Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

รับมือกับโรคเครียด อาการใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม

รับมือกับโรคเครียด อาการใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม

ด้วยภาระหน้าที่ และปัญหาที่ต้องจัดการในแต่ละวัน จึงทำให้หลาย ๆ คน อาจกำลังเผชิญกับโรคเครียด การใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ ถูกกดดันด้วยเวลาอันจำกัดในแต่ละวันอาจทำให้สะสมความเครียดไม่รู้ตัว จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างเช่นภาวะเครียดลงกระเพาะ เครียดจนอ้วก และอาการข้างเคียงอื่น ๆ หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจ บทความนี้จะขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับอาการเหล่านี้ เพื่อรับมือกับความเครียด และจัดการกับมันได้อย่างอยู่หมัด


1. โรคเครียด ภาวะเครียด เป็นยังไง เกิดจากอะไร?

2. ประเภทของความเครียด

3. อาการเครียดสะสม สังเกตได้จากอะไร?

4. เครียดลงกระเพาะ อาการเป็นยังไง ดูแลอย่างไร?

5. อาการเครียดลงกระเพาะ จัดการอย่างไร?

6. แนะนำวิธีคลายเครียด เพิ่มความสบายใจ


ภาวะเครียด เกิดจากอะไร?

1. รู้จัก โรคเครียด ภาวะเครียด เกิดจากอะไร อาการเป็นยังไง?


โรคเครียด (Adjustment Disorder) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังจากการเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดเป็นเวลานาน หรือเผชิญกับความกดดัน ความคาดหวังที่สูง จนเกิดความรู้สึกวิตกกังวล หรือบางคน อาจเจอกับเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีการตอบสนองต่อความเครียดที่แตกต่างกันตามช่วงวัยและประสบการณ์


ปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลกระทบกับความสมดุลของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด (Stress Hormone) ที่หลั่งออกมาเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีความพร้อมต่อการทำงานและการรับมือกับปัญหาต่าง ๆ แต่ถ้ามีความเครียดสะสม หรือมีการใช้ร่างกายอย่างหนักโดยไม่พักผ่อน ก็จะทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลเริ่มสูงขึ้น จนเกินพอดี และเริ่มส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย


อาการที่พบในผู้มีภาวะเครียด

  • ปวดศีรษะ ปวดตามร่างกาย
  • รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน เครียดจนอ้วก
  • รู้สึกใจสั่น เหงื่อออกง่าย
  • รู้สึกหายใจไม่เต็มปอด
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไร
  • ท้องไส้ปั่นป่วน อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย
  • เบื่ออาหาร
  • เจ็บป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • นอนไม่หลับ
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ง่าย
  • ไม่มีสมาธิ
  • รู้สึกสิ้นหวัง ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง


สาเหตุของความเครียด


ลักษณะการใช้ชีวิต


ความเครียด อาจเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิต หรือพฤติกรรมที่กระตุ้นให้มีอาการของโรคเครียด เช่น การดื่มเหล้า, สูบบุหรี่, นอนน้อยติดต่อกันหลายวัน, บริโภค Junk Food บ่อย, ทานอาหารไม่ตรงเวลา, ไม่ออกกำลังกาย, ไม่ทานอาหารที่มีประโยชน์ ฯลฯ พฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และเริ่มเห็นได้ชัดเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น


สภาพแวดล้อม


การใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการผ่อนคลายจิตใจ อย่างเช่น สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่เป็นชุมชนแออัด, มีมลพิษทางเสียง, พื้นที่สกปรก ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้อาจไปกระตุ้นให้เกิดความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเครียดโดยไม่รู้ตัว และการอาศัยอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่ชอบกดดัน หรือมีความเครียดสูง ก็จะส่งผลให้เกิดความเครียดตามไปด้วย


