Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

ทำไมกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ หรือจะไม่สบาย ? พร้อมวิธีแก้

ทำไมกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ หรือจะไม่สบาย ? พร้อมวิธีแก้

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ อาการที่หลายคนมองข้าม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพจุดเล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก ทอนซิลอักเสบ คออักเสบ โควิด 19 หรือ แม้แต่การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และบางครั้งอาการเจ็บคออาจมาพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ หรือปวดหูจนทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ซึ่งอาการเจ็บคอเหล่านี้เกิดจากอะไรได้บ้าง ? และมีวิธีการรักษา หรือช่วยบรรเทาอาการอย่างไร เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน



สาเหตุของอาการ กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ


1. สาเหตุของอาการ กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ

เจ็บคอจนกลืนน้ำลายลำบาก ปัญหาที่สร้างความรำคาญใจให้ใครหลาย ๆ คน จนเกิดความกังวลใจว่าจะเริ่มไม่สบายแล้วรึเปล่านะ โดยอาการเจ็บคอแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ทานอาหารได้น้อยลงและไม่อร่อยแล้ว ยังส่งผลต่อการพูดคุย และการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เราเจ็บคอจนกลืนน้ำลายลำบากมาจากอะไรบ้าง? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน



  • การติดเชื้อไวรัส (เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสโควิด 19)

    • เชื้อไวรัสมักทำให้เกิดอาการเจ็บคอร่วมกับอาการอื่น เช่น ไข้ น้ำมูกไหล และไอ โดยจะแสดงอาการเจ็บคอเร็วกว่าการติดเชื้อแบคทีเรีย หลังจากได้รับเชื้อมาแล้วอาจแสดงอาการใน 3-5 วัน การเจ็บคอแบบนี้จะไม่มีเสมหะในช่วงแรก รักษาตามอาการ


  • การติดเชื้อแบคทีเรีย (เช่น สเตรปโตคอคคัส)

    • เชื้อแบคทีเรียบางชนิดสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บคอรุนแรง มีเสมหะ ไม่สบายตัวร่วมกับต่อมน้ำเหลืองบวม และไข้ได้ โดยอาการฟักเชื้อจนถึงแสดงอาการของโรคอาจจะนานกว่าการติดเชื้อจากไวรัส สังเกตเห็นได้ว่าคอแดง และอาจมีอาการไอร่วมด้วย 


  • โรคกรดไหลย้อน (GERD)

    • กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่ลำคอ ทำให้เกิดอาการแสบคอและเจ็บเวลากลืน หรือระคายคอตลอดเวลา โดยเฉพาะในตอนเช้า จะรู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดี รสเปรี้ยวของกรดในคอ เรอบ่อย คลื่นไส้ คล้ายมีอาหาร หรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมา


  • อาการแพ้ (Allergies)

    • การแพ้ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ หรือสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ รวมถึงสารเคมีบางชนิด เมื่อร่างกายได้รับสารที่แพ้เข้าไปแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยสารฮิสตามีนออกมา ซึ่งสามารถทำให้เยื่อบุในลำคอบวม และระคายเคือง ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บคอเมื่อต้องกลืนน้ำลาย


  • การบาดเจ็บ หรือการระคายเคืองในลำคอ

    • การกลืนสิ่งแปลกปลอม หรือการระคายเคืองจากการสูบบุหรี่ หรือการสัมผัสกับสารเคมีที่ระคายเคือง สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บคอเมื่อต้องกลืนน้ำลายได้


  • เนื้องอกในลำคอ

    • แม้จะพบได้น้อย แต่เนื้องอกในลำคออาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอเรื้อรัง และควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์


วิธีแก้ไข หรือ วิธีบรรเทาอาการ เมื่อกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ


2. วิธีแก้ไข หรือ วิธีบรรเทาอาการ เมื่อกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ


ในการบรรเทาอาการเจ็บคอ สามารถทำได้ด้วยหลายวิธีที่ช่วยลดการอักเสบและอาการระคายเคืองดังนี้


  • น้ำเกลือ: กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นผสมเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำ 1 แก้ว จะช่วยลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ควรกลั้วคอทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง หรือตามต้องการเพื่อบรรเทาอาการ​
  • ชาอุ่น ๆ เช่น ชาดอกคาโมมายล์: ชานี้มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ และลดการระคายเคืองในคอ การดื่มชา หรือสูดดมไอน้ำจากชาสามารถช่วยให้คอรู้สึกสบายขึ้นได้​
  • น้ำผึ้ง และมะนาว: ผสมน้ำผึ้ง และมะนาวในน้ำอุ่น ดื่มเพื่อช่วยเคลือบคอ และลดอาการเจ็บคอ เนื่องจากน้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในคอได้ดี​
  • แอปเปิลไซเดอร์: ผสมแอปเปิลไซเดอร์กับเกลือ และน้ำอุ่นเพื่อนำมากลั้วคอ ซึ่งสามารถช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บคอได้ แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากแอปเปิลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง
  • ใช้ยาอมหรือยาพ่นแก้เจ็บคอ: ยาอมแก้ไอก็เป็นที่นิยม และมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ถ้าอยากให้ได้ผลดีก็ควรเลือกที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ทำให้เย็นคอ อย่างเช่น เมนทอล หรือยูคาลิปตัส 


