วิธีตรวจโรคหัวใจด้วยตัวเอง เมื่อหัวใจส่งสัญญาณเตือน ต้องรีบเช็ก!
โรคหัวใจเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เพราะจะเห็นได้จากข้อมูลสถิติของ กระทรวงสาธารณสุข ปี 2565 พบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 7 หมื่นราย หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คนเลยทีเดียว ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ที่สำคัญหากเราไม่คอยสังเกตสุขภาพหัวใจ ก็อาจทำให้ได้รับการรักษาช้าจนถึงขั้นวิกฤตได้ เพราะโรคหัวใจจะมีอาการที่ค่อนข้างคลุมเครือ ทำให้หลายคนมองข้าม ดังนั้น การรู้จักสังเกตอาการเตือนของโรคหัวใจหรือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และเพื่อให้ทุกคนสามารถดูแลสุขภาพหัวใจได้อย่างทันท่วงที แอดมีวิธีตรวจโรคหัวใจด้วยตัวเองได้อย่างไร และวิธีสังเกตอาการเตือนโรคหัวใจ ที่เราสามารถเช็กได้ด้วยตัวเอง ตามมาดูกันเลย
3. วิธีสังเกตอาการของโรคหัวใจ ตรวจด้วยตัวเองได้
1. โรคหัวใจคืออะไร
โรคหัวใจ หรือ Heart Disease คือกลุ่มของโรคที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ ซึ่งทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อหัวใจทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ จึงทำให้โรคหัวใจมีอาการต่างกันไปในแต่ละชนิดดังนี้
- โรคหลอดเลือดหัวใจ เกิดจากไขมันไปอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ
- โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าในหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ช้า หรือไม่สม่ำเสมอ
- โรคลิ้นหัวใจ เกิดจากลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ อาจตีบหรือรั่ว
- กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ ไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้ดี
- โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เกิดจากความผิดปกติของหัวใจตั้งแต่เกิด
- โรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เช่น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ โรคหลอดเลือดใหญ่โป่งพอง ฯลฯ
หัวใจอยู่ข้างไหน
หัวใจแบ่งเป็น 4 ห้อง มีลิ้นหัวใจคอยควบคุมการไหลเวียนของเลือด มีขนาดเท่ากำปั้น ค่อนไปทางซ้ายเล็กน้อย ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหาร
2. สาเหตุของโรคหัวใจ
โรคหัวใจมีสาเหตุหลากหลาย ทั้งปัจจัยที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ โดยปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ ที่นำไปสู่โรคหัวใจ ได้แก่
ปัจจัยที่ควบคุมได้
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
- สูบบุหรี่ นิโคตินในบุหรี่ทำลายหลอดเลือดหัวใจ
- อาหาร การกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง จะทำให้เกิดการสะสมตามผนังหลอดเลือดหัวใจ
- ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดความแข็งแรง กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ
- น้ำหนักเกิน เพราะโรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ
- ความเครียด หากเกิดความเครียดเรื้อรัง ก็จะส่งผลต่อระบบประสาทและหัวใจ
โรคประจำตัว
- ความดันโลหิตสูง จะทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบ
- โรคเบาหวาน ทำให้หลอดเลือดเสื่อมและอุดตันง่าย
- ไขมันในเลือดสูง เมื่อไขมันไปเกาะที่ผนังหลอดเลือด ก็จะทำให้หลอดเลือดตีบ
ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
- อายุ อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพ
- เพศ ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้หญิงก่อนหมดประจำเดือน
- พันธุกรรม ประวัติครอบครัวที่มีคนเป็นโรคหัวใจ
โรคหัวใจที่พบบ่อย
- สำหรับโรคหัวใจยอดฮิตที่พบบ่อยนั้นมีดังนี้
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เกิดจากไขมันไปอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ
- โรคหัวใจวาย เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดไม่พอต่อความต้องการของร่างกาย
- โรคลิ้นหัวใจ เกิดจากลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ
- โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าในหัวใจ
3. วิธีสังเกตอาการของโรคหัวใจ ตรวจด้วยตัวเองได้
อาการของโรคหัวใจนั้นหลากหลาย และขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค มาดูกันว่า 10 อาการเตือนโรคหัวใจ ที่เราควรระวังและรีบไปพบแพทย์นั้นมีอะไรบ้าง
- เจ็บแน่นหน้าอก อาการคลาสสิกของโรคหลอดเลือดหัวใจ มักรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับหรือบีบแน่นบริเวณกลางหน้าอก อาจร้าวไปที่แขนซ้าย คอ หรือกราม
- เหนื่อยง่าย รู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ แม้ทำกิจวัตรประจำวัน
- หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ทัน หรือรู้สึกหายใจไม่เต็มปอด
- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
- เวียนหัว มึนงง เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
- บวม บวมที่เท้า ข้อเท้า หรือขา
- ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- หน้ามืด หรือเป็นลม เกิดจากความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว
- นอนราบไม่ได้
- ไอเรื้อรังแห้ง ๆ
ซึ่งอาการเหล่านี้ อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ นอกจากโรคหัวใจได้ ดังนั้น หากใครมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง ไม่ควรปล่อยให้มีอาการนาน
4. วิธีป้องกันโรคหัวใจ
การเป็นโรคหัวใจนั้นสามารถควบคุมและจัดการได้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้อย่างมาก มาดูวิธีการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจเบื้องต้นกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
- รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนจากปลา ถั่ว และลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอลสูง น้ำตาล และโซเดียม
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอและควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
- ควบคุมน้ำหนัก รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- เลิกบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำลายหลอดเลือดหัวใจ
- ควบคุมความดันโลหิต ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดการกินเค็ม
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากเป็นเบาหวาน ควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่
- ควบคุมระดับไขมันในเลือด ใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
- ลดความเครียด หาทางผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือฟังเพลง
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- ไปพบแพทย์ตามนัด ตรวจสุขภาพเป็นประจำ และรับยาตามที่แพทย์สั่ง
เพราะโรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ทั้งทั่วโลกและในไทย ใครที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ จึงควรสังเกตอาการตัวเองว่าเข้าข่ายเสี่ยงหรือไม่ หรืออาจไปรับการตรวจโรคหัวใจฟรี ตามสถานที่ที่มีโครงการตรวจฟรีก่อน เพื่อเช็กอาการตัวเองเบื้องต้น พร้อมวางแผนเสริมความมั่นใจด้วย ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต #เพราะชีวิตทุกวัยมันเจ็บป่วย ป่วยเล็กป่วยใหญ่ ช่วงวัยไหนก็ป่วยได้ไม่ช็อตฟีล
ปล่อยจอยค่ารักษาเพราะมีประกันสุขภาพดูแลให้แบบเหมา ๆ ตั้งแต่ 2 แสน - 100 ล้านบาท
✅ Elite Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษา ดูแลให้ทั้ง IPD และ OPD(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 157 บาท(2)
✅ D Health Plus คุ้มครองค่ารักษา 5 ล้านบาท(3) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุก รพ. เบี้ยวันละไม่ถึง 38 บาท(4)
✅ เหมาจ่าย Extra แอดมิตเข้า รพ. ดูแลค่ารักษาเหมาจ่าย 5 แสนบาท(5) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(6)
รายละเอียดเพิ่มเติม
☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต
(1) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 40, 75 หรือ 100 ล้านบาท
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุ 50 ปี แผน 20 ล้านบาท พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(3) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 5 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง
(4) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท มีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง (แผน Top Up ความคุ้มครอง) และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
(5) กรณีเลือกความคุ้มครองแผน 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(6) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 34 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 09/09/67