Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

ไขมันในเลือดสูง อาการแสดงเป็นอย่างไร ห้ามกินอะไรและกินอะไรดี

ไขมันในเลือดสูง อาการแสดงเป็นอย่างไร ห้ามกินอะไรและกินอะไรดี

ไขมันในเลือดสูง เป็นหนึ่งในกลุ่มโรคไม่ติดต่อ (NCDs) โดยโรคกลุ่มนี้มักเกิดจากการสะสมของพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างไม่ระมัดระวังเป็นระยะเวลานาน จึงเป็นโรคยอดฮิตที่มีจำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงติดอันดับทั่วโลก นอกจากนี้ ไขมันในเลือดสูงยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ มากมายโดยเฉพาะกลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง (CADs) ทำให้หลายคนเริ่มตระหนักและหันมาสนใจการรักษาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินอาหาร การออกกำลังกาย หรือการพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคุมปริมาณและชนิดของไขมันในอาหาร นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยควบคุมและ ลดไขมันในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน วันนี้ทางเราจึงอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ไขมันในเลือดสูง จุดเริ่มต้นของโรคร้ายแสนอันตราย เพื่อให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจและเตรียมการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต


  1.  ไขมันในเลือดสูง คืออะไร

  2.  สาเหตุของไขมันในเลือดสูง

  3.  อาการบ่งชี้ไขมันในเลือดสูง

  4.  กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคไขมันในเส้นเลือดสูง

  5.  ไขมันในเลือดสูง อันตรายไหม

  6.  วิธีการรักษาและ ลดไขมันในเลือด

  7.  เป็นโรค ไขมันในเลือดสูง กินอะไรดี

  8. เป็นโรค ไขมันในเลือดสูง ห้ามกินอะไรบ้าง


ไขมันในเลือดสูง คืออะไร

ไขมันในเลือดสูง คืออะไร


ไขมันในเลือดสูง หรือ Hyperlipidemia คือภาวะที่ร่างกายมีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ โดยไขมันในเส้นเลือดจะประกอบไปด้วย


1. คอเลสเตอรอล (Cholesterol)

เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างได้เองจากตับและลำไส้ หรือได้รับบางส่วนจากอาหารที่กินเข้าไป พบมากในไขมันจากสัตว์ ทำหน้าที่ช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนและเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย โดยคอเลสเตอรอลที่สำคัญ มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ

- เอชดีแอล (Hight density lipoprotein-HDL) หรือที่เราเรียกว่า “ไขมันดี” ทำหน้าที่คอยดักจับไขมันที่เป็นส่วนเกินในเส้นเลือดแดงส่งไปยังตับ การมีไขมันชนิดนี้สูง จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจแดงตีบ หรือ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ได้ ในระดับปกติค่า HDL ที่พบในเพศชายจะต้องมากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ส่วนในเพศหญิงจะต้องมากกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

- แอลดีแอล (Low density lipoprotein-LDL) หรือบางคนอาจรู้จักในชื่อ “ไขมันเลว” ทำหน้าที่นำไขมันไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผ่านเส้นเลือดแดง การที่ร่างกายมี ไขมันในเลือดสูง เกินไป อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดเปราะและตีบแคบลง เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการหลอดเลือดแดงตีบหรือ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ซึ่งค่า LDL ในระดับปกติทั้งเพศชายและหญิง  ไม่ควรเกิน 100-130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร


2. ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides)

เป็นไขมันในร่างกายอีกชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หรือได้รับโดยตรงจากการกินอาหารประเภทไขมัน ไตรกลีเซอไรด์จะถูกร่างกายเก็บและสะสมไว้สำหรับเป็นพลังงานสำรอง แต่หากมีการสะสมที่มากเกินไปก็อาจก่อให้เกิด ไขมันในเลือดสูง ได้เช่นเดียวกัน โดยไตรกลีเซอไรด์ในระดับปกตินั้นจะต้องไม่เกิน 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ทั้งในเพศชายและหญิง


