมองขาดออกซิเจน และสารอาหารที่จำเป็น ส่งผลให้เซลล์สมองเริ่มตายภายในไม่กี่นาที ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไร ความเสียหายต่อสมองก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น


โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต และความพิการทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดได้ในคนวัยทำงาน หรือแม้แต่ในวัยหนุ่มสาว หากมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างร่วมด้วย



ประเภทของโรคหลอดเลือดสมอง


  • ภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน หรือภาวะสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke)

ประมาณ 80% ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มักมีต้นตอมาจากหลอดเลือดที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการสะสมของไขมัน และหินปูนที่ผนังด้านในของหลอดเลือด เมื่อคราบเหล่านี้สะสมมากขึ้น จะทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว หนาตัว และเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้หลอดเลือดแคบลงจนการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากลิ่มเลือดที่หลุดมาจากหัวใจ หรือการฉีกขาดของผนังหลอดเลือด แล้วไหลมาอุดตันทางเดินเลือดในสมองอย่างเฉียบพลัน


  • ภาวะหลอดเลือดสมองแตก หรือภาวะเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic Stroke)

ภาวะนี้เกิดจากการที่หลอดเลือดในสมองเกิดการแตก หรือฉีกขาด ทำให้มีเลือดคั่งในเนื้อสมอง หรือบริเวณโดยรอบ ส่งผลให้เนื้อสมองถูกทำลายจากแรงดันของเลือด และสารเคมีต่าง ๆ ที่มากับเลือด ถือเป็นภาวะรุนแรงที่จัดการได้ยากกว่าการอุดตันของหลอดเลือด เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้อย่างรวดเร็ว


  • ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient Ischemic Attack: TIA)

มีอาการคล้ายโรคสมองขาดเลือด แต่มีอาการชั่วคราวมักเป็นไม่เกิน 24 ชั่วโมง ประมาณ 15% ของผู้ป่วยที่มีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว จะมีภาวะโรคหลอดเลือดสมองตามมาจึงถือเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องรีบมาโรงพยาบาล เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้



สาเหตุการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง


สาเหตุการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง


สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองแบ่งออกได้หลายปัจจัย ได้แก่


  • ความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดสมองตีบ หรือแตก


  • โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง ทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพเร็วขึ้น


  • ไขมันในเลือดสูง การสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือด (ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว) เพิ่มความเสี่ยงการอุดตัน


  • โรคหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ทำให้เกิดลิ่มเลือด และอาจลอยไปอุดตันหลอดเลือดสมอง


  • การสูบบุหรี่ นิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัว และเกิดการแข็งตัวของหลอดเลือด


  • ขาดการออกกำลังกาย และโรคอ้วน น้ำหนักเกินส่งผลต่อความดันโลหิต และระดับไขมันในเลือด


  • การบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงทั้งหลอดเลือดสมองตีบ และแตก


  • พันธุกรรม และอายุ อายุที่มากขึ้น และประวัติครอบครัวมีผลต่อความเสี่ยงเช่นกัน


โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะอันตรายที่สามารถป้องกันได้ หากรู้เท่าทันสาเหตุ และจัดการปัจจัยเสี่ยงตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น การควบคุมความดันโลหิต ดูแลน้ำหนัก ออกกำลังกาย และงดสูบบุหรี่ หากคุณ หรือคนใกล้ตัวมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินความเสี่ยง และรับการดูแลอย่างเหมาะสม



10 สัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดสมอง ที่ไม่ควรมองข้าม


10 สัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดสมอง ที่ไม่ควรมองข้าม


แม้โรคหลอดเลือดสมองจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ในหลายกรณี ร่างกายมักส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า หากรู้เท่าทัน และรีบไปพบแพทย์ได้ทันเวลา ก็สามารถลดความรุนแรงของโรค และเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้อย่างมาก โดยเฉพาะกับอาการเหล่านี้  ที่แม้ดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน แต่ล้วนเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม


1. พูดไม่ชัด หรือพูดไม่รู้เรื่อง มีปัญหาในการพูด สะกดคำผิด หรือฟังคนอื่นไม่เข้าใจ

2. ใบหน้าผิดรูปครึ่งซีก มุมปากตก หน้าผิดรูปเมื่อยิ้ม เป็นอาการบ่งชี้ว่ากล้ามเนื้อหน้าอ่อนแรง

3. แขน หรือขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง ยกแขนขึ้นแล้วแขนข้างหนึ่งตก ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้