ความแตกต่างระหว่างคออักเสบ และทอนซิลอักเสบ


3. ความแตกต่างระหว่างคออักเสบ และทอนซิลอักเสบ


  • ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis)

ทอนซิลอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัส สาเหตุหลักที่พบได้บ่อยในผู้ป่วย โดยอาการที่พบคือ เจ็บคออย่างรุนแรง ร่วมกับไข้สูง หนาวสั่น และกลืนอาหาร หรือน้ำลายลำบาก ในบางกรณีอาจสังเกตเห็นจุดขาว หรือเหลืองที่คล้ายหนองปกคลุมบริเวณต่อมทอนซิล และอาจมีอาการเจ็บร้าวไปถึงหู ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในกรณีที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทั้งนี้ อาการทอนซิลอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่​ อาการที่พบส่วนใหญ่มีดังนี้


    • ไข้สูงหนาวสั่น หรือไข้ต่ำ 
    • ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว อาจมีตาแดง
    • คลำและกดเจ็บบริเวณต่อมน้ำเหลืองด้านหน้าลำคอส่วนบนโตทั้งสองข้าง


  • คออักเสบ (Pharyngitis)

คออักเสบ อาการอักเสบของเนื้อเยื่อในลำคอ อาจเกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ทำให้คอแห้ง เจ็บคอ และกลืนลำบาก อาจจะพบได้มากในช่วงที่อากาศเริ่มหนาวเย็น อย่างฤดูฝน และฤดูหนาว โดยช่องทางที่เป็นเหตุให้เชื้อเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายก็สามารถเป็นได้หลายอย่าง แต่ที่พบได้มากมักจะเป็นเชื้อที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศ และเข้าสู่ร่างกายผ่านทางการหายใจ หรือบางครั้งอาจเป็นการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง


ไม่อยาก เจ็บคอ ต้องดูแลร่างกายอย่างไร


4. ไม่อยาก เจ็บคอ ต้องดูแลร่างกายอย่างไร


หากคุณมีอาการเจ็บคอ การดูแลตนเองเพื่อบรรเทาอากาสามารถทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้


  • พักผ่อนให้เพียงพอ และอาจจะต้องพักมากกว่าปกติ
  • ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
  • พยายามดื่มน้ำให้มาก ๆ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำจากเนย นม หรืออาหารทอด มัน เพราะจะทำให้เกิดเสมหะมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการคัน และระคายเคืองคอได้
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลมาก เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองคอได้เช่นกัน


เจ็บคอ แบบไหนควรไปพบแพทย์

  • เจ็บคอมาก คอแดง ร่วมกับมีไข้
  • เจ็บคอ ร่วมกับหายใจและกลืนลำบาก 
  • เจ็บคอและมีอาการปวดหู ปวดศีรษะ
  • เจ็บคอ เสียงแหบ มีเลือดปนเสมหะ หรือน้ำลาย


กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ อาจเกิดจาก คออักเสบ หรือทอนซิลอักเสบ หรือเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับสุขภาพของเรา ดังนั้นการดูแลสุขภาพตัวเองเบื้องต้นจะสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรักษาที่ถูกต้อง พร้อมมองหาประกันสุขภาพไว้ก่อนที่จะเจ็บป่วย หรือไม่สบาย เพราะประกันสุขภาพจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และให้คุณใช้ชีวิตได้อุ่นใจด้วย ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ทำไว้ตอนที่สุขภาพดี ได้รับความคุ้มครองเต็มที่


เลือกวงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท


🛡️ครอบคลุมโรคร้าย โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ  โรคมะเร็ง โรคไต รักษาด้วยการฟอกไต และเคมีบำบัดรักษามะเร็ง โดยไม่ต้องแอดมิต* 

🩺 ผ่าตัดเล็กใหญ่ ก็เหมาค่าห้องผ่าตัด ค่าห้อง ICU สูงสุด 365 วัน*

👓 อายุรับประกันสูงสุด 90 ปี ดูแลคุณสูงสุดถึงอายุ 99 ปี

💊 ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย

พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท หรือถ้าซื้อให้พ่อแม่ก็ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท


รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ สนใจติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา


*ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบอีลิท เฮลท์ พลัส


  • เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด


ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 7/11/67

🔖rama.mahidol

🔖Thairath

🔖kapook

🔖​theAsianparent

🔖pobpad


สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

บทความน่าสนใจ