สาเหตุของ ไขมันในเลือดสูง

สาเหตุของไขมันในเลือดสูง


สาเหตุที่ทำให้ไขมันในเลือดสูงนั้นมีได้หลายปัจจัย แบ่งเป็น

สาเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตประจำวัน

- การกินอาหารผิดหลักโภชนาการ การกินอาหารถือเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิด ไขมันในเลือดสูง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่เกินความจำเป็นของร่างกาย กินอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูงมากเกินไป จนกระตุ้นให้ร่างกายสร้างไตรกลีเซอไรด์มากเกินความต้องการ หรือการกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง เช่น ไขมันจากสัตว์ กะทิ นม ไข่ เนย อาหาร fast food หรืออาหารทอดกรอบ จนทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น

- การสูบบุหรี่ หรือการสูดควันบุหรี่ โดยบุหรี่นั้นจะเข้าไปทำลายผนังหลอดเลือดแดง ทำให้มีโอกาสเกิดการสะสมของไขมันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บุหรี่ยังส่งผลให้ระดับ เอชดีแอล (Hight density lipoprotein-HDL) หรือไขมันดีในร่างกายลดลงอีกด้วย

- การดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและดื่มเป็นประจำ แอลกอฮอล์ เป็นกลุ่มเครื่องดื่มที่เมื่อกินเข้าไปร่างกายไม่ได้มีการนำไปใช้ประโยชน์ จึงถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของไขมันสะสมในร่างกาย 

- ขาดการออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อย การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ลดไขมันในเลือด หรือระดับคอเลสเตอรอลให้ลดลง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเอชดีแอล (Hight density lipoprotein-HDL) หรือไขมันดีในร่างกาย

สาเหตุที่เกิดจากโรคหรือภาวะอื่น ๆ 

- ภาวะน้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วน คือคนที่มีค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index: BMI) สูงตั้งแต่ 30 ขึ้นไป เกิดจากการที่ร่างกายมีการสะสมไขมันมากเกินกว่าปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญ จึงเสี่ยงต่อการเกิด ไขมันในเลือดสูง 

- โรคเบาหวาน เมื่อน้ำตาลในเลือดสูงจะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลกลุ่มแอลดีแอล (Low density lipoprotein-LDL) หรือไขมันเลวสูงขึ้น และเอชดีแอล (Hight density lipoprotein-HDL) หรือไขมันดีในร่างกายลดลง อีกทั้งยังมีส่วนในการทำลายเยื่อบุหลอดเลือดแดง

- ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic ovarian syndrome: PCOS) มีผลทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง

- โรคไต ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมักมีระดับคอเลสเตอรอลกลุ่มแอลดีแอล (Low density lipoprotein-LDL) หรือไขมันเลวสูง 

 - ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ระดับฮอร์โมนที่ต่ำจะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงและเกิด ไขมันอุดตันในเส้นเลือด 

- ความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ อาจส่งผลให้เกิดความบกพร่องของระบบเผาผลาญไขมัน

- อายุ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นประสิทธิภาพในการกำจัดแอลดีแอล (Low density lipoprotein-LDL) หรือไขมันเลวของตับจะทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่คอเลสเตอรอลในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น 

 - ผลจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านอักเสบ ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด โดยยากลุ่มนี้จะทำให้ทั้งระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น หากกินเป็นประจำอาจก่อให้เกิด ไขมันในเลือดสูง


อาการบ่งชี้ ไขมันในเลือดสูง

อาการบ่งชี้ ไขมันในเลือดสูง


โดยปกติไขมันในเลือดสูงไม่ได้มีอาการที่บ่งชี้โรคได้อย่างชัดเจน ทราบได้จากการตรวจเลือดวัดระดับไขมันเท่านั้น จึงค่อนข้างสังเกตอาการได้ยาก ส่วนใหญ่จะสังเกตได้จากอาการภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยเฉพาะอาการภาวะหลอดเลือดตีบตัน เช่น เจ็บหน้าอกนานกว่า 20 นาที เหงื่อออก ตัวเย็น คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด เป็นลม หายใจหอบ หายใจไม่พอ หายใจสั้น  ปวดจุกท้องบริเวณลิ้นปี่ ปวดร้าวขึ้นไปที่กรามหรือไหล่


กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค ไขมันในเลือดสูง

 กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค ไขมันในเลือดสูง


  • ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำและต่อเนื่อง
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
  • ผู้ที่ป่วยหรือมีประวัติเป็นโรค ดังนี้
    • โรคเบาหวาน
    • โรคตับอ่อน
    • โรคไต
    • ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
    • ภาวะพร่องไทรอยด์
    • ภาวะท่อน้ำดีอักเสบ
    • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
    • โรคหัวใจ
    • โรคอ้วน
  • ผู้ที่รับประทานยา ดังนี้
    • ยาต้านอักเสบ
    • ยาในกลุ่มสเตียรอยด์
    • ยาคุมกำเนิด
    • ยาขับปัสสาวะ
    • ยาต้าน HIV


ดังนั้น หากใครมีความกังวล หรือมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็น ไขมันในเลือดสูง ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและทำการรักษาที่ถูกวิธีต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่อาจส่งผลร้ายต่อชีวิตของตนเอง


 ไขมันในเลือดสูง อันตรายไหม

 ไขมันในเลือดสูง อันตรายไหม


ส่วนที่เป็นอันตรายมากที่สุดของไขมันในเลือดสูง ส่วนใหญ่จะเกิดจากการสะสมของคราบไขมันที่เกาะผนังหลอดเลือดแดง ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงตีบหรือ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด จนนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนและโรคต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น

- โรคเหลอดเลือดสมองตีบ เกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดน้อยลง

- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เกิดจากการสะสมของคอเลสเตอรอลหรือสารอื่น ๆ ภายในหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดตีบหรือเกิด ไขมันอุดตันในเส้นเลือด จนปิดกั้นการไหลเวียนของกระแสเลือด หากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดกระแสเลือดและออกซิเจนไปยังหัวใจ อาจก่อให้เกิดภาวะหัวใจวายหรืออันตรายต่อชีวิตได้

- ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน มักเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจากการสะสมของไขมันและหินปูน ทำให้หัวใจมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ จนนำไปสู่การเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต หรืออาจร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตได้

- หลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน เกิดจาก ไขมันอุดตันในเลือดสูง จนกีดขวางการไหลเวียนของเลือดที่จะถูกส่งไปยังหัวใจและสมอง

- ไตวาย ไขมันในเลือดสูง อาจจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ก่อให้เกิดภาวะไตวาย แต่ก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงเกิดไตวายเร็วขึ้น

- ไขมันพอกตับ ตับมีหน้าที่ในการสร้างและกำจัดไขมันในเส้นเลือด หากมี ไขมันในเลือดสูงมากเกินกว่าที่ตับจะกำจัดออกไปได้หมด อาจทำให้ไขมันเหล่านั้นเกิดการสะสมที่ตับ จนกลายเป็นไขมันพอกตับในที่สุด ซึ่งหากเป็นไขมันพอกตับในระยะเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะตับแข็งและตับวายได้


วิธีการรักษาและ ลดไขมันในเลือด

วิธีการรักษาและ ลดไขมันในเลือด


สำหรับการรักษา ไขมันในเลือดสูง แพทย์อาจรักษาด้วยการให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกับการรับประทานยา เนื่องจากไขมันในเลือดสูงมักเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคเป็นส่วนใหญ่ โดยสามารถปรับพฤติกรรมเพื่อ ลดไขมันในเลือด ได้ดังนี้


ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และกระตุ้นการสร้าง เอชดีแอล (Hight density lipoprotein-HDL) หรือไขมันดีในร่างกาย ซึ่งทำหน้าที่นำไขมันออกจากเซลล์และส่งไปยังตับเพื่อทำการย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกาย อีกทั้งการเพิ่มไขมันเอชดีแอลจะช่วยลดโอกาสการเกิดไขมันสะสม (Plaque) ภายในหลอดเลือดได้ โดยสามารถเริ่มออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ 