4. มึนงง หรือสับสนฉับพลัน สติสับสน คิดไม่ออก จำอะไรไม่ได้ทั้งที่เมื่อกี้ยังปกติดี

5. การทรงตัวเสีย หรือเดินลำบาก รู้สึกเวียนหัว ทรงตัวไม่ได้ เดินเซ เหมือนจะล้ม

6. ปวดศีรษะรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดหัวแบบเฉียบพลัน และรุนแรงกว่าปกติ อาจร่วมกับอาเจียน หรือหมดสติ

7. มองเห็นภาพซ้อน หรือมองเห็นลดลง มองเห็นไม่ชัด เห็นภาพเบลอ หรือมองเห็นข้างเดียว

8. ชา หรือรู้สึกแปลก ๆ ที่แขน ขา หรือใบหน้า โดยเฉพาะถ้าอาการเกิดขึ้นเฉพาะข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย

9. เวียนศีรษะ หรือเสียการทรงตัวแบบเฉียบพลัน คล้ายบ้านหมุน ไม่มีแรงจะยืน

10. หมดสติ หรือซึมลงอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน เป็นสัญญาณของภาวะสมองขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน



 อาการโรคหลอดเลือดสมองแบบไหนต้องรีบพบแพทย์?


อาการโรคหลอดเลือดสมองแบบไหนต้องรีบพบแพทย์?


หากมีอาการเข้าข่ายโรคหลอดเลือดสมอง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หรือเกิดเป็นระยะ ๆ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาการเล็กน้อยในช่วงแรกอาจลุกลามจนรุนแรง และรักษายากขึ้น หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีอาการที่น่าสงสัย ลองใช้หลัก "FAST" ในการประเมินเบื้องต้น ซึ่งเป็นแนวทางง่าย ๆ ที่ช่วยสังเกตอาการได้อย่างรวดเร็ว:


  • F (Face) – ใบหน้า ลองให้ผู้ป่วยยิ้ม แล้วสังเกตว่ามีมุมปากตก หรือยิ้มไม่สมดุล หรือไม่
  • A (Arms) – แขน ให้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ หากแขนข้างใดข้างหนึ่งตก หรือไม่มีแรง แสดงถึงความผิดปกติ
  • S (Speech) – การพูด ลองให้พูดประโยคง่าย ๆ หากพูดไม่ชัด พูดติดขัด หรือฟังแล้วจับใจความไม่ได้ อาจเป็นสัญญาณเตือน
  • T (Time) – เวลา หากพบอาการผิดปกติแม้เพียง 1 ใน 3 ข้อนี้ มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 70%  แต่ถ้ามีครบทั้ง 3 อาการ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 85% ควรรีบพาไปโรงพยาบาลทันที เพราะยิ่งรักษาเร็วเท่าไร โอกาสฟื้นตัวก็จะมากขึ้น และลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสียหาย หรือพิการถาวรได้มาก



 วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองเบื้องต้น


วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองเบื้องต้น


  • ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดความดัน​
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงสูงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม และการออกกำลังกาย​
  • ลดไขมันในเลือด ไขมันในเลือดสูงสามารถนำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง และเพิ่มการบริโภคผักผลไม้​
  • งดสูบบุหรี่ และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง หยุดสูบบุหรี่ และเครื่องแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น​
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิต ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 5 วัน​
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ น้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม และการออกกำลังกาย​
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เลือกอาหารที่มีเส้นใยสูง และไขมันต่ำ ลดการบริโภคเกลือ น้ำตาล และไขมันอิ่มตัว​
  • จัดการความเครียด ความเครียดเรื้อรังสามารถเพิ่มความดันโลหิต และความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือการหากิจกรรมที่ชอบทำ​

  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ การตรวจสุขภาพประจำปีช่วยในการตรวจพบปัจจัยเสี่ยง และการเริ่มต้นการรักษาได้ทันท่วงที​


การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ การดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง


นอกจากนี้การวางแผนสุขภาพไว้ล่วงหน้าด้วยการมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุม ก็จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุไม่คาดคิด ค่ารักษาพยาบาลจะไม่เป็นภาระที่ต้องกังวลใจในอนาคต ด้วย ประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ดูแลค่ารักษา ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท เจ็บป่วยก็เบาใจกับค่ารักษา



รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ ติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต/ ช่องทางที่ดูแลท่าน


  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย


ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 30/04/68

🔖 โรงพยาบาลศิครินทร์ กรุงเทพ

🔖 rama.mahidol

🔖 siphhospital

🔖 phyathai

สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

บทความน่าสนใจ