ภาระหน้าที่/การงาน


คนที่ต้องแบกรับภาระหน้าที่หลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการหารายได้เพื่อจุนเจือครอบครัว ชำระหนี้สิน หรือต้องทำงานภายใต้แรงกดดันสูง ก็อาจทำให้การใช้ชีวิตดูรีบเร่ง ตึงเครียด และไม่มีเวลาที่จะได้พักผ่อนกายใจอย่างเต็มที่ การใช้ชีวิตในแต่ละวันจึงเต็มไปด้วยความเครียดและความกังวล


ความสัมพันธ์


มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและต้องการการยอมรับ เพราะฉะนั้น เรื่องของความสัมพันธ์ จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว, ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน, ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน, ความสัมพันธ์กับคนรัก หรือความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น ๆ ล้วนมีผลต่อความรู้สึก หากใครให้ค่ากับความสัมพันธ์ไหนมาก ๆ แล้วเกิดปัญหา เกิดการกระทบกระทั่งกัน ก็อาจก่อให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และถ้าไม่ได้มีการปรับความเข้าใจ หรือไม่สามารถปล่อยวางความรู้สึกได้ จนดูเหมือนดูเป็นคนที่เครียดตลอดเวลา ก็อาจสะสมเป็นภาวะเครียดไม่รู้ตัวได้


ค่านิยมทางสังคม


ต้องบอกเลยว่าค่านิยมทางสังคมและไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ ก็มีส่วนที่กระตุ้นความรู้สึกของใครหลาย ๆ คน บางคนอาจมองว่าเป็นความบันเทิง เป็นแรงบันดาลใจ แต่สำหรับบางคน ค่านิยมเหล่านี้อาจไปทำให้เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง มีการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ แล้วมีความรู้สึกในเชิงลบกับตนเองและสิ่งรอบข้าง หากปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกเหล่านี้เป็นเวลานาน ก็อาจสะสมเป็นโรคเครียด อารมณ์รุนแรง และเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมาได้


2. ประเภทของความเครียด


อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ความเครียด (Stress) เกิดขึ้นได้จากหลากปัจจัย หลายสาเหตุ และเมื่อคนเรารู้สึกเครียดหรือกังวลติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะสะสมและกลายเป็นโรคเครียดได้ แต่ในบางกรณี ความเครียดที่เกิดขึ้น ก็สามารถบรรเทาลงได้เมื่อเวลาผ่านไป โดยในทางการแพทย์ ได้มีการแบ่งประเภทของความเครียดออกมาได้ดังต่อไปนี้


Acute stress


ความเครียดที่เกิดขึ้นทันที จากสถานการณ์ตรงหน้า และร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียดนั้นได้ทันที เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกเครียดจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ร่างกายก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม


Episodic acute stress


ความเครียดที่เกิดขึ้นหลายครั้ง หรือเกิดติดต่อกัน เช่น เกิดความกังวลจากปัญหาสุขภาพ หลังจากนั้นได้เจอกับเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ ได้รับความกดดันจากที่ทำงาน จนทำให้เกิดภาวะเครียดหรือวิตกกังวล จนรู้สึกเร่งรีบและใจร้อน


Chronic stress


เป็นภาวะความเครียด ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง จนกลายเป็นความเครียดสะสม หากปล่อยไว้นาน ๆ อาจกลายเป็นความเครียดเรื้อรัง ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตด้วย


3. ลองเช็ก อาการเครียดสะสม สังเกตจากอะไร?


บางคนอาจเจอกับเหตุการณ์หรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเครียดมาก ๆ จนส่งผลกับร่างกาย และมีปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ลองมาสังเกตตัวเองกันหน่อย เพราะคุณอาจกำลังเป็นภาวะเครียดสะสม หรือเครียดไม่รู้ตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการดังต่อไปนี้


  • นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หรือนอนหลับไปแล้วแต่มักจะตื่นขึ้นมากลางดึก เรียกได้ว่ากระทบกับพฤติกรรมการนอนหลับ จนทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • รู้สึกเบื่อชีวิต ไม่มีแรงจูงใจในการใช้ชีวิต ไม่อยากพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับใคร รู้สึกเศร้าหมอง ไม่มีความสุข และความต้องการทางเพศลดลง บางรายอาจมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ง่าย ควบคุมความรู้สึกไม่ได้ เรียกได้ว่ากระทบกับสภาวะทางอารมณ์ และมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่เปลี่ยนไป
  • สัญญาณโรคเครียดที่ออกมาจากร่างกาย เช่น หัวใจเต้นเร็ว, หายใจหอบถี่ขึ้น หรือรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง หายใจไม่สะดวก ในบางรายอาจมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ หรือเครียดจนอ้วก



เครียดลงกระเพาะ อาการเป็นอย่างไร


4. เครียดลงกระเพาะ อาการเป็นยังไง? เป็นแล้วดูแลยังไง?


มาต่อกันที่อาการ เครียดลงกระเพาะ เป็นอีกหนึ่งอาการที่พบมากในกลุ่มคนที่มีภาวะเครียด ซึ่งมันก็คืออาการลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ อาการเครียดลงกระเพาะ นั่นเอง


เครียดลงกระเพาะ เกิดจากการที่ความเครียดไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่ำลง กระทบไปถึงส่วนของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ จึงส่งผลให้สมดุลของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารเปลี่ยนไป ทำให้กล้ามเนื้อหลอดอาหารหดเกร็ง กระเพาะอาหารหลั่งกรดย่อยออกมาในปริมาณมากจนเกินพอดี จึงทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน


สัญญาณบอกอาการเครียดลงกระเพาะ


  • ปวดท้องจุกเสียด แสบชายโครง - รู้สึกปวดท้อง จุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ หรือช่วงเยื้องซ้ายใต้ชายโครง (ช่วงกระเพาะอาหาร)
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย - เกิดจากร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ จึงทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย รู้สึกหมดพลังงาน
  • อยากกินของหวาน - เมื่อเกิดภาวะเครียด จะเริ่มรู้สึกอยากอาหาร โดยเฉพาะพวกของหวาน เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลก็จะกระตุ้นให้มีความสุขมากขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง


5. อาการเครียดลงกระเพาะ เป็นแล้วจัดการอย่างไร?


  • เลี่ยงการทานอาหารรสเผ็ดจัด อาหารที่มีรสเปรี้ยว และของหมักดอง เพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะ
  • เลี่ยงอาหารขยะ ของมัน ของทอด เพราะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและแป้ง ซึ่งใช้เวลาย่อยนาน เสี่ยงท้องอืด
  • เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ ชา ชาเขียว เนื่องจากคาเฟอีนจะไปกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว นอนไม่หลับ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปกระตุ้นกรดในกระเพาะ และทำให้มึนเมา ขาดสติ
  • หากลองปรับพฤติกรรมการกินอาหารแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของอาการ และจ่ายยารักษาได้อย่างตรงจุด โดยแพทย์อาจจ่ายเป็นยาลดกรด, ยาแก้คลื่นไส้, ยาขับลม หรือยาอื่น ๆ ที่ตรงตามอาการของแต่ละคน


วิธีคลายเครียด รับมือกับอาการเครียด

6. บอกต่อวิธีคลายเครียด เพิ่มความสุขกายสบายใจ



สำหรับใครที่รู้สึกว่าตอนนี้กำลังมีความเครียด กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวลใจ หรืออยู่ระหว่างเยียวยาจิตใจหลังผ่านเรื่องราวสะเทือนใจ บทความนี้จะขอบอกต่อวิธีคลายเครียดที่คุณสามารถทำตามได้ง่าย ๆ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะพาคุณออกจากความรู้สึกเหล่านั้นได้ ลองเริ่มจากวิธีที่มองว่าทำง่าย ใกล้ตัวที่สุดก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนมาลองแบบใหม่ ๆ เชื่อว่าจะช่วยผ่อนคลายจิตใจให้กับคุณได้ มาทำตามวิธีต่อไปนี้ได้เลย


ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว


เช่นการจัดบ้านใหม่ จัดโต๊ะทำงานใหม่ หรือการทำความสะอาดบ้าน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยผ่อนคลาย ระหว่างที่กำลังทำความสะอาดหรือจัดระเบียบสิ่งของนั้นก็เหมือนได้ใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จึงทำให้ไม่ต้องนึกถึงเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียด และการที่ทำให้สิ่งของรอบตัวสะอาดและเป็นระเบียบ ก็จะช่วยเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจ และคลายเครียดได้ดีเลยทีเดียว


ปรับความคิด เปลี่ยนมุมมอง


คิดอย่างมีเหตุผล บางเรื่อง บางปัจจัยก็เป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วรู้จักปล่อยวางให้เป็น ไม่มุ่งโทษตัวเองหรือคนอื่น แต่จัดการในสิ่งที่ควบคุมได้จะดีกว่า


คิดในแง่บวก


มองหาสิ่งดี ๆ ในเรื่องที่เกิดขึ้น ค้นหาข้อดีของตนเอง และคนอื่น ชื่นชม ให้กำลังตัวเองและคนรอบข้าง เมื่อบรรยากาศรอบข้างแวดล้อมไปด้วยความรู้สึกที่เป็นพลังงานเชิงบวก ก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจได้อีกด้วย เมื่อคนเรามีความมั่นใจ และเคารพในตนเอง ก็จะไม่สั่นคลอนไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต


ใช้เวลากับสิ่งที่ชอบ


เหน็ดเหนื่อยกับเรื่องต่าง ๆ มามากพอแล้ว ลองให้เวลากับสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง ซึ่งแต่ละคนก็มีความชื่นชอบและความสนใจที่แตกต่างกัน ลองหาเวลาว่างมาใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่ชื่นชอบ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นสิ่งที่มีสาระ อาจเป็นการไปดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ไปเที่ยวห้าง ไปถ่ายรูปที่คาเฟ่ ทานอาหารเมนูโปรด หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่สนใจก็ได้


ใช้เวลาอยู่กับคนที่รัก


หากรู้สึกเหงา ลองหาเวลาพูดคุยกับครอบครัว แลกเปลี่ยนมุมมอง หรือนัดพบปะเพื่อนฝูง กลุ่มคนที่เรารู้สึกไว้วางใจ สามารถพูดคุยปรึกษาได้


สำหรับใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญกับความเครียด และไม่ต้องการให้เกิดความเครียดสะสมจนมีอาการของโรคเครียดที่ทำลายสุขภาพ ขอแนะนำให้ดูแลสุขภาพร่างกาย หมั่นหาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายความคิด ลองนำวิธีคลายเครียดจากบทความนี้ไปปรับและทำตามกันดู


และหากรู้สึกว่าตนเองใช้เวลาอยู่กับความเครียดหรือความเศร้ามานานเกินไป แม้จะลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำตามคำแนะนำหลาย ๆ อย่างแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้น ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะความเครียดของคุณอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ก็เป็นไปได้


อย่าลืมดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ ให้สดชื่น สดใส ห่างไกลความกังวล ลองหาตัวช่วยเป็นเพื่อนคู่คิดดี ๆ ด้วย ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล


ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท


Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)

D Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)

เหมาจ่าย Extra แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)


รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต


(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง(4) สำหรับผู้

เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง (แผน Top Up ความคุ้มครอง) และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

(5) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

(6) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี


  • เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
    สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย


ที่มา: สืบค้น ณ วันที่  03/10/67


🔖 โรงพยาบาลวิภาวดี
🔖 โรงพยาบาลกรุงเทพ
🔖 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
🔖 โรงพยาบาลมนารมย์
🔖 โรงพยาบาลบางปะกอก1
🔖 โรงพยาบาลศิครินทร์


สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

บทความน่าสนใจ