ปรับพฤติกรรมการกิน

  • จำกัดปริมาณหรือลดการกินไขมันอิ่มตัว ไขมันอิ่มตัวพบมากในเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดง เนื้อสัตว์แปรรูป และผลิตภัณฑ์จากนม
  • เลี่ยงการกินอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์ ไขมันทรานส์ส่วนใหญ่มาจากน้ำมันพืชที่เติมไฮโดรเจนเพื่อให้น้ำมันคงตัวและเก็บได้นานขึ้น
  • เพิ่มโอเมก้า 3 (Omega 3) โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งสามารถช่วยเพิ่ม เอชดีแอล (Hight density lipoprotein-HDL) หรือไขมันดีในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอลกลุ่มแอลดีแอล (Low density lipoprotein-LDL) หรือไขมันเลว และไตรกลีเซอไรด์ที่เป็นกลุ่มไขมันที่ส่งผลให้ ไขมันในเลือดสูง อีกด้วย
  • เพิ่มใยอาหารชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) ซึ่งไฟเบอร์ชนิดนี้จะช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด
  • เพิ่มการกินอาหารประเภทโปรตีนให้เพียงพอ โปรตีนมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายและช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง การได้รับโปรตีนที่เพียงพอควบคู่กับการออกกำลังกายในระยะยาว นอกจากช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยเผาผลาญพลังงานและไขมันในร่างกาย ส่งผลให้ ลดระดับไขมันในเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดไขมันในเลือดสูง ได้อีกด้วย แต่การปรับเพิ่มหรือลดอาหารนั้นควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสอดคล้องกับสภาพร่างกาย โรคหรือภาวะแทรกซ้อน และวิถีชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล


งดสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลกลุ่มแอลดีแอล (Low density lipoprotein-LDL) หรือไขมันเลวเพิ่มขึ้น และทำให้เอชดีแอล (Hight density lipoprotein-HDL) หรือไขมันดีในร่างกายลดลง


งดดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากและดื่มเป็นประจำ จะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น อีกทั้งกระบวนการในการกำจัดแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายลดการเผาผลาญไขมันลง หากต้องการ ลดไขมันในเลือด จึงควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ


ฝึกจัดการความเครียด

ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) มารับมือเมื่อเกิดความเครียด ซึ่งในผู้ที่มีความเครียดสะสม อาจส่งผลให้ร่างกายผลิตคอเลสเตอรอลกลุ่มแอลดีแอล (Low density lipoprotein-LDL) หรือไขมันเลวได้ การจัดการกับความเครียดจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วย ลดไขมันในเส้นเลือด ได้ดี โดยสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เช่น การหากิจกรรมที่ช่วยในการผ่อนคลาย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาควบคู่กับการปรับพฤติกรรมเพื่อประสิทธิภาพในการ ลดไขมันในเส้นเลือด ได้ดียิ่งขึ้น


เป็นโรค ไขมันในเลือดสูง กินอะไรดี

เป็นโรค ไขมันในเลือดสูง กินอะไรดี


ไขมันในเลือดสูง กินอะไรดี เป็นคำถามที่หลายคนกำลังมองหาคำตอบ เพราะการเลือกกินอาหารนับเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยควบคุมและ ลดไขมันในเลือด ให้อยู่ในระดับปกติ โดยอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีภาวะ ไขมันในเลือดสูง จะแบ่งเป็น


สำหรับผู้ที่คอเลสเตอรอลสูง

  • เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หรือติดหนัง
  • ปลา โดยเฉพาะปลาทะเล
  • ไข่ขาว
  • น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (Polyunsaturated Fatty Acid-PUFA) ในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันข้าวโพด เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอล
  • นำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monosaturated Fatty Acid-MUFA) ในการประกอบอาหารเพื่อช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เช่น น้ำมันคาโนลา น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วลิสง หรืออาจรับประทานไขมันนี้ในรูปแบบอื่น เช่น ถั่วลิสง เนยถั่ว ถั่วเปลือกแข็ง ก็ได้เช่นเดียวกัน
  • ธัญพืชไม่ขัดสี หรือขัดสีน้อย เช่น ข้าวโอ๊ตที่เป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) ที่สามารถช่วยในเรื่องการลดระดับของคอเลสเตอรอลได้
  • ผักและผลไม้ ควรรับประทานเป็นประจำ หากเป็นผู้ป่วยเบาหวาน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงปริมาณผลไม้ที่เหมาะสมต่อวัน
  • ถั่วหรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว
  • ดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนมชนิดพร่องมันเนยหรือขาดไขมัน


