Loading...

กำลังโหลดหน้าเว็บไซต์
รอสักครู่น้า Loading...

Thumbnail มะยงชิด Cover 800x500

ชวนชิม มะยงชิด ผลไม้ดับร้อนยอดฮิต วิตามินสูง

เมื่อฤดูร้อนมาเยือน ก็ถึงเวลาที่หลายคนต้องแอบมองหาผลไม้ที่ช่วยดับร้อนกันแล้ว และ “มะยงชิด” ก็เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ใคร ๆ ก็ต้องหามากินเลยก็ว่าได้ ด้วยรสชาติที่หวานละมุนผสมกับความเปรี้ยวนิด ๆ ที่ทำให้มะยงชิดกลายเป็นผลไม้โปรดประจำฤดูร้อนที่ไม่ว่าใครก็ต้องหลงรัก! ไม่เพียงแค่นั้น ผลไม้ชนิดนี้ยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายมากกว่าที่คุณคิด! อย่าพลาด! มาเปิดโลกของมะยงชิดไปด้วยกันดีกว่า รับรองว่าอ่านแล้วจะต้องตกหลุมรักเลย!



ยาวไปเลือกอ่านตามหัวข้อได้นะ


1. มะยงชิด คือผลไม้อะไร?

2. มะยงชิด กับ มะปราง ต่างกันยังไง?

3. ประโยชน์ของมะยงชิด

4. มะยงชิด น้ำตาลเยอะไหม



มะยงชิด คือผลไม้อะไร?


1. มะยงชิด คือผลไม้อะไร?

มะยงชิด เป็นผลไม้รูปทรงรีหรือกลมปลายเรียว มีเปลือกบางสีเขียวขณะดิบ และจะค่อย ๆ กลายเป็นสีเหลืองเมื่อสุกเต็มที่ หากรับประทานตอนสุกแล้วจะมีรสชาติที่หวานฉ่ำผสมความเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อผลไม้มีความแน่น เนื้อกรอบแต่ฉ่ำน้ำ รับประทานง่าย



ผลไม้หน้าร้อนอย่างมะยงชิดนั้น เป็นผลไม้ที่ปลูกมากในภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศไทย หากถามว่ามะยงชิดผลออกเดือนไหน โดยส่วนมากมักเติบโตได้ดีในฤดูร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดที่มีอากาศร้อนและชื้นในช่วงฤดูร้อน จึงเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่หาทานง่ายในช่วงหน้าร้อน


เนื่องจากเป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่ายและได้รับความนิยมมากในช่วงหน้าร้อน หลาย ๆ คนจึงมีการสร้างสรรค์เมนูมะยงชิดออกมาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเมนูของหวานดับร้อนอย่างมะยงชิดปั่น, โยเกิร์ตมะยงชิด, มะยงชิดลอยแก้ว หรือเมนูแซ่บ ๆ อย่างยำมะยงชิด ก็เป็นไอเดียเมนูมะยงชิดที่น่าสนใจไม่น้อยเลย



2. มะยงชิด กับ มะปราง ต่างกันยังไง?



2. มะยงชิด กับ มะปราง ต่างกันยังไง?

สำหรับหลาย ๆ คนที่มองเผิน ๆ ภายนอกแล้ว มะยงชิดและมะปรางนั้นจะมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีความแตกต่างที่สังเกตได้ดังนี้


  • ลักษณะผล มะยงชิดจะมีขนาดผลที่เล็กกว่า ส่วนมะปรางจะมีรูปทรงที่กลมหรือแป้น
  • สีของผลเมื่อสุก มะยงชิดจะมีสีเหลืองหรือเหลืองอมส้มเมื่อสุก ส่วนมะปรางจะมีสีเขียวอมเหลืองเมื่อสุก
  • รสชาติ เมื่อผลสุกเต็มที่มีความหวานอมเปรี้ยวใกล้เคียงกัน แต่มะยงชิดจะมีความหวานมากกว่า
  • เนื้อสัมผัส มะยงชิดจะมีความกรอบฉ่ำน้ำ ส่วนมะปรางจะมีเนื้อที่แน่นและกรอบกว่า เนื้อหนากว่า




ประโยชน์ของมะยงชิด



3. ประโยชน์ของมะยงชิด

มะยงชิดไม่เพียงแต่จะเป็นผลไม้รสชาติเปรี้ยวอมหวานที่ช่วยดับร้อน แต่ยังแฝงไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพมากมาย ดังต่อไปนี้