สำหรับผู้ที่ไตรกลีเซอไรด์สูง

  • ธัญพืชและผลิตภัณฑ์จากธัญพืชไม่ขัดสีหรือขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต
  • ผลไม้ ไม่หวานจัดและมีกากใยอาหารสูง
  • สามารถกิน ข้าว แป้ง เผือก หรือคาร์โบไฮเดรตได้ในปริมาณที่พอเหมาะ
  • เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น ปลา เนื้อไก่ส่วนอก เนื้อหมูไม่ติดมัน
  • ขนมหวานสามารถกินได้ แต่ต้องไม่หวานจัดหรือมีแป้งน้อย เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาล เต้าฮวย  อีกทั้งยังควรกินในปริมาณที่พอเหมาะและไม่ควรกินบ่อย


 เป็นโรค ไขมันในเลือดสูง ห้ามกินอะไรบ้าง

 เป็นโรค ไขมันในเลือดสูง ห้ามกินอะไรบ้าง


ผู้ที่มีภาวะ ไขมันในเลือดสูง อาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของอาหาร เพราะการกินที่ไม่ถูกหลักโภชนาการอาจจะยิ่งทำให้ไขมันในร่างกายสะสมมากยิ่งขึ้น โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหรืองดสำหรับผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง แบ่งเป็น


สำหรับผู้ที่คอเลสเตอรอลสูง

  • เนื้อสัตว์ติดมัน ติดหนัง เช่น แคปหมู ปีกไก่ หมูสามชั้น
  • เครื่องในสัตว์ เช่น สมอง ตับ กระเพาะ
  • ไข่แดงของสัตว์ เช่น ไข่ปลา มันกุ้ง ไข่ไก่ ควรกินไม่เกิน 3 ฟองต่อสัปดาห์
  • น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง (Saturated Fatty Acid) ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ
  • อาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น เนย มาการีน ขนมอบ หรือขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ 


สำหรับผู้ที่ไตรกลีเซอไรด์สูง

  • ขนมรสหวานจัด เช่น ขนมไทย
  • ขนมอบหรือขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมปังไส้หวาน
  • ผลไม้รสหวานจัดหรือน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน ลำใย ละมุด น้อยหน่า ขนุน
  • หลีกเลี่ยงหรือลดการใช้น้ำตาลในการปรุงอาหาร
  • แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
  • อาหารทอดต่าง ๆ เช่น ปาท่องโก๋ ไข่เจียว กล้วยแขก
  • อาหารที่มีกะทิ เช่น แกงกะทิต่าง ๆ หรือขนมที่มีส่วนผสมของกะทิ


ไขมันในเลือดสูง นับเป็นภัยเงียบที่อาจส่งผลร้ายต่อชีวิต การลดความเสี่ยงด้วยการควบคุมพฤติกรรม ทั้งในเรื่องการกิน การพักผ่อน และการออกกำลัง นับเป็นเรื่องที่ส่งผลดีในระยะยาว เพราะการดูแลสุขภาพถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคน


เลือกความคุ้มครองได้ตามต้องการแบบคุ้มๆ เหมาะกับทุกช่วงวัย ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย 

วงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท


🛡️ ครอบคลุมโรคร้าย โรคมะเร็ง โรคไต รักษาด้วยการฟอกไต และเคมีบำบัดรักษามะเร็ง โดยไม่ต้องแอดมิต*

🩺 ผ่าตัดเล็กใหญ่ก็เหมาค่าห้องผ่าตัด ค่าห้อง ICU สูงสุด 365 วัน*

👓 อายุรับประกันสูงสุด 90 ปี ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี

💊 ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย


รายละเอียดเพิ่มเติม 

☑️ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ สนใจติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา


*ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบอีลิท เฮลท์ พลัส

  • เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด


ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 17/10/6

🔖 bumrungrad

🔖 bangkokpattayahospital

🔖 samitivejhospitals.

🔖 vibharam

🔖 bangkokpattayahospital

🔖 Bangpakok Hospital 

🔖 med

สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

บทความน่าสนใจ