เบต้าแคโรทีนสูง ต้านอนุมูลอิสระ

เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ คือสารต้านอนุมูลอิสระที่มาจากผัก-ผลไม้ที่มีสีเหลืองและส้ม ในมะยงชิดปริมาณ 100 กรัม จะมีปริมาณเบต้าแคโรทีนอยู่กว่า 200 ไมโครกรัม โดยสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงให้หัวใจ หลอดเลือด รวมทั้งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคร้ายอย่างโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์



วิตามินซีสูง เสริมภูมิต้านทาน

วิตามินซี เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของภูมิต้านทานโรค ช่วยให้ระบบเลือดแข็งแรง ป้องกันหวัด ลดความเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย ลดความเสี่ยงอาการของโรคต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการขาดวิตามินซี เช่น โรคเลือดออกตามไรฟัน โดยในมะยงชิดปริมาณ 100 กรัม จะมีปริมาณวิตามินซีอยู่ที่ประมาณ 25 มิลลิกรัม



วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา

วิตามินเอ เป็นวิตามินประเภทละลายในไขมัน เป็นวิตามินที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง ต้องมาจากอาหารที่รับประมานเท่านั้น ซึ่งวิตามินเอ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ลดปัญหาตาไวต่อแสง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดปัญหาผิวแห้ง, ผิวหยาบ รวมทั้งมีส่วนช่วยในการเสริมภูมิต้านทานโรคอีกด้วย



แคลเซียมและฟอสฟอรัส

แคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน กระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดเลือดแดง เพื่อเสริมสมดุลที่ดีให้กับร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงโรคที่เกี่ยวกับกระดูก




เพิ่มความสดชื่น

รสชาติเปรี้ยวอมหวานของมะยงชิด เมื่อทานแล้วจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่ร่างกายต้องการความสดชื่น การได้ทานผลไม้สดที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานแบบนี้จะช่วยได้




อ่านบทความน่ารู้ เกี่ยวกับประโยชน์ของผลไม้อื่น ๆ เพิ่มเติม




มะยงชิด น้ำตาลเยอะไหม



4. มะยงชิด น้ำตาลเยอะไหม

แม้จะบอกว่าเป็นผลไม้รสชาติเปรี้ยวอมหวานที่มีปริมาณสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่ในขณะเดียวกัน มะยงชิดก็ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง โดยการบริโภคมะยงชิด 100 กรัม หรือประมาณ 2-3 ลูก จะมีปริมาณน้ำตาล 13 กรัม ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง และนับเป็น 81% ของปริมาณน้ำตาลที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน (ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 16 กรัม/วัน หรือ 4 ช้อนชา)





ในความหวานฉ่ำของมะยงชิดก็แฝงไปด้วยน้ำตาลที่หากบริโภคมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ในอนาคต เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น หากต้องการทานมะยงชิดอย่างอร่อยและดีต่อสุขภาพ ควรทานในปริมาณที่พอดี จะได้ไม่เสี่ยงปัญหาสุขภาพในภายหลัง



และในช่วงหน้าร้อนนี้ นอกจากการกินผลไม้ที่ให้ความสดชื่นแล้ว การดูแลสุขภาพอย่างสมดุลก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ และทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมรับมือกับอากาศร้อน ๆ ไปได้อย่างสดชื่นและมีสุขภาพดี



ทานอาหารให้อร่อย ใช้ชีวิตให้สนุก เรื่องดูแลยกให้ ประกันสุขภาพ จากเมืองไทยประกันชีวิต เป็นเพื่อนคู่ใจคอยเคียงข้างคุณ ด้วยความคุ้มครองที่คุ้มค่า เบี้ยประกันราคาโดนใจ





รายละเอียดเพิ่มเติม

☑️ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

☑️ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิต




โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย





ที่มา สืบค้น ณ วันที่ 12/03/2568

🔖stkc
🔖PPTV



สนใจแบบประกัน

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นของข้าพเจ้าเพื่อติดต่อข้าพเจ้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ ข้าพเจ้าสนใจหรือที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ ข้าพเจ้าได้โดยข้าพเจ้าให้ถือเอาการทำเครื่องหมาย ในช่องสี่เหลี่ยมเป็นการแสดงเจตนา ยินยอมของข้าพเจ้าแทน การลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

บทความน่าสนใจ